ประธาน กอ.ชี้ คดี”บอส”สั่นคลอนความน่าเชื่อถือ

กทม.30 ก.ค.- “อรรถพล ใหญ่สว่าง”  ประธาน ก.อ. รับคดี”บอส อยู่วิทยา” กระทบความน่าเชื่อถือในกระบวนการยุติธรรม ชี้ ต้องแจงเหตุผลการสั่งคดีให้ชัด พร้อมทำความเข้าใจสังคม


นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ในฐานะประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) และอดีตอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า หลังสื่อมวลชนรายงานข่าว กรณีพนักงานอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องนายวรยุทธ  อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทเจ้าของธุรกิจกระทิงแดง ขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต จนเกิดแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง  ตนมีความเป็นห่วงใยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้ทำหนังสือถึงนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์  อัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2563 ในฐานะประธาน ก.อ. พร้อมแนะแนวทาง แก้ไขสถานการณ์ 3 ข้อ โดยสรุป คือให้สำนักงานอัยการสูงสุด  ตรวจสอบการดำเนินคดีของสำนวนดังกล่าวในทุกขั้นตอน เพื่อยืนยันความถูกต้องตามกฎหมายและหลักนิติธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานอัยการ ,ทำความเข้าใจให้สาธารณชน เพื่อป้องกันการสื่อสารและเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ตรงต่อความจริง พร้อมจัดให้มีการแถลงข่าว อธิบายข้อสงสัยของสาธารณชน และแก้ไขปัญหาภายใต้กรอบของกฎหมาย หากพบปัญหาหรือข้อคลาดเคลื่อนในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการสั่งคดีดังกล่าว

ประธานคณะกรรมการอัยการ และอดีต อัยการสูงสุด ยอมรับว่าคดีนี้ กระทบความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมอย่างยิ่ง ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดจำเป็นต้องชี้แจงให้ได้ว่า ที่อ้างว่ามีการสั่งคดีตามกฎหมาย และระเบียบทุกอย่างนั้น มีเหตุและผลอย่างไรในการใช้ดุลยพินิจรับฟัง พยาน ที่มีการรายงานว่าเพิ่งปรากฎขึ้น หลังคดีผ่านไปหลายปี  ซึ่งกรณีนี้ ตนไม่เคยเห็นสำนวนมาก่อน จึงยืนยันไม่ได้ว่าพยานเหล่านี้ เคยอยู่ในสำนวน แต่แรกหรือไม่ รวมถึงการรับฟังพยานผู้เชี่ยวชาญ เรื่องของความเร็วขณะเกิดอุบัติเหตุ  ซึ่งมีข่าวว่าตอนแรกพบความเร็ว 177 กิโลเมตร ต่อชั่วโมงแต่ภายหลังเปลี่ยนเป็น 79 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  ซึ่งตนเห็นว่า ผู้ที่จะมาเบิกความเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญ ต้องได้รับการยอมรับตามกฎหมาย ประเทศไทย มี 2 หน่วยงานคือกองพิสูจน์หลักฐาน ของสตช.และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เท่านั้น 


ส่วนที่มีรายงานข่าวว่า คดีนี้ที่อัยการหยิบมาพิจาณาสั่งคดีใหม่ หลังเคยมีความเห็นสั่งฟ้องมาแล้ว  เพราะถูกกดดัน จากคณะกรรมมาธิการกฎหมาย  สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จนเป็นจุดเปลี่ยนในการไม่สั่งฟ้องคดีดังกล่าวนั้น มองว่า พนักงานอัยการมีความเป็นอิสระในการพิจารณาสั่งคดี  และมีหน้าที่รับฟังพยานหลักฐานจากทุกฝ่าย ยิ่งมีหลักฐานมากยิ่งเป็นเรื่องดี แต่การใช้ดุลยพินิจพิจารณาหลักฐานคือคำถามที่ผู้เกี่ยวข้องต้องชี้แจง

อดีต อสส. ยังอธิบายถึงแนวทางการรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ว่า ในแง่ของกฎหมายเมื่อพนักงานสอบสวน เห็นพ้องกับพนักงานอัยการ ในการสั่งไม่ฟ้อง  ถือว่า ได้ข้อสรุป เบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว เว้นแต่จะพบพยานหลักฐานใหม่ ซึ่งเคยมีคดีตัวอย่างระดับประเทศ กรณีการอุ้มหายตัวของชาวต่างชาติ  อัยการและตำรวจ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาจนคดียุติ  แต่ภายหลัง สถานทูตดังกล่าวตามเรื่องจนพบ พยานหลักฐานใหม่ นำไปสู่การร้องเรียนและโอนสำนวนให้ ดีเอสไอทำคดี และสรุปความเห็น ส่งให้อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา แต่ท้ายที่สุด คดีดังกล่าว ศาลพิพากษายกฟ้องผู้ต้องหา      

ส่วนข้อสงสัยเรื่องการให้ทายาทของดาบตำรวจสน.ทองหล่อ เป็นผู้เสียหาย ฟ้องร้องต่อศาลเองนั้น ตามป.วิอาญามาตรา 28 บุคคลที่มีอำนาจฟ้องร้องคดีอาญาต่อศาล นอกเหนือจากอัยการ คือ ผู้เสียหาย ซึ่งในกรณีนี้ ทายาทผู้เสียหายจะต้องประกอบด้วย บิดา – มารดา   บุตร  หรือสามี ภรรยาตามกฎหมายของผู้เสียหาย เมื่อตรวจสอบพบว่า บิดา-มารดา ของดาบตำรวจสน.ทองหล่อ เสียชีวิตไปแล้ว ไม่มีบุตร หรือ ภรรยา ที่ถูกต้องตามกฎหมาย คดีนี้จึงไม่มีทายาท นำคดีขึ้นฟ้องร้องใหม่ได้ .-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ผบ.ทสส.นัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – ถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ พรุ่งนี้ แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คาด “ผบ.ทบ.” รับผิดชอบโดยตรง เตรียมแผนรับมือครอบคลุมทุกมิติแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.68) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) จะเป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4/2568 วาระเฉพาะกิจ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) ในเวลา 14.00 น. คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองทัพบกโดยตรง ทั้งการเตรียมกำลัง และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และเตรียมแผนพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมทุกมิติแล้ว สำหรับการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ในครั้งนี้ กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ และได้แจ้งสื่อมวลชน ขอยกเลิกการมาทำข่าวนี้ เนื่องจากเป็นการประชุมเฉพาะกิจ นอกจากนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการประชุม และคาดว่าจะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลแก้ปัญหาโดยเฉพาะ.-313-สำนักข่าวไทย

รวมพลังหยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตคนลุ่มน้ำชายแดน

5 มิ.ย. – วันนี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งขณะนี้ผู้คนตามลุ่มน้ำชายแดนไทย-เมียนมา ทางภาคเหนือของไทย กำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อม หลัง 2 เดือนมานี้พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกกและน้ำสาย รวมถึงแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง เชื่อว่าเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่หลายแห่งบริเวณต้นน้ำในเมียนมา วันนี้ชาวเชียงใหม่และเชียงราย ร่วมกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการเจรจาให้หยุดเหมืองพิษและคืนชีวิตให้กับลุ่มน้ำต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

แฉชนวนเหตุ ไรเดอร์บุกยิงดับ 2 ศพคา รพ.

ปทุมธานี 5 มิ.ย. – จากเหตุระทึกขวัญที่ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ไรเดอร์บุกยิงคนถึงในบ้าน แล้วยังขับรถตามไปยิงซ้ำที่โรงพยาบาลจนเสียชีวิต วันนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ชนวนเหตุมาจากอะไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย