จับฟิลิปปินส์หนีคดีโจรกรรมรถมาเป็นครูในไทย

สตม.19 ม.ค.-สองสามีภรรยาชาวฟิลิปปินส์จนมุมตำรวจตรวจคนเข้าเมือง  หลังก่อคดีโจรกรรมรถยนต์ในฟิลิปปินส์แล้วหนีออกนอกประเทศ ทางการฟิลิปปินส์จึงร้องขอตำรวจสากล ออกหมายแดง หลังพบเบาะแสหนีคดีมาเป็นครูสอนภาษาในโรงเรียนเอกชนที่ไทย นานกว่า 2 ปี


พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 2 ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ได้รับการประสานจากตำรวจสากลฟิลิปปินส์ หรือ INTERPOL ฟิลิปปินส์  ให้ช่วยติดตาม นายหลุยส์ และ นางออเรีย สองสามีภรรยาชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นบุคคลต้องการตัวตามประกาศตำรวจสากลสีแดง (INTERPOL Red Notice) ได้หลบหนี  หมายจับศาลฟิลิปปินส์ ในข้อหาโจรกรรมรถยนต์ ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยจึงสั่งการให้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง  สืบสวนหาตัวทั้งสองคน กระทั่งพบว่าคนร้ายเดินทางเข้ามาในประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2562  และ 27 ธ.ค.2562  ตามลำดับ โดยได้พักอาศัยอยู่ที่คอนโดมิเนียมย่าน ถนนเสรีไทย  เขตบึงกุ่ม และทำงานเป็นครูสอนภาษาของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ กทม. จึงเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เนื่องจากมีพฤติการณ์เข้าลักษณะต้องห้าม คือเป็นบุคคลที่มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม หรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชน หรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือบุคคลซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับ และควบคุมตัวได้ที่คอนโดมิเนียมดังกล่าว

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวว่า ผู้ต้องหาก่อคดีโจรกรรมรถยนต์ในประเทศฟิลิปปินส์ หลายครั้ง ครั้งล่าสุดวันที่ 12 เมษายน 2560 ได้ก่อคดีโจรกรรมรถยนต์ที่เมืองเกซอน  ตำรวจฟิลิปปินส์รวบรวมหลักฐานออกหมายจับ แต่ผู้ต้องหาไหวตัวหลบหนีมายังประเทศไทยได้ก่อน ทางการฟิลิปปินส์ จึงร้องขอให้ตำรวจสากลออกหมายแดง และประสานมายังทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยจับกุมตัว หลังสืบสวนแกะรอยพบว่า ทั้งสองคนมาใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่กบดานและประกอบอาชีพสอนภาษาอังกฤษ


ด้าน พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า กรณีนี้  สอบสวนแล้วปรากฎว่าทางโรงเรียนไม่ทราบมาก่อนว่าทั้งสองคน เป็นคนร้ายที่หนีคดีมาจากประเทศฟิลิปปินส์ จึงรับเข้าทำงาน // มาตรการหลังจากนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะประสานกับกระทรวงแรงงาน ในการตรวจสอบเอกสารหลักฐานให้เป็นไปตามระเบียบอย่างเข้มงวดซึ่งหากการยื่นขอทำงานผ่านจากกระทรวงแรงงานแล้ว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จึงจะออกเวิร์คพอร์มิด ให้เป็นขั้นตอนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ สตง. เปิดใจครั้งแรก ยันรอผลสอบสาเหตุตึกถล่ม

ผู้ว่าฯ สตง. เปิดใจครั้งแรก ยันรอผลสอบสาเหตุตึกถล่มจากผู้เชี่ยวชาญ 22 ท่าน พร้อมให้ข้อมูลเต็มที่ ผลสอบออกมาเป็นอย่างไร ก็จะยอมรับ ย้ำเชื่อมั่นความโปร่งใส ขณะนี้ สตง.ได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง บ.อิตาเลียนไทยฯ เพื่อให้รับผิดชอบความเสียหายทั้งหมด

ปชช.กลับบ้านสงกรานต์ แน่นสถานีขนส่งหมอชิต 2

บรรยากาศที่สถานีขนส่งฯ หมอชิต 2 ประชาชนเข้าใช้บริการแน่นขนัด บขส. ยืนยันจัดรถเสริมไว้บริการเพียงพอ พร้อมทั้งจัดจุดประสานงานจราจร ให้รถโดยสารเข้าถึงชานชาลาได้เร็วขึ้น

ไล่ล่า “บุญเกิด” มือยิง ตร.ดับ ตั้งค่าหัว 1 แสนบาท

คดีคนร้ายยิงตำรวจเสียชีวิต ขณะเข้าตรวจค้นกระท่อมภายในสวนยางพารา เจ้าหน้าที่ยังคงระดมกำลังค้นหาตัวมือยิง เชื่อยังหลบอยู่ในพื้นที่

ลุ้นปาฏิหาริย์ ช่วยแรงงานติดใต้ซากอาคาร สตง.

ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างอาคาร สตง. ถล่ม ยังคงดำเนินต่อเนื่อง หลังพบแสงสัญญาณแห่งความหวัง ที่คาดว่ามีผู้ติดค้างสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ได้ โดยเจ้าหน้าที่เร่งเจาะเปิดพื้นที่พร้อมเติมท่ออากาศลงไป