กรุงเทพฯ 18 ธ.ค. – พ่อของนิสิตสาวปริญญาเอกหนีคนเมาบุกเคาะห้อง ตกใจกลัวจึงพยายามหนีด้วยการปีนระเบียงหลังห้องพัก ก่อนพลัดตกจากชั้น 6 ลงมาเสียชีวิต ลุยโรงพัก ดำเนินคดีผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด พร้อมฝากถึงผู้ก่อเหตุให้มีจิตสำนึกมากกว่านี้ และขอให้พูดความจริงวันเกิดเหตุให้หมด
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พานายสมชาย อายุ 60 ปี พ่อของ น.ส.เฟิร์น อายุ 27 ปี นักศึกษาปริญญาเอก ที่พลัดตกจากแมนชั่นชั้น 6 ซ.ลาดปลาเค้า 3 จนเสียชีวิต เหตุเพราะตกใจถูกบุกเคาะห้องเสียงดังในช่วงเวลา 04.00 น. ของวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา มาทวงถามความคืบหน้าคดีที่ สน.โชคชัย
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากผู้ก่อเหตุขึ้นไปเคาะประตูห้องดังมาก และใช้ถ้อยคำส่งเสียงดังโวยวาย เพราะเข้าใจว่าผู้เสียชีวิตไปจอดรถมอเตอร์ไซค์ทับที่จอดของตัวเอง เนื่องจากรับฟังมาจากแม่บ้านผู้ดูแลแมนชั่นว่ามอเตอร์ไซค์ที่มาจอดอาจเป็นของห้องพักผู้เสียชีวิต ช่วงเกิดเหตุ น.ส.เฟิร์น อยู่ชั้น 6 แต่เพื่อนของ น.ส.เฟิร์น ที่อยู่ชั้น 3 ได้ยินเสียงดังเช่นกัน
ด้วยความกลัว ทำให้ น.ส.เฟิร์น รีบแชทข้อความบอกเพื่อนที่อยู่ชั้น 3 ให้ช่วยเหลือ แต่เพื่อนยังไม่กล้าขึ้นไปช่วย เพราะเกรงว่าผู้ก่อเหตุอาจมีอาวุธ จึงรีบลงไปที่ชั้น 1 เพื่อเรียก รปภ. แต่ระหว่างนั้นน.ส.เฟิร์น กลัวผู้ก่อเหตุจะพังห้องเข้ามา จึงอยากหนีออกไปด้วยการปีนระเบียงหลังห้องจะข้ามไปยังห้องข้างๆ แต่ท้ายสุดพลัดตกตึกจากห้องพักชั้น 6 กระแทกหลังคาโรงจอดรถลงมายังพื้นชั้นล่าง ซึ่งเพื่อนและ รปภ. ที่เตรียมจะขึ้นไปหาตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก
ด้านนายสมชาย อายุ 60 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ลูกสาวเป็นคนกลัวเสียงดังมาตั้งแต่เด็ก สิ่งที่เกิดขึ้นตนเสียใจอย่างยิ่ง ตนมีลูกสาวที่เรียนเก่งและเป็นนักเรียนทุน แต่กลับต้องเสียชีวิตจากการกระทำของคนที่ขาดสติมึนเมา เพราะความเข้าใจผิดว่าลูกสาวไปจอดทับที่มอเตอร์ไซค์ อีกทั้งตนมองว่าผู้ก่อเหตุมีลักษณะคล้ายคนดื่มสุรา แต่กลับไม่มีการตรวจสารเสพติด เพราะมองว่าแค่เรื่องมูลเหตุการจอดทับที่มอเตอร์ไซค์ทำไมจึงต้องมีการคลุ้มคลั่งขนาดนั้น ท้ายที่สุดมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวไม่ใช่ของลูกสาวตน ตนอยากให้ผู้ก่อเหตุมีจิตสำนึกบ้าง และประสงค์ให้ตำรวจช่วยดำเนินคดีให้ครอบคลุมทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย