ดับเพิ่มเป็น 3 ราย เหยื่อยาดองมรณะ

27 ส.ค. – เหยื่อยาดองมรณะเสียชีวิตเพิ่มเป็น 3 ราย และอีกนับสิบรายยังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ คาดทราบผลส่วนประกอบของสุราเถื่อน ใน 1-2 วันนี้ ด้านเขตมีนบุรีสั่งปิดร้านยาดองแล้ว 5 แห่ง พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง


ความคืบหน้ากรณีพบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตด้วยอาการภาวะพิษจากเมทานอล จากการดื่มสุราเถื่อนของซุ้มยาดองย่านหทัยราษฎร์ เขตมีนบุรี ระหว่างวันที่ 22-25 ส.ค. 67 ล่าสุดตัวเลขมีผู้ป่วยเพิ่มเติม อัปเดตเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ส.ค.) มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั้งสิ้น 31 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 3 ราย โดยแบ่งพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี 15 ราย (เสียชีวิต 1 ราย), โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 จำนวน 9 ราย (เสียชีวิต 1 ราย), โรงพยาบาลราชวิถี 2 ราย, โรงพยาบาลเสรีรักษ์ 1 ราย (เสียชีวิต 1 ราย), โรงพยาบาลเลิดสิน 1 ราย, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์รามคำแหง 1 ราย, โรงพยาบาลนวมินทร์ 1 ราย และโรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ 1 ราย

ช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ ประชุมติดตามความคืบหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยรุนแรงที่รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู และใส่ท่อช่วยหายใจ 13 คน ซึ่งแพทย์ต้องเฝ้าระวัง เพราะในอนาคตอาจมีภาวะเสี่ยงอาจเป็นผู้พิการทางสายตา


สำหรับผู้ป่วยทั้งหมดที่เข้ารับการรักษาพบว่าเป็นคนไทยที่อาศัยอยู่ในเขตมีนบุรี หนองจอก และคลองสามวา ทุกคนมีประวัติเคยดื่มสุราเถื่อนในพื้นที่ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่านอกเหนือจาก 3 พื้นที่นี้ ยังมีผู้ป่วยที่ไปดื่มสุราเถื่อนมาจากตลาดย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ถูกนำตัวรักษาที่โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี

นายแพทย์ไพโรจน์ ย้ำเตือนประชาชนที่เคยดื่มสุราเถื่อน หรือเคยดื่มในพื้นที่ดังกล่าว หากมีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน และสายตาพร่ามัว เข้ารับการตรวจได้ที่โรงพยาบาลใกล้เคียง ทั้งนี้ ผู้ป่วยบางคนจะออกฤทธิ์ช้า โดยจะออกฤทธิ์ในเวลา 24-48 ชั่วโมง ปกติจากการกลั่นสุราจะพบเมทานอลขึ้นบ้างเล็กน้อยไม่เกิน 1,000 ppm แต่จากการตรวจสอบแหล่งผลิตโรงงานในซอยกาญจนา 25 พบว่ามีเมทานอลสูงถึง 100,000 ppm ที่ผ่านมาโดยเฉลี่ยปีหนึ่งจะมีผู้ป่วย 50-100 คน ส่วนใหญ่เป็นสุราธรรมชาติ ชาวบ้านต้มกลั่นกันเอง ส่วนผลของส่วนประกอบอย่างละเอียดของสุราเถื่อน อยู่ระหว่างการตรวจสอบของศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี คาดผลน่าจะออกมาใน 1-2 วันนี้

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือแนวทางการป้องกันปัญหาการลักลอบผลิต บริโภค และอันตรายของเหล้าเถื่อน โดยมีเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต ร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย


นายสมศักดิ์ เปิดเผยหลังการประชุมนาน 1 ชั่วโมง ว่ามีผู้บริโภคเหล้าเถื่อนเข้ารับการรักษาตัว ตาบอด 1 คน สายตามีปัญหาพร่ามัวมากกว่า 10 คน คาดว่าหลังจากนี้ 1-2 วัน จะมีผู้เข้ามารับการรักษาเพิ่มเติมอีก เนื่องจากยังมีคนซื้อไปเก็บตุนไว้ดื่มที่บ้าน ซึ่งความรุนแรงจะมากน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณที่ดื่มเข้าไป หากดื่มเข้าไปเกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต่อลิตร มีโอกาสเสียชีวิตสูง เพราะเมทิลแอลกอฮอล์ที่ผสมในเหล้าเถื่อนจะเข้าไปทำปฏิกิริยาในร่างกาย ทำให้เกิดเลือดเป็นกรด ทำให้เสียชีวิตได้ โดยเฉพาะคนที่ซื้อเหล้าริมถนนให้รีบสังเกตอาการตัวเอง หากมีอาการปวดท้อง ปวดหัว ตาพร่ามัว ให้รีบพบแพทย์โดยด่วน แม้จะบริโภคในปริมาณน้อยก็ใช่ว่าจะปลอดภัย ดังนั้น ต้องหมั่นสังเกตอาการตัวเอง เพราะกว่าจะเริ่มออกฤทธิ์อาจใช้เวลา 24-48 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์นี้ เมทิลแอลกอฮอล์ที่ใช้ผลิตเหล้าพบว่าเป็นเมทิลแอลกอฮอล์ที่ใช้ผสมสี ซึ่งไม่สามารถบริโภคได้ จึงเป็นพิษต่อร่างกาย

