ผบช.ภ.1 สั่งตรวจเข้มรถพยาบาลไม่ติดสังกัด

กรุงเทพฯ  7 มิ.ย. – ผู้บัญชาการภาค 1 สั่งตำรวจตรวจเข้มรถพยาบาลไม่ติดสังกัดชัดเจน หลังเรียกอาสาสมัครกู้ภัย รถพยาบาลฉุกเฉิน พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้อง หารือจัดระเบียบขึ้นทะเบียนรถพยาบาลอาสา  


พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีสามีภรรยาอาสากู้ภัยขนยาบ้ากว่า 2 ล้านเม็ด ว่า ขณะนี้พบรถกระบะกู้ภัยรับผู้ต้องหาหลบหนีย่านจระเข้น้อยกำลังให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดใช้เส้นทางไหนหลบหนี เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี เบื้องต้นพบผู้ก่อเหตุ 5 คน จับแล้ว 2 คน คือ นายสมพงษ์ และนายพิทวัส ส่วนพฤติการณ์ของคนร้าย สืบทราบว่าก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง โดยจะทำหน้าที่เป็นชุดรับจ้างลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนภาคอีสานเข้ามาส่งและจำหน่ายในพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน นายจิรายุทธ และนางสาวทิพวรรณ 2 ได้ขับรถพยาบาลฉุกเฉินข้ามเขตจากกรุงเทพฯ ไปรับยาบ้าที่จังหวัดเลย และมีรถกระบะตู้ทึบนำทางกลับเข้ากรุงเทพฯ อีกครั้ง หลังจากนี้ตำรวจจะขยายผลไปยังนายทุน หรือผู้บงการสั่งการ และตรวจสอบเส้นทางการเงิน หากพบใครมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายทั้งหมด

ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี 3 คน คือ นายจิรายุทธ หรือโด้ นางสาวทิพวรรณ หรือทิพย์ ทำหน้าที่ลำเลียงยาเสพติด และนายไอซ์ ทำหน้าที่ขับรถมารับพาผู้ต้องหา 2 คนผัวเมียหลบหนี ตำรวจเตรียมออกหมายจับภายในวันนี้ ซึ่งยังพบความเคลื่อนไหวว่าอยู่ในพื้นที่ประเทศไทย หากพบคนอื่นเข้าข่ายก็จะดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติม ยังไม่พบกลุ่มหัวหน้าขบวนการค้ายาที่อยู่เบื้องหลัง  เบื้องต้นมีผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการ รวม 5 คน ซึ่งตำรวจจะดำเนินข้อหาเสพติดให้โทษกระทำผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ครอบครองโดยผิดกฎหมาย 4 ราย ส่วนอีก 1 รายที่พาหลบหนี อยู่ระหว่างพิจารณาข้อหาให้ที่พักพิง สนับสนุนช่วยเหลือผู้ก่อเหตุรุนแรง


ขณะที่วันนี้ผู้บัญชาการตำรวจภาค 1 ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิต่าง ๆ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และตำรวจระดับผู้บังคับการ 9 จังหวัด สังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาคหนึ่ง เพื่อประชุมหารือถึงแนวทางการแก้ไข โดยหนึ่งเรื่องที่จะต้องหารือ คือ การจัดระเบียบให้มีการขึ้นทะเบียนรถผู้ภัยเข้าระบบกระทรวงสาธารณสุข เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ รวมทั้งการขออนุญาตขอใช้สัญญาไซเรน และแนวทางการปฎิบัติงานที่ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และไม่ซับซ้อนในการทำงาน และยังสามารถตรวจสอบป้องกันไม่ให้มีการใช้รถพยาบาลฉุกเฉินไปหาประโยชน์จากสิ่งผิดกฎหมาย

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะมีการรวบรวมข้อมูลการขอใบอนุญาตที่ถูกต้องของรถพยาบาลฉุกเฉินทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด หากมีข้อมูลครบถ้วนแล้วก็จะรวบรวมไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อใช้เทคโนโลยีจัดเก็บและตรวจสอบข้อมูล โดยเบื้องต้นได้สั่งการภูธรจังหวัด ทั้ง 9 จังหวัด ให้รวบรวมข้อมูลให้เสร็จภายใน 30 วัน พร้อมสั่งการตำรวจในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 กวดขันรถพยาบาลฉุกเฉินที่ไม่มีสังกัดแสดงชัดเจน หากพบให้ขอตรวจค้นทุกคัน และหากผิดกฎหมายก็ให้จับกุมดำเนินคดีทันที

ขณะที่นางพรอุมา อุบลรัตน์ ตัวแทนมูลนิธิร่วมกตัญญูที่เข้าร่วมประชุม ยอมรับว่าทางมูลนิธิฯ ผิดพลาดในตรวจสอบข้อมูลเจ้าหน้าที่ก่อนจะตัดสินใจรับเข้ามาปฏิบัติงาน แต่พร้อมจะแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ รถกู้ภัย-กู้ชีพที่อยู่ในความรับผิดชอบของมูลนิธิร่วมกตัญญู 9 จังหวัดภูธรภาค 1 ขึ้นทะเบียนถูกต้องแล้วกว่า 100 คันจากทั้งหมดกว่า 400 คัน ส่วนบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาทำบัตรประจำตัวอาสาฯ จึงยังไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่ชัดได้ ส่วนมูลนิธิอื่น ๆ อยู่ระหว่างการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล ก่อนจะส่งมาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังจากนี้จะเร่งดำเนินการ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร