บก.ป. 23 ธ.ค. – รอง ผบช.ก.เผยคดีการเสียชีวิต “สจ.โต้ง” สอบพยานแล้ว 40-50 ปาก ยันไม่หนักใจ ทำทุกอย่างตามพยานหลักฐาน อุบตอบออกหมายจับเพิ่ม
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ “สจ.โต้ง” ว่า คดีนี้รายละเอียดอยู่ในสำนวน ส่วนการตรวจค้นเมื่อวานนี้เพื่อนำมาประกอบพยานหลักฐานต่างๆ หากพบว่ามีอะไรที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับสิ่งที่ต้องการหาพยานหลักฐานก็จะไปทำการตรวจค้น ซึ่งการตรวจค้นมีประโยชน์ในเรื่องการนำมาประกอบสำนวนการสอบสวนแต่ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด ซึ่งพยานหลักฐานมีหลายส่วนที่เป็นประโยชน์ สามารถเชื่อมโยงพฤติการณ์ต่าง ๆ ได้
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าจะมีการออกหมายจับบุคคลใดเพิ่มเติมหรือไม่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มี ส่วนจะมีการย้าย “โกทร” เข้ามาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพหรือไม่ ทางพนักงานสอบสวนจะต้องหารือกันว่าจะพามาช่วงเวลาไหน เพราะการดำเนินการกับตัวผู้ต้องหามีบางส่วนที่ต้องทำการสอบปากคำ จึงต้องพิจารณาว่าการย้ายมาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ หรือที่เดิมอย่างไหนจะสะดวกกว่ากัน เพื่อประโยชน์ต่อการสอบสวน ซึ่งจะต้องพิจารณาอีกครั้ง
ส่วนประเด็นคลิปวงจนปิดขนเงินหลายสิบล้านบาท พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า มีประเด็นอะไรที่เข้ามาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ตำรวจไม่ได้มองข้ามได้ดำเนินการสอบสวนทั้งหมด หากถามถึงที่มาของเงินนั้นอยู่ในสำนวนการสอบสวนไม่สามารถเปิดเผยได้
ถามอีกว่าขณะนี้มีบางบุคคลกล่าวหาว่าตำรวจตั้งธงและบิดเบือนการทำคดีมีความหนักใจหรือไม่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า ไม่หนักใจ เพราะกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือแม้กระทั่งกองบังคับการปราบปราม ดำเนินการสอบสวนในเรื่องต่างๆ ด้วยพยานหลักฐานให้ความเป็นธรรม โดยไม่ได้มีธงว่าจะต้องเอาใครเป็นผู้ร่วมกระทำความผิด หรือใครไม่ใช่ผู้กระทำความผิด ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน ทุกฝ่ายต้องได้รับความเป็นธรรม ทั้งผู้เสียหาย ผู้ถูกกล่าวหา และบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มีหลักการที่ชัดเจนคือ มืออาชีพ เป็นกลาง เคียงข้างประชาชน เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนสบายใจได้ในส่วนนี้
พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า ในคดีนี้ได้มีการสอบปากคำพยานไป 40-50 ปาก ส่วนจะสอบบุคคลใดเพิ่มเติมจะต้องดูในรายละเอียดของสำนวนการสอบสวนอีกครั้งว่าพยานหลักฐานที่ได้มาในภายหลังจะต้องเรียกสอบบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง มีใครที่ทำให้เห็นว่ามีความขัดแย้งหรือไม่ จะต้องมีการพิจารณาในการสอบปากคำเพิ่มเติมให้มีความชัดเจนและรอบคอบ
เมื่อถามว่าจะต้องมีการสอบปากคำ สจ.จอย เพิ่มเติมอีกหรือไม่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ ระบุว่า จะสอบที่ไหนจะต้องพิจารณาอีกครั้งว่าทางผู้เสียหายสะดวกหรือไม่ เพราะตำรวจสามารถดำเนินการสอบปากคำได้ทั้งหมด หากจะเข้ามาสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปรามหรือสอบในพื้นที่ก็สามารถทำได้
ถามถึงกรณีตั้งศูนย์อยู่ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี หากพบของกลางจะต้องนำเข้ามายังกองบังคับการปราบปรามหรือไม่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า ของกลางที่ประกอบสำนวนการสอบสวนจะต้องนำมาอยู่ในความรับผิดชอบที่ส่วนกลางอยู่แล้ว ส่วนการตั้งศูนย์ในพื้นที่เพื่อความสะดวกในการสอบสวนเบื้องต้น เพราะขณะนี้พยานหลักฐานต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่ได้ใช้ทีมงานลงพื้นที่ในการสอบสวนเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ส่วนจะมีใครร่วมกระทำความผิดเพิ่มเติมหรือไม่ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน เพราะต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ. -419- สำนักข่าวไทย