ดับเพิ่มเป็น 3 ราย เหยื่อยาดองมรณะ

27 ส.ค. – เหยื่อยาดองมรณะเสียชีวิตเพิ่มเป็น 3 ราย และอีกนับสิบรายยังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ คาดทราบผลส่วนประกอบของสุราเถื่อน ใน 1-2 วันนี้ ด้านเขตมีนบุรีสั่งปิดร้านยาดองแล้ว 5 แห่ง พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง


ความคืบหน้ากรณีพบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตด้วยอาการภาวะพิษจากเมทานอล จากการดื่มสุราเถื่อนของซุ้มยาดองย่านหทัยราษฎร์ เขตมีนบุรี ระหว่างวันที่ 22-25 ส.ค. 67 ล่าสุดตัวเลขมีผู้ป่วยเพิ่มเติม อัปเดตเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ส.ค.) มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั้งสิ้น 31 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 3 ราย โดยแบ่งพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี 15 ราย (เสียชีวิต 1 ราย), โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 จำนวน 9 ราย (เสียชีวิต 1 ราย), โรงพยาบาลราชวิถี 2 ราย, โรงพยาบาลเสรีรักษ์ 1 ราย (เสียชีวิต 1 ราย), โรงพยาบาลเลิดสิน 1 ราย, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์รามคำแหง 1 ราย, โรงพยาบาลนวมินทร์ 1 ราย และโรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ 1 ราย

ช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ ประชุมติดตามความคืบหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยรุนแรงที่รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู และใส่ท่อช่วยหายใจ 13 คน ซึ่งแพทย์ต้องเฝ้าระวัง เพราะในอนาคตอาจมีภาวะเสี่ยงอาจเป็นผู้พิการทางสายตา


สำหรับผู้ป่วยทั้งหมดที่เข้ารับการรักษาพบว่าเป็นคนไทยที่อาศัยอยู่ในเขตมีนบุรี หนองจอก และคลองสามวา ทุกคนมีประวัติเคยดื่มสุราเถื่อนในพื้นที่ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่านอกเหนือจาก 3 พื้นที่นี้ ยังมีผู้ป่วยที่ไปดื่มสุราเถื่อนมาจากตลาดย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ถูกนำตัวรักษาที่โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี

นายแพทย์ไพโรจน์ ย้ำเตือนประชาชนที่เคยดื่มสุราเถื่อน หรือเคยดื่มในพื้นที่ดังกล่าว หากมีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน และสายตาพร่ามัว เข้ารับการตรวจได้ที่โรงพยาบาลใกล้เคียง ทั้งนี้ ผู้ป่วยบางคนจะออกฤทธิ์ช้า โดยจะออกฤทธิ์ในเวลา 24-48 ชั่วโมง ปกติจากการกลั่นสุราจะพบเมทานอลขึ้นบ้างเล็กน้อยไม่เกิน 1,000 ppm แต่จากการตรวจสอบแหล่งผลิตโรงงานในซอยกาญจนา 25 พบว่ามีเมทานอลสูงถึง 100,000 ppm ที่ผ่านมาโดยเฉลี่ยปีหนึ่งจะมีผู้ป่วย 50-100 คน ส่วนใหญ่เป็นสุราธรรมชาติ ชาวบ้านต้มกลั่นกันเอง ส่วนผลของส่วนประกอบอย่างละเอียดของสุราเถื่อน อยู่ระหว่างการตรวจสอบของศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี คาดผลน่าจะออกมาใน 1-2 วันนี้

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือแนวทางการป้องกันปัญหาการลักลอบผลิต บริโภค และอันตรายของเหล้าเถื่อน โดยมีเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต ร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย


นายสมศักดิ์ เปิดเผยหลังการประชุมนาน 1 ชั่วโมง ว่ามีผู้บริโภคเหล้าเถื่อนเข้ารับการรักษาตัว ตาบอด 1 คน สายตามีปัญหาพร่ามัวมากกว่า 10 คน คาดว่าหลังจากนี้ 1-2 วัน จะมีผู้เข้ามารับการรักษาเพิ่มเติมอีก เนื่องจากยังมีคนซื้อไปเก็บตุนไว้ดื่มที่บ้าน ซึ่งความรุนแรงจะมากน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณที่ดื่มเข้าไป หากดื่มเข้าไปเกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต่อลิตร มีโอกาสเสียชีวิตสูง เพราะเมทิลแอลกอฮอล์ที่ผสมในเหล้าเถื่อนจะเข้าไปทำปฏิกิริยาในร่างกาย ทำให้เกิดเลือดเป็นกรด ทำให้เสียชีวิตได้ โดยเฉพาะคนที่ซื้อเหล้าริมถนนให้รีบสังเกตอาการตัวเอง หากมีอาการปวดท้อง ปวดหัว ตาพร่ามัว ให้รีบพบแพทย์โดยด่วน แม้จะบริโภคในปริมาณน้อยก็ใช่ว่าจะปลอดภัย ดังนั้น ต้องหมั่นสังเกตอาการตัวเอง เพราะกว่าจะเริ่มออกฤทธิ์อาจใช้เวลา 24-48 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์นี้ เมทิลแอลกอฮอล์ที่ใช้ผลิตเหล้าพบว่าเป็นเมทิลแอลกอฮอล์ที่ใช้ผสมสี ซึ่งไม่สามารถบริโภคได้ จึงเป็นพิษต่อร่างกาย

