ศรีสะเกษ 9 ก.พ. – กรมอุทยานแห่งชาติฯ จับกุมชาย 3 คนนำอาวุธปืนเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก โดยหนึ่งในนั้นเป็นตำรวจ คาดเตรียมล่าสัตว์ ส่ง สภ.ขุนหาญ ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า รวมทั้ง พ.ร.บ. อาวุธปืน
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (สบอ. 9) (อุบลราชธานี) ว่า เจ้าหน้าที่สายตรวจส่วนกลางร่วมกับศูนย์จัดการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ที่ 4 (ซำปิกา-ภูพะยอม) ได้จับกุมชาวไทย 3 รายซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นตำรวจ นำอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก บริเวณป่าด้านทิศตะวันตกพนมอ้ายนาก (ลำห้วยทา) ทับซ้อนเขตป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าฝั่งขวาห้วยศาลา” อยู่ในท้องที่ ตำบลห้วยจันทร์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ คาดว่าเข้าไปเพื่อล่าสัตว์
เจ้าหน้าที่ตรวจยึดของกลางได้ดังนี้
- อาวุธปืนเดี่ยวลูกซองยาว ยี่ห้อ ERAWAN GRADE SHOTGUN ขนาด 12 เกจ ขนาดความยาวพานท้ายปืนถึงปลายกระบอกปืน 120 ซม. 1 กระบอก
- อาวุธเดี่ยวลูกซองยาว BELGIUM SHOTGUN MODE 1200 DELUXE หมายเลขปืน กท. 206467 ขนาด 12 เกจ ขนาดความยาวพานท้ายปืนถึงปลายกระบอกปืน 123 ซม. 1 กระบอก
- อาวุธปืนแก๊ป(ไทยประดิษฐ์) ขนาดความยาวพานท้ายปืนถึงปลายกระบอก 123 ซม. 1 กระบอก
- กระสุนปืนลูกซอง ขนาด 12 เกจ 2 นัด
- ดินดำ 1 กระปุก
- ลูกตะกั่ว 1 กระปุก
- ใยมะพร้าว
- ดอกแก๊ป 1 กระปุก
- ไฟฉายแบบคาดศรีษะ 1 ดวง
- มีดปลายแหลม 3 เล่ม
- ตาข่ายดักปลา 1 ผืน
- เปลนอน 2 ผืน
- กระเป๋าสะพายข้างสีดำ 1 ใบ
คณะเจ้าหน้าที่นำตัวผู้กระทำความผิด พร้อมของกลางส่งสภ. ขุนหาญ โดยแจ้งกล่าวหาในการกระทำผิดกฎหมาย ดังนี้
- ผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 53 ฐาน “เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
- ผิดพระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน
ทั้งนี้กรมอุทยานแห่งชาติฯ กำชับให้หน่วยงานในสังกัดเข้มงวดในการลาดตระเวนเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดต่อทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าอย่างเข้มงวด ตามข้อสั่งการของนายเฉลิมชัยสีอ่อนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทุกหน่วยงานทำงานในเชิงรุกด้านการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าและล่าสัตว์ป่า.512-สำนักข่าวไทย