ผู้ต้องหาให้การสั่งซื้อ “เอทิลแอลกอฮอล์” จากเซลส์ย่านบางพลัด
กรมสรรพสามิตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าตรวจสอบต้นตอโรงงานผลิต ผู้ขายทุกร้านรับว่าได้ของมาจาก “เจ๊ปู” ซึ่งตำรวจเชิญตัวเจ๊ปูมาสอบสวนแล้ว ว่ารับสุรามาจากสองพี่น้องคือ นายสุรศักดิ์ และนายสุรชัย ตรวจที่บ้านย่านซอยกาญจนาภิเษก 25 เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ทั้งสองอ้างว่าซื้อเอทิลแอลกอฮอล์ 95 ดีกรี มาแล้วเอามาผสมน้ำเปล่าเพื่อเจือจางให้เหลือ 35 ดีกรี ใส่แกลลอนนำไปส่งให้เจ๊ปู

ล่าสุดพนักงานสอบสวน สน.บางชัน คุมตัวนายสุรศักดิ์ และนายสุรชัย ส่งฝากขังต่อศาลอาญามีนบุรี ข้อหาร่วมกันผลิตสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไว้เพื่อขายซึ่งสุราที่ผลิตโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจะคัดค้านการประกันตัว สำหรับข้อหาดังกล่าวมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มีรายงานว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การซัดทอดว่าสั่งซื้อเอทิลแอลกอฮอล์มาจากเซลส์ย่านบางพลัด ในราคาแกลลอนละ 1,250 บาท ครั้งล่าสุด 20 แกลลอน

เมื่อได้วัตถุดิบมาจะนำมาผสมในถังขนาด 200 ลิตร ในอัตราส่วนเอทิลแอลกอฮอล์ 3 แกลลอนต่อน้ำเปล่า 7 แกลลอน โดยผสมครั้งละ 6 ถัง หรือ 600 ลิตร เป็นประจำ พอกวนวัตถุดิบทั้งสองส่วนเข้ากันจนได้ที่จะใช้เครื่องมือมาตรวจวัดปริมาณดีกรีให้ได้ 35 ดีกรี ก่อนจะบรรจุใส่ถุงขนาด 25 ลิตร ส่งขายราคาถุงละ 900 บาท ทำมาประมาณ 1 ปี มีลูกค้าเจ้าประจำเพียง 1 ราย มารับซื้อเหล้าเถื่อนไปจำหน่ายต่อตามซุ้มยาดอง โดยไม่ทราบว่าเป็นซุ้มยาดองย่านไหนบ้าง เนื่องจากคนซื้อไม่ได้ให้ข้อมูลไว้ ยืนยันว่าใช้เฉพาะเอทิลแอลกอฮอล์เป็นวัตถุดิบหลักในการผสมทำเหล้าเถื่อนเท่านั้น ไม่ได้ใช้เมทิลแอลกอฮอล์แน่นอน เบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ โดยส่งตัวอย่างของกลางให้กองพิสูจน์หลักฐานกลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบหาส่วนผสม หากพบว่ามีส่วนผสมของเมทิลแอลกอฮอล์ หรือส่วนผสมอื่นที่เป็นอันตรายถึงชีวิต จะแจ้งข้อหาเพิ่มต่อไป

เขตมีนบุรีเฝ้าระวังต่อเนื่อง-ตรวจร้านยาดองต้องสงสัย
นายศักดิ์ชัย ใสสุข ผู้อำนวยการเขตมีนบุรี เปิดเผยว่า สำนักงานเขตยังประชุมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง มอบหมายเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินการสั่งปิดร้านยาดองที่รับสุราปลอมไปจำหน่าย 5 แห่ง ในพื้นที่ พร้อมย้ำประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง

จาการสำรวจในเขตพบว่ามีซุ้มยาดองทั้งหมด 7 ร้าน โดยในจำนวนนี้มี 5 ร้าน ที่รับมาจากเครือข่ายเจ๊ปู และล่าสุดเขตพบอีก 2 ร้าน แต่รับยาดองมาจากอีกเครือข่ายหนึ่ง จึงประสานไปที่ตำรวจและสรรพสามิตให้เข้าตรวจสอบแล้ว

จากข้อมูลพบว่าเจ๊ปูรับวัตถุดิบจากย่านสะพานสูง เอามาผสมส่วนประกอบต่างๆ ที่บ้านในซอยหทัยราษฎร์ อ้างว่ามาผสมตามสูตรที่สืบทอดกันมาหลายสิบปี แต่จากการสอบถามญาติผู้ป่วยที่ดื่มประจำ เขาบอกว่าครั้งนี้รสชาติเปลี่ยนไป จึงตั้งข้อสงสัยว่าลอตนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมหรือไม่

ขณะที่จากประกาศแจ้งเตือนพิกัดร้านผู้ที่เคยไปดื่มซุ้มยาดองที่รับมาจากเครือข่ายร้านเจ๊ปู 18 แห่ง โดยแบ่งเป็นในพื้นที่เขตมีนบุรี 5 แห่ง เขตหนองจอก 1 แห่ง เขตคลองสามวา 9 แห่ง เขตลาดกระบัง ประเวศ และคันนายาว เขตละ 1 แห่ง เจ้าหน้าที่ยังต้องลงสอบถามให้ได้ว่าซุ้มดังกล่าวมีใครเป็นลูกค้าขาจรและขาประจำ โดยอาจมีบางคนซื้อกลับบ้านไปแช่ตู้เย็นไว้และเพิ่งนำมาดื่ม ทำให้เพิ่งมีอาการ นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าอาจมีกระจายไปตามซุ้มยาดองมากกว่านี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]