สตม.แถลงจับกุมผู้ต้องหา 4 คดีสำคัญ

ตม. 14 ม.ค. – สตม. แถลง 4 คดีสำคัญ จับรองหัวหน้ายากูซ่าวางฐานคอลเซ็นเตอร์กลางเมืองพัทยา พร้อมรวบหนุ่มแดนกังหันลม หลอกขายทองหวังฉกดอลลาร์


พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รอง ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) หัวหน้ากลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชูวงษ์ อุทัยสาง ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา 4 คดีใหญ่

พ.ต.อ.ชย เปิดเผยว่า คดีที่ 1 รวบรองหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยากูซ่าญี่ปุ่น สืบเนื่องจากการขยายผลการจับกุมผู้กระทำความผิดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยากูซ่าญี่ปุ่นที่หลอกคนญี่ปุ่น โดยมาตั้งฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในจังหวัดชลบุรี ซึ่งเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.67 สามารถจับกุมชายชาวญี่ปุ่นจำนวน 5 คน และยังมีอีก 3 คน ที่ยังไม่ถูกจับกุม จึงได้ทำการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรคนต่างด้าวทั้ง 8 คน และขึ้นบัญชีเป็นบุคคลเฝ้าระวัง กระทั่งวันที่ 12 ม.ค.68 เวลาประมาณ 22.30 น. เจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม. ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่งานตรวจคนเข้าเมืองขาออกด่าน ตม.ทอ.กรุงเทพ บก.ตม.2 ว่าได้ตรวจพบ นาย HAMAJI (นามสมมติ) อายุ 41 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งเป็น 1 ใน 3 คน ที่ยังไม่ถูกจับกุม จะเดินทางออกจากประเทศไทย เจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม. จึงได้ร่วมเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองขาออกด่าน ตม.ทอ.กรุงเทพ บก.ตม.2 ควบคุมตัวนาย HAMAIJI เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้นาย HAMAJI เป็นรองหัวหน้าของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าว ทำหน้าที่บริหารจัดการต่างๆ ภายในแก๊งและรับคำสั่งจากหัวหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุม


พ.ต.อ.ชูวงษ์ กล่าวว่า คดีที่ 2 รวบหนุ่มแดนโสมหลังมั่วสุมปาร์ตี้ยา บนโรงแรมหรูย่านทองหล่อ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการปิดล้อมตรวจค้นงานปาร์ตี้มั่วสุมยาเสพติด ภายในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ย่านทองหล่อ ซึ่งเบื้องต้นพบเป็น กลุ่มนักท่องเที่ยวเพศชาย หนุ่มหล่อกล้ามโต ทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าร่วมงานจำนวนทั้งสิ้น 124 คน พร้อมกับของกลางเป็นสารเสพติดในบริเวณงานปาร์ตี้ ต่อมาเมื่อวันที่ 13 ม.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า นายโจวอน (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ในข้อหา “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต และสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน“ ซึ่งผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยกับเพื่อนที่คอนโดย่านแขวงสามเสนนอก จึงได้นำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ จนสามารถติดตามจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.อ.ธวัชชัย กล่าวว่า คดีที่ 3 รวบชายชาวไนจีเรียนลักลอบขายคีตามีนในย่านนานา สืบเนื่องจาก กก.1 บก.สส.สตม. ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีชายชาวต่างชาติผิวสีลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในย่านนานา จึงได้วางแผนจับกุม โดยให้สายลับติดต่อขอซื้อยาเสพติด โดยนัดหมายส่งมอบภายในร้านสินค้า ในซอยสุขุมวิท 5 จนกระทั่งนายเคนเนดี้ (นามสมมติ) อายุ 38 ปี สัญชาติไนจีเรียน ได้มาพบกับสายลับตามนัดหมาย จากนั้นได้ส่งมอบยาเสพติดตามที่ตกลงซื้อขายกันให้กับสายลับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงเข้าทำการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบยาเสพติดของกลาง ซึ่งบรรจุอยู่ในพลาสติกใส ห่อหุ้มด้วยเทปกาวพลาสติกสีดำจำนวน 30 ก้อน ซุกซ่อนอยู่ในกล่องยาสีฟัน และทำการตรวจค้นตัวนายเคนเนดี้พบเงินสดที่ใช้ล่อซื้ออยู่ในมือซ้าย ต่อมาได้ตรวจค้นห้องพักของนายเคนเนดี้ พบซองพลาสติกและเทปพันสายไฟสีดำเช่นเดี๋ยวกับที่ใช้พันยาเสพติดของกลาง จึงตรวจยืดไว้เป็นของกลาง สอบถามนายเคนเนดี้ยอมรับว่ายาเสพติด (คีตามีน) ของกลางดังกล่าวเป็นของตนเอง ซึ่งได้นำมาจำหน่ายให้กับสายลับในราคา 60,000 บาท ตามที่ตกลงซื้อขายกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.อ.ธวัชชัย กล่าวว่า คดีที่ 4 รวบหนุ่มแดนกังหันลม หลอกขายทองหวังฉกดอลลาร์ สืบเนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนว่ามีชายชาวผิวสีมีพฤติกรรมหลอกขายเม็ดทองคําในราคาถูกนําเข้าจากแอฟริกา เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.สส.สตม. จึงได้ทําการสืบสวนจนพบผู้กระทําความผิดคือหนุ่ม ชาวดัตช์ อายุ 43 ปี โดยจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งภายในซอยสุขุมวิท 5 เขตวัฒนา กรุงเทพฯ จากการตรวจค้นห้องพักพบกระเป๋าเสื้อผ้าภายในบรรจุสิ่งของเม็ดทองคําปลอมนํ้าหนัก 5 กิโลกรัม 1 ถุง และถุงพลาสติกบรรจุสิ่งของลักษณะคล้ายเม็ดทองคําหนักประมาณ 100 กรัม 2 ถุง เป็นเม็ดทองคําจริงเพียง 1 ถุง โดยผู้ต้องหาให้การว่าซื้อเม็ดทองคํามาจากประเทศจีน เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดเม็ดทองคําทั้งหมดพร้อมเงินสดสกุลดอลลาร์สหรัฐ เงินเยน และเงินปอนด์ รวม 117,600 บาท อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ทําการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรพร้อมขึ้นบัญชีแบล็คลิสก่อนคุมตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อกักตัวและเตรียมผลักดันออกนอกประเทศและจะทําการสืบสวนหาผู้ร่วมขบวนการเพื่อติดตามตัวมาดําเนินคดีตามกฎหมาย


นอกจากนี้ พล.ต.ต.พันธนะ ยังเปิดเผยแนวทางการสกัดกั้นกลุ่มชาวต่างชาติ โดยเฉพาะคนจีน ที่ปัจจุบัน อาศัยประเทศไทยเป็นทางผ่าน เพื่อหลอกผู้เสียหายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และขบวนการคอลเซ็นเตอร์ที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐานปล่อยสัญญาณก่อเหตุอาชญากรรม ว่า ที่ผ่านมาสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้มีการเคร่งครัดกรองชาวต่างชาติ ซึ่งอาจมีพฤติกรรมเข้ามาก่อเหตุอาชญากรรมในประเทศไทย และมีพฤติการณ์ไม่ปฏิบัติตาม ข้อกำหนดการอยู่ในประเทศไทย แต่กรณีที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อาจเข้าข่ายไม่พบความผิดปกติในกลุ่มบุคคลที่เดินทางเข้ามา ซึ่งหลังเกิดเหตุทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้สั่งการให้ ชุดสืบสวนติดตามกระบวนการตั้งแต่ผู้ที่เข้ามารับคนจากสนามบินออกไปทางประเทศเพื่อนบ้าน การเดินทางเข้าประเทศและความถี่ในการเดินทางเข้าประเทศ เพื่อนำมาใช้วิเคราะห์และเก็บไว้ในฐานข้อมูล สำหรับใช้ในการสืบสวนสอบสวน

ส่วนกรณีกลุ่มคนจีนที่เข้ามาตั้งฐานกระบวนการคอลเซ็นเตอร์โดยการติดตั้งกล่องซิมบ็อกซ์ไว้ในประเทศไทยก่อนเดินทางออกนอกประเทศนั้น ยืนยันว่า หากพนักงานสอบสวนพบความผิดและมีการออกหมายจับ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะมีการทำแบล็คลิสต์ไว้อยู่แล้ว แต่หากสืบสวนแล้วไม่พบการกระทำความผิดที่ชัดเจนเจ้าหน้าที่จะใช้วิธีการขึ้นวอทช์ลิสต์ไว้ หากพบมีการเดินทางเข้าประเทศอีก ก็จะให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเฝ้าติดตามพฤติกรรม .-419- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]

รอง ผบ.ตร. ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที

สระแก้ว 18 ก.ย. – รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว ปรับแผนเตรียมรับมือ ป้องกันเหตุบานปลาย จ่อใช้กฎหมายดำเนินคดี ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที หลังจากเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมกับติดตามสถานการณ์ร่วมกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และกรมป่าไม้ ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อปรับแผนเตรียมรับมือหากเกิดความไม่สงบขึ้น หลังจากการประชุม เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อหาวิธีไม่ให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ แนวทางการปฏิบัติคือจะใช้กฎหมายจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ขอให้มั่นใจว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เป็นกฎหมายนำในการดำเนินคดี เมื่อมีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจะจับกุมทันที และยังคงเน้นย้ำให้กำลังพลอดทนอดกลั้น รวมถึงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อระบุตัวตนและดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อความวุ่นวาย ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตหนนี้เป็นหนที่ 3 ที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ก่อนหน้านี้มีชาวกัมพูชาอพยพมาอาศัยอยู่หมู่บ้านจำนวนมาก […]

เร่งล่าโจรบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน

สระบุรี 18 ก.ย. – ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน บังคับเจ้าของร้านหยิบทองใส่ถุงผ้า มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ก่อนออกจากร้านซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไป วงจรปิดร้านทองภายในตลาดใหม่ท่าลาน ริมถนนสายท่าลาน-ห้วยบง ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีแดง สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม กางเกงยีน รองเท้าเตะ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมจี้ลูกค้าในร้านเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงสูงอายุ ส่งเงินและทองให้ ตอนแรกเจ้าของร้านพยายามเจรจาต่อรอง แต่คนร้ายต้องการเงินและข่มขู่จะฆ่าตัวประกันหากไม่ส่งทองให้ สุดท้ายเจ้าของร้านต้องหยิบทองให้คนร้ายไป เป็นสร้อยข้อมือทองคำเส้นละ 1 สลึง จำนวน 11 เส้น เป็นเงิน 220,000 บาท จากนั้นคนร้ายปล่อยตัวประกัน ก่อนจะออกจากร้านขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ตำรวจ สภ.บ้านหมอ ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ สืบสวนหาข้อมูลและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เชื่อว่าไม่นานจะจับคนร้ายได้.-สำนักข่าวไทย

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]