ลูกหนี้ดอกเบี้ยโหดคิดสั้นจะกระโดดน้ำตายยกครัวเพื่อจบปัญหา

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – “เอกภพ สายไหมต้องรอด” พาลูกหนี้ดอกเบี้ยโหด คิดสั้นโดดน้ำตายยกครัว พบตำรวจ สน.มีนบุรี ขอความช่วยเหลือ เจรจาหาทางออกร่วมกับ 7 เจ้าหนี้


นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พานางบุญตรี และครอบครัวเข้าพบ พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 และ ผกก.สน.มีนบุรี หลังถูกเจ้าหนี้ปล่อยเงินกู้ตามทวงเงิน จนต้องหลบหนีไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ตระเวนนอนตามวัด และปั๊มน้ำมัน ทำให้บุตรทั้ง 2 คน ไม่ได้ไปเรียนหนังสือ เพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องดูแลความปลอดภัย และขอให้ช่วยประสานเจ้าหนี้รวม 7 เจ้า มาพูดคุย ขอผ่อนผันหนี้สินออกไปก่อน

นางบุญตรี เผยมีอาชีพเย็บผ้า สามีขับรถสองแถว เมื่อประมาณต้นปี 65 มีปัญหาทางด้านการเงิน จึงตัดสินใจกู้เงินนอกระบบ 70,000 บาท รวม 7 เจ้า โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 60 หรือดอกเบี้ยวันละ 200 บาท โดยรู้จักเจ้าหนี้ผ่านการแจกใบปลิวที่ติดตามตัวอาคารต่าง ๆ และเสาไฟฟ้า โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีการส่งดอกเบี้ยมาโดยตลอด เพิ่งจะขาดส่งได้เพียง 1 สัปดาห์ เนื่องจากสภาพเศษรฐกิจไม่ดี จึงทำให้ไม่มีงานตัดเย็บเสื้อผ้าโหล และวิ่งรถสองแถวของสามี จึงสร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าหนี้ ส่งเชลล์มาข่มขู่และทำลายทรัพย์สินที่บ้านเช่า นอกจากนี้ยังมีการไปดักรอลูกชายและลูกสาวที่บริเวณหน้าโรงเรียน จนทำให้ลูกทั้ง 2 รู้สึกไม่ปลอดภัย หรือบางครั้งก็มีการส่งข้อความมาข่มขู่ จึงสร้างความหวาดผวาให้กับครอบครัว เลยตัดสินใจคิดสั้นจบชีวิตยกครัวเพื่อหนีปัญหา เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับผลกระทบเหมือนครอบครัวของเพื่อนบ้านที่ก่อนหน้านี้ถูกแก๊งเงินกู้ทำร้ายร่างจนได้รับบาดเจ็บ กลัวว่าครอบครัวตนเองจะประสบปัญหาเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ลูกทั้ง 2 คน รับทราบปัญหามาโดยตลอด ลูกชายคนโตถึงกับบอกว่าให้ตนพาไปขายไตเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ ซึ่งตลอดระยะเวลา 1 อาทิตย์ที่ผ่านมาใช้ชีวิตแบบระหกระเหิน เข้าบ้านไม่ได้ ต้องอาศัยนอนข้างถนน วัด หรือปั๊มน้ำมัน ก่อนที่จะขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด ยืนยันไม่เอาผิดเจ้าหนี้ ยินยอมจะชดใช้เงินที่กู้มาให้ แต่ขอผ่อนผันเรื่องเวลา ขอทำงานเก็บเงินก่อนจะใช้คืนให้ทั้งหมด


ด้านนายเอกภพ เปิดเผยว่าหลังจากทราบข่าวรู้สึกสงสารครอบครัวนี้จึงได้เดินทางไปพูดคุยจนรับทราบปัญหา และทำความเข้าใจ จนทำให้ครอบครัวผู้เสียหายสบายใจขึ้น และเลิกคิดสั้น วันนี้จึงตัดสินใจพาผู้เสียหายเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเป็นตัวกลางในการเจรจาหาทางออก เนื่องจากผู้เสียหายไม่มีเจตนาที่จะโกง แต่เป็นเพราะว่ามันเป็นเรื่องของการคิดอัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด จึงอยากฝากถึงเจ้าหนี้ให้ช่วยผ่อนผันและเข้ามาพูดคุย  ตนยืนยันว่าเป็นหนี้ต้องใช้หนี้ แต่อยากให้มีความเป็นมนุษยธรรมกับลูกหนี้ด้วย

พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม รอง ผบก.น.3 ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานเจรจากับเจ้าหนี้ทั้งหมดเพื่อหาทางออกให้กับทุกฝ่าย ซึ่งส่วนไหนที่ถูกต้องตามกฎหมายก็ให้ดำเนินการไปตามปกติ แต่ส่วนไหนที่ผิดกฎหมาย เช่น พ.ร.บ.ทวงหนี้/พ.ร.บ.เรียกเก็บอัตาดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งในส่วนนี้ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องของความปลอดภัยของผู้เสียหายตำรวจจะส่งรถสายตรวจไปดูแลที่บ้านพัก หลังจากที่ผู้เสียหายไม่สามารถเข้าบ้านพักได้ เนื่องจากเจ้าหนี้ส่งเชลล์ไปดักรอที่บ้านพัก ส่วนการค้างค่าเช่าบ้านจนถูกเจ้าของบ้านให้ย้ายออกจะส่งตำรวจเข้าไปเจรจาเพื่อขอความอนุเคราะห์ในการผ่อนผันที่จะอยู่ต่อ. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]