ขนย้ายกากแคดเมียมกลับ จ.ตาก แล้ว รวม 801.26 ตัน

8 พ.ค. – ก.อุตฯ ขนย้ายกากตะกอนแร่แคดเมียมกลับจังหวัดตากแล้ว รวมกว่า 801.26 ตัน บางซื่อขนออกแล้ว 100 % พร้อมปรับปรุงโกดังพักคอยเรียบร้อยแล้ว


ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหา และขนย้ายกากตะกอนแคดเมียม เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน กล่าวถึงความคืบหน้าการขนย้ายกากแคดเมียม ณ ปัจจุบัน ว่า หลังจากกระทรวงฯ ได้มีการหยุดดำเนินการขนย้ายกากตะกอนแร่แคดเมียมไปในวันที่ 29 เมษายน และได้ดำเนินการขนย้ายต่อในวันที่ 6 พฤษภาคมต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ ได้มีการขนย้ายขณะนี้การขนย้ายการตะกอนแร่แคดเมียมเดินทางไปยังจังหวัดตากแล้ว 528 ถุง รวมกว่า 801.26 ตัน โดยเป็นน้ำหนักที่ชั่งก่อนการขนย้ายและคำนวนค่าความชื้นแล้ว ซึ่งเป็นการขนย้ายจาก บริษัท ล้อโลหะไทยเมททอล จำกัด เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ เป็นจำนวน 99 ถุง รวมน้ำหนัก 141.75 ตัน ซึ่งขนย้ายครบถ้วนทั้งหมดแล้ว และขนย้ายจากบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด (โรงที่ 1) จังหวัดสมุทรสาคร ขนย้ายแล้ว 10.72 % จำนวน 429 ถุง รวมน้ำหนัก 659.51 ตัน

ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่มีการตรวจสอบความแข็งแรงของพื้นผิวโกดังพักคอยเก็บกากตะกอนแร่ โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาแล้ว ผลการทดสอบปรากฎว่าชั้นดินในจุดพักคอยสามารถรองรับน้ำหนักได้อย่างปลอดภัย โดยไม่มีการทรุด แตกหัก หรือรั่วซึม และในส่วนโกดังพักคอยนั้น ขณะนี้ได้รับของการปรับปรุงให้มีสภาพที่พร้อมใช้งานได้อย่างปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ได้มีการทดลองยกถุง Big Bag โดยใช้วิธีการและอุปกรณ์ที่ปรับแล้วก็สามารถดำเนินการได้โดยไม่มีข้อติดขัด และได้เคลื่อนย้ายถุงกากแคดเมียมเข้าโรงพักคอยแล้ว 179 ถุง น้ำหนักรวม 256 ตัน


“กระบวนการขนย้ายกากตะกอนแคดเมียม ได้ดำเนินการมาแล้วอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทุกขั้นตอนยังสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น ไม่พบปัญหาใด ๆ โดยได้ขนย้ายกากเข้าสู่โกดังพักคอยอย่างต่อเนื่อง เพื่อรอดำเนินการในขั้นตอนฝังกลบต่อไป ซึ่งทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางยังเน้นความปลอดภัยของประชาชน และสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก และหากประชาชนหรือผู้สนใจอยากติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ก็สามารถเข้าติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://cadmium.industry.go.th/web ที่กระทรวงจัดทำขึ้นเพื่อให้ทุกคนคลายความกังวลว่าภาครัฐดำเนินการอย่างเอาจริงเอาจัง และมีความโปร่งใสในทุกขั้นตอน” ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวปิดท้าย .-517-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]