สตม.ยันยังไม่พบความเคลื่อนไหวบุคคลที่เป็นภัยความมั่นคงช่วงเอเปค

กรุงเทพฯ 13 พ.ย. – ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยืนยันขณะนี้ยังไม่พบความเคลื่อนไหวบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงเข้ามาในประเทศ ในช่วงที่จะมีการประชุมผู้นำเอเปค เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดตามแนวชายแดนและสนามบิน เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยว


พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมรักษาความปลอดภัยภายในประเทศ ในช่วงที่จะมีการประชุมเอเปค เพื่อป้องกันบุคคลที่อาจเข้ามาสร้างสถานการณ์ในช่วงนี้

พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ ยอมรับว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยว จึงมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศจำนวนมาก และเป็นช่วงเดียวกันกับการประชุมเอเปค แต่ยืนยันว่า มีมาตรการตรวจสอบชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศอย่างเข้มงวด ขณะนี้ยังไม่พบบุคคลที่มีลักษณะต้องห้าม ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง โดยเฉพาะบุคคลที่เป็นภัยความมั่นคงของประเทศคู่ขัดแย้งที่ร่วมประชุมเอเปค


สำหรับช่วงที่ผ่านมา สตม. สืบสวน ติดตาม และปฏิเสธคนเข้าเมืองกว่า 2,000 คน ที่มีลักษณะบุคคลต้องห้าม หรือโอเวอร์สเตย์ อยู่เกินกฎหมายกำหนด โดย สตม.ได้ติดตามและมีข้อมูลนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทยทั้งหมด หากเกิดเหตุต้องสงสัย สามารถเข้าดำเนินคดี สืบสวน และผลักดันออกนอกประเทศได้ทันทีตามกฎหมาย และหากพบข้อมูลว่าจะมีบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงในประเทศคู่ขัดแย้งเดินทางเข้าประเทศ ทาง สตม.ได้ประสานข้อมูลอาชญากรของประเทศนั้นๆ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหว และสามารถระงับการเดินทางได้ทันที

ส่วนกรณีที่โซเชียลมีการเผยแพร่ภาพภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณจุดตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวหนาแน่น ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ชี้แจงว่า ขณะนี้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ช่วงรุ่งเช้า และช่วงบ่ายตั้งแต่ 14.00 น. จะมีสายการบินและนักท่องเที่ยวเข้ามาพร้อมกันจำนวนมาก จึงทำให้เกิดภาพดังกล่าว การตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีปริมาณนักท่องเที่ยวหนาแน่น สตม.จะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำตามเคาน์เตอร์ และจะคลี่คลายนักท่องเที่ยวได้หมดภายในครึ่งชั่วโมง กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ยืนยันว่า ที่ผ่านมา สตม.ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ โดยเน้นย้ำเรื่องความมั่นคง การตรวจคัดกรอง ซึ่งมีขั้นตอนในการตรวจสอบหลายขั้นตอน โดยมีมาตรฐาน คือ ใช้เวลาในการตรวจสอบ 45 วินาที ต่อนักท่องเที่ยว 1 คน หากมีบุคคลที่มีปัญหาจะใช้เวลา 1 นาที ถึง 1 นาที 15 วินาที ปัญหาเกิดขึ้นเหมือนกันกับต่างประเทศ และประเทศไทยสามารถปฏิบัติได้ตามมาตรฐาน. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

เร่งล่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัวคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต ก่อนเผารถ ฉกปืนพกสั้น 9 มม. หลบหนี ทั้งยังพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดในพื้นที่ยะลาอีกหลายจุด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน