กรุงเทพฯ 18 ธ.ค. – ค้นบ้าน 1 ในผู้ต้องหา ร่วมขบวนการ ขับกระบะไปรับ 2 ผู้ก่อเหตุ ยิงน้องหยอด-ครูเจี๊ยบ
พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจค้นบ้านพักภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านมีนบุรี พร้อมกับนำตัวนายนพวุฒิ มาชี้จุดเกิดเหตุ โดยภายในบ้านไม่มีผู้อาศัย ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ มีเพียงรถยนต์จอดอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ตรวจค้นภายในรถพบกระเป๋าเป้สีเทา 1 ใบ เมื่อตรวจพบภายในกระเป๋าพบกล่องสีดำ บรรจุอาวุธปืน ซึ่งมีการล็อคกุญแจ และในกระเป๋ามีพวงกุญแจอยู่ เมื่อเปิดออกพบว่าข้างในบรรจุปืนโอโตเมติก ยี่ห้อโคลท์ 1911 ขนาด .45 ไม่มีทะเบียน พร้อมกระสุนขนาด .45 จำนวน 36 นัด, กระสุนขนาด .38 จำนวน 3 นัด, แม็กกาซีน 2 อัน และเสื้อผ้า 1 ชุด โดยนายนพวุฒิ ยืนยันว่า ตนเป็นเจ้าของปืนและพกติดตัวไว้เพื่อป้องกันตัวเท่านั้น ซึ่งซื้อผ่านทางโซเชียลในราคา 4 หมื่นกว่าบาท
นอกจากนี้ จากการตรวจยังพบถังน้ำมันสีดำ 1 แกลลอน 10 ลิตร โดยอ้างว่าตนชอบเดินป่าจึงได้มีการซื้อน้ำมันติดรถไว้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ คาดว่าเป็นการหลบเลี่ยง กล้องวงจรปิดภายในปั๊มน้ำมัน น่าจะเตรียมไว้ทำภารกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง
ภายหลังการตรวจค้น พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า นายนพวุฒิ เป็นผู้ขับรถกระบะไปรับ 2 ผู้ก่อเหตุที่ยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอดเสียชีวิต ที่หลังจากก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ไปพ่นศรีที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แล้วขับขี่ต่อไปที่อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี จากนั้นนายนพวุฒิจึงได้ขับรถกระบะมิตซูบิชิ ไททั่น ไปรับทั้ง 2 คน เพื่อหลบหนี ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบทั้งรถกระบะ และรถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุ
หลังจากนายนพวุฒิ ไปรับส่ง 2 ผู้ต้องหาเสร็จก็ได้ให้แฟนสาวขับรถเก๋งคันที่จอดอยู่ในบ้านไปรับกลับมากรุงเทพมหานคร และนำรถมาจอดหลบซ่อนไว้ในบ้านหลังนี้ โดยบ้านหลังนี้เพิ่งซื้อได้ไม่นาน มีชื่อแม่ของนายนพวุฒิเป็นเจ้าของ ส่วนรถยนต์เป็นชื่อของนายนพวุฒิ จากการตรวจสอบพบว่า นายนพวุฒิยังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 โดยเรียนไปด้วย และทำงานเป็นช่างแอร์ไปด้วย จึงมีเงินคอยสนับสนุนกลุ่มเพื่อน
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า เนื่องจากนายนพวุฒิเป็นนักศึกษาจึงอยากให้ตั้งใจเรียน และอยากเตือนว่าการพกพาอาวุธปืนแบบนี้เจตนาส่อไปในทางไม่ดี ซึ่งเชื่อว่าจะมีนักศึกษาแค่ส่วนน้อย ที่มีความเชื่อและความคิดแบบผิด ๆ
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ต้องหาที่ออกหมายจับ 14 คน ในวันนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จับกุมได้ 12 คน โดยหลังจากนี้จะนำตัวนายนพวุฒิ ไปยังกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล เพื่อสอบปากคำและขยายผลเพิ่มเติมต่อไป. -413-สำนักข่าวไทย