ดับไฟป่า​ “เขาลอย” หมดแล้ว​ เฝ้าระวัง​ต่อเนื่อง​อีก​ 2 วัน

นครราชสีมา​ 12 ม.ค.-กรมป่าไม้ ​ยังคง​เฝ้า​ระวัง​การปะทุของไฟที่ป่าสงวน​แห่งชาติ​ “เขาลอย” หลังจาก​เย็น​วานนี้ระดมดับไฟทั้งทางอากาศ​และ​ภาคพื้น​ได้​ทุกจุด​ จนท.พบปลอกกระสุนปืนบริเวณที่เกิดไฟไหม้ รวมทั้งกับดักสัตว์ป่า คาดเผาเพื่อต้อนสัตว์ป่าสำหรับล่า

นายบรรณรักษ์​ เสริม​ทอง​ รองอธิบดี​กรมป่าไม้​กล่าว​ว่า​ เย็นวานนี้สามารถ​ดับไฟ​ป่าที่ไหม้ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหินหรือที่เรียกว่า เขาลอย ท้องที่ ตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาได้หมดทุกจุด​ โดยระดมดับทั้งทางอากาศ​และ​ภาคพื้น ตลอดทั้งคืน​ ไม่พบไฟไหม้​เพิ่ม​เติม​ เช้า​นี้โดรนบรรทุกน้ำของสมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ ขึ้นบินเพื่อทิ้งน้ำให้แน่ใจว่า​ ไฟที่ไหม้ขอนไม้​ดับสนิท​ พร้อมกัน​นี้​จัดชุดเจ้าหน้าที่เหยี่ยวไฟ กรมป่าไม้ เสือไฟ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุพืช ทหาร พัน ร. มทบ.21 ค่ายสุรนารี เฝ้าระวังต่อเนื่องไปอีกจนมั่นใจว่า​ ไม่ประทุขึ้นอีก พร้อมทั้งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาสัมพันธ์ ชาวบ้านให้ทราบและไม่จุดไฟเผาป่า


ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า พบปลอกกระสุนปืน ขนาด 0.22 มม. จำนวนหนึ่ง รวมทั้งพบกับดักสัตว์ป่า อยู่บริเวณที่เกิดเหตุจึงสันนิษฐานว่า อาจเป็นการเผาเพื่อต้อนสัตว์ป่าสำหรับล่า

สำหรับเหตุการณ์ไฟป่าบริเวณ “เขาลอย” เริ่มต้น วันที่ 3 มกราคม 2568 โดยมีรายงานเกิดเหตุไฟป่าในพื้นที่ด้านหลังวัดอุดมสุข ศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่านครราชสีมา (กรมป่าไม้) ส่งกำลังเข้าไปควบคุมจนสามารถดับได้แล้วเสร็จในช่วงมืดของวันดังกล่าว มีพื้นที่เสียหายประมาณ 200 ไร่


ต่อมาวันที่ 5 มกราคม 2568 ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟป่าอีกครั้ง ศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่านครราชสีมา (กรมป่าไม้) จึงเข้าตรวจสอบ พบไฟป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง และป่าเขาอ่างหิน เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แค่เพียงบางส่วนเนื่องจากข้อจำกัดด้านพื้นที่มีความลาดชันและมีหินลอย การเดินขึ้นไปดับไฟ เสี่ยงที่จะไถลตกจากเขา ประกอบกับลมแรง ทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบากและต้องถอนกองกำลังลงในเวลาพลบค่ำ โดยจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังไฟตลอดทั้งคืน เพื่อป้องกันไฟลุกลามเข้าพื้นที่บ้านเรือนของราษฎร

จากนั้นในวันที่ 7 มกราคม 2568 ไฟได้ไหม้ลุกลามไปจนถึงบริเวณหน้าผาหินซึ่งสูงชัน ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ จึงได้ทำแนวสกัดกั้น เพื่อตัดเชื้อเพลิงให้น้อยที่สุด ส่วนพื้นที่ด้านล่างติดกับพื้นที่ราษฎร ได้รับกำลังสนับสนุนจากป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ เฝ้าระวังไม่ให้ลุกลามเข้าพื้นที่ชุมชน กรมอุทยานฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าสนธิกำลังจากสถานีควบคุมไฟป่าเขาใหญ่และเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เพิ่มเติม โดยมีพื้นที่เสียหายไปแล้วกว่า 1,000 ไร่

จนกระทั่งวันที่​ 10 มกราคม 2568 ไฟยังคงปะทุขึ้นในพื้นบริเวณยอดเขาและหน้าผาหินชันเนื่องจากยังมีเชื้อเพลิงสะสมในพื้นที่จำนวนมาก และไฟยังไม่ดับสนิท ประกอบมีลมแรงตลอดทั้งวัน ทำให้ยากต่อการควบคุมไฟป่า จึงได้มีการตั้งกองอำนวยการเฉพาะกิจซึ่งมีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานปฏิบัติงานร่วมกันในพื้นที่เกิดเหตุ โดยมีพลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 2 เข้าประชุมร่วมกับ นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รองผู้ว่าจังหวัดนครราชสีมา โดยหารือถึงแนวทางคลี่คลายสถานการณ์ พร้อมสั่งการให้ทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกันหากเกินกำลังของทางส่วนราชการแล้ว จะจัดกำลังมาสมทบเพื่อดับไฟป่าให้สนิทและเร็วที่สุด เฮลิคอปเตอร์จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เข้ามาโปรยน้ำลงในพื้นที่หน้าผาและยอดเขาที่เจ้าหน้าที่เดินเข้าไปไม่ถึงเพื่อลดความร้อนและชะลอการลุกลามของไฟลงได้ระดับหนึ่ง ตั้งแต่เวลา 15.30 -18.30 น. พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังจุดเกิดเหตุตลอดทั้งคืนซึ่งกินพื้นที่เสียหายไปกว่า 1,500 ไร่เศษ


วานนี้ (11 มกราคม 2568) เฮลิคอปเตอร์เข้าพื้นที่โปรยน้ำลดความร้อน ร่วมกับเจ้าหน้าที่เดินเข้าพื้นที่ดับไฟเพื่อจำกัดบริเวณพื้นที่เผาไหม้ โดยยังคงมีอุปสรรคจากสภาพภูมิประเทศและลมที่แรงตลอดทั้งวัน แต่ในที่สุดก็สามารถดับไฟได้ทุกจุด.​-512.-สำนักข่าว​ไทย​

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]