วัดมะกอกจัดเตรียมสถานที่วางดินบรรจุศพ “สจ.โต้ง” บ่ายนี้

ปราจีนบุรี 17 ธ.ค. – วัดมะกอกเตรียมจัดเตรียมสถานที่วางดินบรรจุศพ “สจ.โต้ง” ช่วงบ่ายวันนี้ ขณะที่ 2 คนสนิท “โกทร” เตรียมเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน หลังเข้าบ้านโกทร ก่อน “สจ.โต้ง” ถูกยิงเสียชีวิต


บรรยากาศที่วัดมะกอก ในช่วงสายวันนี้ ทางวัดได้มีการจัดเตรียมสถานที่เพื่อต้อนรับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อร่วมพิธีวางดินบรรจุศพ สจ.โต้ง ในช่วงบ่ายวันนี้ โดยพื้นที่ด้านหน้าวัด มีการติดป้ายไวนิลขนาดใหญ่ ข้อความระบุว่าชาวปราจีนบุรี ยินดีให้การต้อนรับ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะที่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าวัดยังมีป้ายไวนิล เป็นรูป “สจ.โต้ง” พร้อมข้อความ ครอบครัวสนิทพงษ์ ขอขอบพระคุณ แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ที่มาร่วมไว้อาลัยในงานฌาปนกิจ สจ.โต้ง ด้วยความเคารพจากใจจริง

ขณะที่บรรยากาศที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี มีรายงานว่า ช่วงเช้าวันนี้ เวลาประมาณ 11.00 น ผู้ใหญ่แอ๊ด คนสนิท โกทร หรือนายสุนทร วิลาวัลย์ และนายโจ้ จะเดินทาง เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี เพื่อให้ปากคำกรณีพบโกทร ในวันเกิดเหตุยิง สจ.โต้ง เสียชีวิต


พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี เปิดเผยว่าวันนี้จะมีการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกลาง และ พฐ.ภูธรปราจีน เพื่อรับทราบข้อมูล เรื่องการรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมทั้งเข้ามาเก็บวิถีกระสุนอีกด้วย ส่วนกรณีที่มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้เข้าสอบปากคำผู้ต้องหา 4 คน อยู่ในเหตุการณ์ ขณะเกิดเหตุยิงกันเพิ่มเติม และมี 1 ในนั้น ทราบชื่อว่านายแมว (นามสมมติ) รับสารภาพว่าเป็นอีกคนหนึ่งที่ร่วมยิง สจ.โต้ง ด้วย ผู้บังคับการปราจีนบุรี ระบุว่าเบื้องต้นยังไม่พบรายงานของพนักงานสอบสวนว่าพบผู้ก่อเหตุยิงเพิ่มแต่อย่างใดแต่เชื่อว่า ทั้ง 7 คน มีส่วนร่วมกระทำผิดที่เป็นเหตุให้ สจ.โต้ง เสียชีวิต ส่วนจะมีผู้ต้องหาร่วมกันยิง สจ.โต้ง เพิ่มเติมอีกหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน

ส่วนกรณีลูกน้องคนสนิทของ “โกทร” 2 คน โดยคนแรก เป็นหัวคะแนนคนสำคัญในพื้นที่ และอีกหนึ่งคนเป็นเลขาฯ ส่วนตัว จะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมกรณีพบข้อมูลว่าเข้าบ้านโกทร ก่อนเกิดเหตุยิง สจ.โต้ง เสียชีวิต โดยเรื่องนี้ผู้บังคับการปราจีนบุรีบอกว่า ขณะนี้ทั้งสองคนถือเป็นพยานแวดล้อมเท่านั้นซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีแต่จำเป็นต้องเรียกมาสอบปากคำ เพื่อให้ครบถ้วนรอบด้าน ส่วนที่ว่า ทั้งสองคนจะมีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์นี้หรือไม่ ต้องรอผลการสอบสวน ส่วนจะสอบปากคำประเด็นใดเป็นพิเศษนั้นก็ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน

ผู้บังคับการภูธรปราจีนบุรี ยังกล่าวถึงกรณีกระแสสังคมที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำไมตำรวจถึงไม่ออกหมายจับลูกเขยและหลานของโกทร ทั้งที่อยู่ในบ้านเกิดเหตุด้วย ผู้บังคับการตำรวจปราจีนบุรีระบุ ทั้งสองคนอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุจริง แต่อยู่คนละโซน ไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ยินเพียงเสียงปืนเท่านั้น การจะออกหมายจับใครเพิ่มเติมต้องมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนเท่านั้นจะมาใช้สมมติฐานในการออกหมายจับไม่ได้.-414-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทยอยนำ 3 ร่างผู้เสียชีวิตออกจากใต้ซากตึกถล่ม ส่งสถาบันนิติเวช

นำร่างผู้เสียชีวิต 3 ราย ออกจากใต้ซากอาคารถล่ม ทยอยเคลื่อนออกจากพื้นที่ ส่งสถาบันนิติเวชวิทยา ด้านตำรวจเตรียมดำเนินคดีชาวจีน 4 คน ขนเอกสารอ้างเคลมประกัน

ระดมทีมค้นหาสุดกำลัง ช่วยผู้ที่ติดค้างใต้ซากตึกถล่ม

ระดมทีมค้นหาสุดกำลัง ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างใต้ซากอาคาร สตง. ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว ทุกภาคส่วนยังทำงานแข่งกับเวลาและสภาพอากาศที่ร้อนจัด ล่าสุดมีรายงานพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 4 ราย

“อนุทิน” เซ็นตั้ง คกก.สอบอาคาร สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว

“อนุทิน” เซ็นตั้ง คกก.สอบ หลังตึก สตง.ถล่มจากเหตุแผ่นดิน​ไหว​เพียงตึกเดียว​ คาดรู้ผลใน 7 วัน ยันไล่บี้ตั้งแต่แบบอาคารและการก่อสร้าง ชี้ทั้งบริษัทไทย-จีน​ ต้องรับผิดชอบเต็มร้อย ​ขณะทูตจีนพาผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวพบ

บกปภ.ช. รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว เสียหาย 18 จังหวัด

บกปภ.ช. รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว เสียหายเพิ่มขึ้นเป็น 18 จังหวัด เฉพาะกรุงเทพฯ เสียชีวิต 9 ราย สูญหาย 79 ราย ยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจากอาคารถล่ม ขณะที่กรมบัญชีกลางขยายวงเงินทดรองราชการเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน 200 ล้านบาท