เริ่มการขนย้ายแคดเมียม ภายใต้การควบคุม

29 เม.ย. – เริ่มการขนย้ายกากแคดเมียม 150 ตัน ย่านบางซื่อ ก่อนไปสมทบกันที่ จ.สมุทรสาคร นำไปฝังกลบที่ จ.ตาก ในช่วง 3 ทุ่ม คืนนี้ (29 เม.ย.) ด้าน รมว.อุตสาหกรรม ย้ำทุกขั้นตอนมีความปลอดภัยสูงสุด


ช่วงเช้าที่ผ่านมา รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายจิรัฏฐ์ ม้าไว ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่โรงงานบริษัท ล้อโลหะไทย เมททอล จำกัด เขตบางซื่อ ติดตามการขนกากตะกอนแคดเมียมขึ้นรถพ่วง ก่อนจะดำเนินการเคลื่อนขบวนพร้อมกันไปยังจุดนัดพบ ร่วมขบวนกับรถขนกากตะกอนแคดเมียม ที่มาจาก จ.สมุทรสาคร เพื่อย้ายกากตะกอนแคดเมียมกลับไปยังพื้นที่ฝังกลบ

เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดปฏิบัติการร่วมกันใช้เครื่องจักรขนย้ายกากแคดเมียม ที่บรรจุอยู่ในถุงบิ๊กแบ็ก 99 ถุง รวมน้ำหนักทั้งหมด 150 ตัน ที่อยู่ภายในพื้นที่บริษัท ล้อโลหะไทย ทยอยขนใส่รถบรรทุกพ่วงทั้งหมด 6 คัน รถบรรทุกพ่วงหนึ่งคันจะขนกากแคดเมียมคันละ 25 ตัน ซึ่งจะมีการปิดคลุมรถด้วยแผ่นพลาสติกกันน้ำอย่างมิดชิด โดยการขนย้ายกากแคดเมียมทั้งหมดในรอบเดียว มีการควบคุมขั้นตอนการเตรียมการส่งด้วยความระมัดระวังตามหลักมาตรฐานสากล


โดยมีรถตำรวจ ปทส. นำขบวน และรถตำรวจ สน.บางซื่อ ปิดท้ายขบวน ไปส่งที่จุดนัดพบที่ห้างดูโฮม ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี เพื่อสบทบกับขบวนรถขนกากแคดเมียมที่มาจาก จ.สมุทรสาคร อีก 4 คัน จากนั้นขบวนรถทั้งหมดจะมุ่งหน้าไปที่โรงงานฝังกลบกากอุตสาหกรรม จ.ตาก

สำหรับกำหนดการเคลื่อนย้ายเดิมจะเคลื่อนขบวนรถในเวลา 19.00 น. แต่ปรับเปลี่ยนเป็น 21.00 น. เพื่อหลบหลีกช่วงจราจรติดขัดและเพื่อความปลอดภัยของประชาชน

ส่วนกากแคดเมียมที่เหลือและจากโกดัง จ.ชลบุรี จะเริ่มขนย้ายเดือนพฤษภาคมนี้ คาดว่าการขนย้ายทั้งหมดจะแล้วเสร็จกลางเดือนมิถุนายน โดยหน่วยปฏิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม (EPU) จะติดตามการขนย้ายตั้งแต่ต้นทางไปถึงปลายทาง พร้อมเครื่องมือตรวจวัดมลพิษประจำรถร่วมเดินทางไปกับขบวนรถขนย้ายกากแคดเมียม เมื่อขนย้ายเสร็จแล้ว คพ. จะเข้าตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมทั้งภายในโรงงาน พื้นที่ภายนอกโรงงาน เพื่อเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อม


รมว.อุตสาหกรรม ย้ำทุกขั้นตอนมีความปลอดภัยสูงสุด
ขณะที่ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ช่วงบ่ายที่ผ่านมา น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อม ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะ ลงพื้นที่บริษัท เจแอนด์บี เมททอล จำกัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ติดตามการเตรียมความพร้อมในการขนย้ายกากตะกอนแคดเมียมกลับคืนสู่หลุมฝังกลบที่ จ.ตาก ซึ่งขบวนรถบรรทุกจำนวน 4 คัน จะบรรทุกกากตะกอนแคดเมียมน้ำหนักรวมกันราวๆ 108 ตัน จาก จ.สมุทรสาคร ไปสู่ จ.ตาก และจะออกจากพื้นที่บริษัทในเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันนี้ ถึง จ.ตาก ในเช้าวันพรุ่งนี้ (30 เม.ย.)

น.ส.พิมพ์ภัทรา บอกว่าการขนย้ายกากตะกอนแคดเมียมจาก จ.สมุทรสาคร กลับไปยัง จ.ตาก รอบแรกนี้ ทางกระทรวงอุตสาหกรรม มีการเตรียมความพร้อมขั้นสูงสุด ซึ่งได้มีการทดสอบเสมือนจริงมาก่อนหน้านี้แล้ว

โดยการขนย้ายจะใช้เส้นทางสายเอเชีย จะมีตำรวจทางหลวงของแต่ละพื้นที่นำขบวน และมีการส่งต่อเป็นจังหวัดๆ โดยจะหยุดพักเท่าที่จำเป็น ไม่มีการแวะเติมน้ำมัน และมีแผนฉุกเฉินกรณีเกิดอุบัติเหตุไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อถึง จ.ตาก จะนำกากตะกอนแคดเมียมไปเก็บไว้ที่อาคารพักคอยในพื้นที่โรงงานที่ได้ปูพื้นด้วยดินเหนียวสังเคราะห์ (GCL) แล้ว เน้นย้ำขอให้ประชาชนมั่นใจว่ากระทรวงอุตสาหกรรมได้เตรียมความพร้อมขั้นสูงสุดในการขนย้ายกากตะกอนแร่แคดเมียมจากต้นทางที่ จ.สมุทรสาคร การขนย้ายระหว่างทาง จนถึงปลายทางที่ จ.ตาก โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ

สำหรับการขนย้ายกากตะกอนแคดเมียมที่เริ่มเคลื่อนย้ายในวันนี้จะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 17 มิถุนายน 2567 ซึ่งขั้นตอนการขนย้ายจะใช้รถพ่วง-คอก และรถเทรลเลอร์-ท้ายเรียบ บรรทุก 20 ถุงต่อคัน รวมการขนย้าย 450 ตันต่อวัน ใช้ GPS และระบบติดตามขนย้ายกากแคดเมียมเฉพาะกิจ ปิดคลุมรถด้วยแผ่นพลาสติกกันน้ำอย่างมิดชิด พนักงานจะต้องสวมชุดป้องกันและเปลี่ยนชุดป้องกันทุกวัน พร้อมทั้งกำจัดชุดที่ใช้แล้วโดยการฝังกลบอีกด้วย

นอกจากนี้จะมีการสุ่มตัวอย่างกากแคดเมียมในรถบรรทุก 1 ถุงต่อ 1 คัน ส่งวิเคราะห์หาองค์ประกอบทางเคมียืนยันความถูกต้อง การขนย้ายจะเริ่มจากโรงงานเจแอนด์บี เมททอล สมุทรสาคร ด้วยรถเทรลเลอร์ท้ายเรียบ 4 คัน บรรทุก 80 ถุง น้ำหนัก 120 ตัน และจากโรงงานล้อโลหะไทย กรุงเทพฯ ด้วยรถ 10 ล้อพ่วง ล้อมคอก 6 คัน จำนวน 100 ถุง น้ำหนัก 150 ตัน จากนั้นจะเคลื่อนออกจากจุดนัดหมาย ด้วยรถขนส่งที่เตรียมไว้ ทุกคันผ่านการตรวจสอบความปลอดภัย การขนย้ายจะใช้เส้นทางสายเอเชีย มีตำรวจแต่ละพื้นที่นำขบวน และส่งต่อเป็นจังหวัด จะไม่มีการแวะเติมน้ำมัน และมีแผนฉุกเฉินกรณีเกิดอุบัติเหตุไว้เรียบร้อย

คาดจะถึงจุดหมาย จ.ตาก เช้ามืดวันที่ 30 เม.ย. เมื่อถึง จ.ตาก จะนำกากตะกอนแคดเมียม ไปเก็บไว้ที่อาคารพักคอยในพื้นที่โรงงานเบาด์แอนด์บียอนด์ ระหว่างเร่งซ่อมแซมบ่อฝังกลบให้ปลอดภัยตามมาตรฐาน EIA โดยจะมีเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมตากและสมุทรสาคร กำกับดูแลการขนย้ายอย่างใกล้ชิด จากนั้นจะทยอยขนที่เหลืออีกเกือบ 12,800 ตัน จาก จ.สมุทรสาคร และ จ.ชลบุรี ทุกวัน นำมาฝังกลบ และปิดบ่อภายในวันที่ 30 ก.ย. 2567 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]