ไทย-อเมริกาหารือทวิภาคีระหว่างประชุม COP27

สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ – รมว.ทส. หารือทวิภาคีกับผู้แทนพิเศษของสหรัฐอเมริกาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในช่วงการประชุม COP27


นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย COP27 พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายพิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก และนางสาวแคทรียา ปทุมรส ผู้อำนวยการกองกิจการเพื่อการพัฒนา กรมองค์การระหว่างประเทศ ร่วมหารือทวิภาคีกับสหรัฐอเมริกา นำโดย Mr. Rick Duke Deputy Special Envoy for Climate และเจ้าหน้าที่จาก Office of the Special Envoy for Climate เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประเด็นการดำเนินงานที่สำคัญของทั้งสองประเทศ และโอกาสในการพัฒนาความร่วมมือของไทยกับสหรัฐอเมริกาเพื่อรับมือกับความท้าทายนี้

รมว.ทส. กล่าวว่า ฝ่ายไทยรับทราบว่า สหรัฐอเมริกาได้เชิญชวนประเทศไทยเข้าร่วมข้อริเริ่มระดับโลกด้านการลดก๊าซมีเทน (Global Methane Pledge) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อร่วมกันลดการปล่อยก๊าซมีเทนของโลกร้อยละ 30 ภายในปีค.ศ. 2030 ครอบคลุมทั้งภาคเกษตร พลังงาน อุตสาหกรรม และข้อริเริ่มด้านยานยนต์ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Zero Emission Vehicle Goal: ZEV) ซึ่งมีเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนการขาย ZEV ขนาดเล็กให้ได้ร้อยละ 50 ภายในปีค.ศ. 2030 ซึ่งมีความสอดคล้องกับทิศทางของประเทศไทยในภาพรวม


นอกจากนี้ยังได้แลกเปลี่ยนการดำเนินงานของประเทศไทยที่มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปีค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปีค.ศ. 2065 ที่ครอบคลุมทุกภาคส่วนทางเศรษฐกิจ ควบคู่กับการคำนึงถึงขีดความสามารถในการดำเนินงานของแต่ละสาขา โดยเฉพาะการลดการปล่อยก๊าซมีเทนในภาคการเกษตรที่เกษตรกรจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีปฏิบัติและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สำหรับ ZEV ประเทศไทยมีมาตรการที่จะเพิ่มการผลิต ZEV เป็นร้อยละ 30 จากสัดส่วนการผลิตรถยนต์ทั้งหมด ภายในปี ค.ศ. 2030

อย่างไรก็ตาม การผลักดันเพื่อเร่งการดำเนินงานต้องอาศัยความร่วมมือและการสนับสนุนจากต่างประเทศทั้งด้านการเงินและเทคนิค ทั้งนี้ กระทรวง ทส. จะสื่อสารข้อริเริ่มกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาตามกระบวนการภายในประเทศ โดยคาดหวังว่า การดำเนินงานดังกล่าวร่วมกัน จะสนับสนุนการรักษา Pathway 1.5 องศาเซลเซียสตามเป้าหมายของความตกลงปารีสต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

K9 หยุดปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย ตึกสตง. ถล่ม

K9 หยุดปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย ตึกสตง. ถล่ม เพราะปฏิบัติหน้าที่ครบ 10 วันแล้ว เป็นปกติของการทำงาน หากปฏิบัติภารกิจต่ออาจจะทำให้บาดเจ็บได้ และการกู้ภัยที่เหลือตอนนี้จำเป็นต้องต้องใช้เครื่องจักรใหญ่เท่านั้น

เชียงรายพบสารหนูเกินมาตรฐานใน “น้ำกก” คาดจากเหมืองเมียนมา

สำนักงานสิ่งแวดล้อมฯ เชียงราย ได้รับร้องเรียนว่า “น้ำกก” มีสีขุ่น เมื่อนำไปตรวจพบสารหนูเกินค่ามาตรฐานหลายเท่า กระทบสุขภาพประชาชน คาดมาจากเหมืองแร่ทองคำในเมียนมา ผู้ว่าฯ เชียงราย เรียกประชุมด่วน