ผู้ต้องหาให้การสั่งซื้อ “เอทิลแอลกอฮอล์” จากเซลส์ย่านบางพลัด
กรมสรรพสามิตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าตรวจสอบต้นตอโรงงานผลิต ผู้ขายทุกร้านรับว่าได้ของมาจาก “เจ๊ปู” ซึ่งตำรวจเชิญตัวเจ๊ปูมาสอบสวนแล้ว ว่ารับสุรามาจากสองพี่น้องคือ นายสุรศักดิ์ และนายสุรชัย ตรวจที่บ้านย่านซอยกาญจนาภิเษก 25 เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ทั้งสองอ้างว่าซื้อเอทิลแอลกอฮอล์ 95 ดีกรี มาแล้วเอามาผสมน้ำเปล่าเพื่อเจือจางให้เหลือ 35 ดีกรี ใส่แกลลอนนำไปส่งให้เจ๊ปู

ล่าสุดพนักงานสอบสวน สน.บางชัน คุมตัวนายสุรศักดิ์ และนายสุรชัย ส่งฝากขังต่อศาลอาญามีนบุรี ข้อหาร่วมกันผลิตสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไว้เพื่อขายซึ่งสุราที่ผลิตโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจะคัดค้านการประกันตัว สำหรับข้อหาดังกล่าวมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มีรายงานว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การซัดทอดว่าสั่งซื้อเอทิลแอลกอฮอล์มาจากเซลส์ย่านบางพลัด ในราคาแกลลอนละ 1,250 บาท ครั้งล่าสุด 20 แกลลอน

เมื่อได้วัตถุดิบมาจะนำมาผสมในถังขนาด 200 ลิตร ในอัตราส่วนเอทิลแอลกอฮอล์ 3 แกลลอนต่อน้ำเปล่า 7 แกลลอน โดยผสมครั้งละ 6 ถัง หรือ 600 ลิตร เป็นประจำ พอกวนวัตถุดิบทั้งสองส่วนเข้ากันจนได้ที่จะใช้เครื่องมือมาตรวจวัดปริมาณดีกรีให้ได้ 35 ดีกรี ก่อนจะบรรจุใส่ถุงขนาด 25 ลิตร ส่งขายราคาถุงละ 900 บาท ทำมาประมาณ 1 ปี มีลูกค้าเจ้าประจำเพียง 1 ราย มารับซื้อเหล้าเถื่อนไปจำหน่ายต่อตามซุ้มยาดอง โดยไม่ทราบว่าเป็นซุ้มยาดองย่านไหนบ้าง เนื่องจากคนซื้อไม่ได้ให้ข้อมูลไว้ ยืนยันว่าใช้เฉพาะเอทิลแอลกอฮอล์เป็นวัตถุดิบหลักในการผสมทำเหล้าเถื่อนเท่านั้น ไม่ได้ใช้เมทิลแอลกอฮอล์แน่นอน เบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ โดยส่งตัวอย่างของกลางให้กองพิสูจน์หลักฐานกลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบหาส่วนผสม หากพบว่ามีส่วนผสมของเมทิลแอลกอฮอล์ หรือส่วนผสมอื่นที่เป็นอันตรายถึงชีวิต จะแจ้งข้อหาเพิ่มต่อไป

เขตมีนบุรีเฝ้าระวังต่อเนื่อง-ตรวจร้านยาดองต้องสงสัย
นายศักดิ์ชัย ใสสุข ผู้อำนวยการเขตมีนบุรี เปิดเผยว่า สำนักงานเขตยังประชุมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง มอบหมายเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินการสั่งปิดร้านยาดองที่รับสุราปลอมไปจำหน่าย 5 แห่ง ในพื้นที่ พร้อมย้ำประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง

จาการสำรวจในเขตพบว่ามีซุ้มยาดองทั้งหมด 7 ร้าน โดยในจำนวนนี้มี 5 ร้าน ที่รับมาจากเครือข่ายเจ๊ปู และล่าสุดเขตพบอีก 2 ร้าน แต่รับยาดองมาจากอีกเครือข่ายหนึ่ง จึงประสานไปที่ตำรวจและสรรพสามิตให้เข้าตรวจสอบแล้ว

จากข้อมูลพบว่าเจ๊ปูรับวัตถุดิบจากย่านสะพานสูง เอามาผสมส่วนประกอบต่างๆ ที่บ้านในซอยหทัยราษฎร์ อ้างว่ามาผสมตามสูตรที่สืบทอดกันมาหลายสิบปี แต่จากการสอบถามญาติผู้ป่วยที่ดื่มประจำ เขาบอกว่าครั้งนี้รสชาติเปลี่ยนไป จึงตั้งข้อสงสัยว่าลอตนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมหรือไม่

ขณะที่จากประกาศแจ้งเตือนพิกัดร้านผู้ที่เคยไปดื่มซุ้มยาดองที่รับมาจากเครือข่ายร้านเจ๊ปู 18 แห่ง โดยแบ่งเป็นในพื้นที่เขตมีนบุรี 5 แห่ง เขตหนองจอก 1 แห่ง เขตคลองสามวา 9 แห่ง เขตลาดกระบัง ประเวศ และคันนายาว เขตละ 1 แห่ง เจ้าหน้าที่ยังต้องลงสอบถามให้ได้ว่าซุ้มดังกล่าวมีใครเป็นลูกค้าขาจรและขาประจำ โดยอาจมีบางคนซื้อกลับบ้านไปแช่ตู้เย็นไว้และเพิ่งนำมาดื่ม ทำให้เพิ่งมีอาการ นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าอาจมีกระจายไปตามซุ้มยาดองมากกว่านี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”