21 พ.ย. – ในรอบปี 2564 มีเหตุคนร้ายบุกชิงทองขึ้นหลายเหตุการณ์ สำนักข่าวไทยรวบรวมย้อนไปให้ชมกัน
เริ่มตั้งแต่ต้นปี วันที่ 5 มีนาคม คนร้ายถือปืนบุกเดี่ยวจี้ชิงทองกลางห้างสรรพสินค้าชื่อดัง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้ทองไปน้ำหนัก 47 บาท มูลค่า 1,150,500 บาท หลังก่อเหตุคนร้ายหลบหนีกบดานที่ จ.เพชรบุรี
ในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง จนเจ้าหน้าที่สืบทราบและเตรียมบุกเข้าจับกุม พอจวนตัวคนร้ายก็ตัดสินใจใช้อาวุธปืนขนาด .38 ที่ใช้ในการก่อเหตุ ยิงตัวเองเสียชีวิตภายในห้องน้ำในห้องพัก
วันที่ 24 เมษายน ที่ร้านทองห้างทองโต๊ะกัง ห้างพันทิปพลาซ่า ถนนงามวงศ์วาน คนร้ายเป็นชาย 1 คน รูปร่างเล็ก ผอม สวมเสื้อแขนยาวมีฮูดสีดำ กางเกงยีนสีดำ รองเท้าบู๊ท สูงประมาณ 170 ซม. ใช้อาวุธปืนสั้นไม่ทราบขนาด เข้ามาข่มขู่ชิงสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท ไปจำนวน 38 เส้น แต่ทำตกไว้ 1 เส้น คนร้ายได้ไปทั้งหมด 37 บาท มูลค่า 950,000 บาท ก่อนถูกตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2021/11/2-19.jpg)
วันที่ 26 มิถุนายน คนร้ายชาย 2 คน สวมเสื้อแขนยาวสีเทา กางเกงยีน ใส่หมวกกันน็อกแบบเต็มใบปิดบังใบหน้า เข้ามาก่อเหตุชิงทองภายในร้านทองสินทวี สาขาย่อยตลาดป่าก่อเงี้ยว ในเขตเทศบาลนครเชียงราย ขณะเกิดเหตุ ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านทองบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ คนร้ายได้ทองรูปพรรณไปประมาณ 114 บาท
วันที่ 1 กันยายน คนร้ายสวมชุดไรเดอร์บุกร้านทองกลางห้างดังเมืองปากช่อง นครศรีธรรมราช ผู้ก่อเหตุเป็นชาย 1 ใส่เสื้อพนักงานส่งอาหาร ใช้ขวดบรรจุวัตถุไม่ทราบชนิดมาตั้งที่ร้าน ก่อนใช้อาวุธปืนที่อยู่ในถุงดำจี้พนักงานให้นำทองใส่กระเป๋า เจ้าของร้านใช้จังหวะที่ผู้ก่อเหตุเผลอ พยายามเข้าต่อสู้กับผู้ก่อเหตุ ก่อนมีเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นเจ้าของร้านทอง ส่วนคนร้ายวิ่งหลบหนีไป ได้ทองไปประมาณ 132 บาท ราคารวม 3.6 ล้านบาท
เหตุการณ์ครั้งนี้ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายซึ่งเป็นตำรวจ คือ ส.ต.ท.อนุชา บุญอารักษ์ สายตรวจ สภ.ปากช่อง ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านห้างเพชรทองเยาวราช และใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ของทางราชการยิงเจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ยอมรับว่าสาเหตุที่ต้องก่อเหตุเพราะมีปัญหาหนี้สินมาก
ในเดือนเดียวกัน เกิดเหตุชวนให้สังคมได้ขบคิด เมื่อนักเรียนหญิงชั้น ม.6 โรงเรียนชื่อดังเขตดอนเมือง ถูกจับพร้อมของกลาง สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 สลึง จำนวน 43 เส้น สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 สลึง 5 เส้น และแหวนครึ่งสลึง 2 วง รวมมูลค่าประมาณ 4 แสนบาท หลังก่อเหตุใช้มีดทำครัวยาวประมาณ 7 นิ้ว พร้อมกระดาษที่เขียนข้อความข่มขู่พนักงานร้านขายทองห้ามขัดขืน
ผู้ต้องหาเป็นเยาวชนหญิงให้การรับสารภาพว่า ได้นำเงินประมาณ 50,000 บาท ไปลงซื้อขายของในออนไลน์ แต่ขาดทุน ทำให้คิดวิธีจะหาเงินมาลงทุนต่อ จึงตัดสินใจพกอาวุธมีดทำครัวออกจากบ้าน แล้วนั่งรถประจำทางมาก่อเหตุที่ห้างแห่งนี้ คดีนี้ขยายผลจนนำไปสู่การจับกุมผู้ที่หลอกน้อง ม.6 ลงทุนออนไลน์จนขาดทุนและเป็นสาเหตุในการก่อเหตุชิงทองครั้งนี้
ต่อมาช่วงกลางดึกวันที่ 23 ตุลาคม ที่ จ.ภูเก็ต คนร้ายปีนหลังคาชั้น 2 เจาะฝ้าเพดานห้องน้ำชั้น 2 กระโดดลงมาจี้บังคับคนในร้านให้ลงไปเปิดตู้เซฟเก็บทองรูปพรรณที่ชั้นล่าง แต่กลับไปเจอเจ้าของร้านนอนดูทีวีอยู่ จึงเกิดการต่อสู้ คนร้ายใช้ไม้ตีศีรษะคนในบ้านทั้ง 2 คน และบังคับให้เปิดตู้เซฟ จากนั้นได้กวาดทองรูปพรรณจำนวน 378 บาท มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท และเงินสดอีกจำนวนหนึ่งปีนออกจากร้านหลบหนีไป
ตำรวจนำตัวผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งมาสอบปากคำ พร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐาน อนุมัติออกหมายจับนายชาย ออง อายุ 27 ปี สัญชาติเมียนมา ซักถามนายชายมีท่าทางพิรุธ พบเสื้อผ้าซึ่งมีตำหนิรูปพรรณคล้ายกับเสื้อผ้าที่คนร้ายสวมใส่ แขวนอยู่หน้าห้องพักคนงานของนายชาย จึงรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ในครั้งนี้ . – สำนักข่าวไทย