ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนยูเอ็นจะเยือนเขตซินเจียงของจีน

ปักกิ่ง 23 พ.ค. – นางมิเชล บาเชเลต์ ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ จะเริ่มต้นภารกิจเยือนจีนในวันนี้เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นคนแรกที่เดินทางเยือนจีนในรอบเกือบ 20 ปี แหล่งข่าวไม่เผยนามด้านการทูตของจีนระบุว่า นางบาเชเลต์ ซึ่งเป็นอดีตประธานาธิบดีชิลี มีกำหนดเข้าร่วมประชุมแบบเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์กับคณะทูตราว 70 คนในวันนี้ จากนั้น เธอจะเดินทางไปยังนครอุรุมชีและเมืองคัชการ์ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ รวมถึงนครกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน ขณะที่สำนักงานของนางบาเชเลต์ระบุว่า นางบาเชเลต์จะพบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนหลายคน องค์กรภาคสังคม ตัวแทนธุรกิจ และนักวิชาการ ทั้งนี้ การเดินทางเยือนจีนของนางบาเชเลต์มีขึ้นในขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนถูกกล่าวหาว่า คุมขังชาวมุสลิมอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยมุสลิมอื่น ๆ ไว้ที่ค่ายปรับทัศนคติในเขตซินเจียงมาเป็นเวลานานหลายปี จีนให้เหตุผลว่าเป็นการปราบปรามด้านความมั่นคง ขณะที่สหรัฐระบุว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่จีนปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นเรื่องโกหกครั้งใหญ่ ในขณะเดียวกัน นายเนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการเดินทางเยือนจีนของนางบาเชเลต์ว่า สหรัฐไม่ได้คาดหวังว่าจีนจะอนุญาตให้นางบาเชเลต์สามารถประเมินสภาพแวดล้อมด้านสิทธิมนุษยชนในเขตซินเจียงโดยสมบูรณ์และไร้การควบคุมจากรัฐบาลจีน. -สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” เปิดตัวกรอบเศรษฐกิจ 13 ประเทศที่มีไทยรวมอยู่ด้วย

โตเกียว 23 พ.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเปิดตัวกรอบเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิกเพื่อความรุ่งเรือง (Indo-Pacific Economic Framework for Prosperity หรือ IPEF) โดยให้สมาชิก 13 ประเทศที่มีไทยรวมอยู่ด้วยเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องแนวทางการปฏิบัติตามข้อตกลง และเรื่องจะให้จีนเข้าร่วมกลุ่มด้วยหรือไม่ ประธานาธิบดีไบเดนเปิดตัวเรื่องนี้ที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นในวันนี้ ซึ่งเป็นการเยือนเอเชียครั้งแรกตั้งแต่รับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม 2564 ทำเนียบขาวสหรัฐแถลงว่า กรอบเศรษฐกิจนี้จะไม่มีเรื่องการช่วยเหลือด้านภาษีหรือการเข้าถึงตลาด แต่จะปูทางไปสู่ประเด็นสำคัญตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไปจนถึงความยืดหยุ่นด้านห่วงโซ่อุปทานและการค้าดิจิทัล นางจินา เรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐกล่าวว่า การเปิดตัวเรื่องนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของสหรัฐที่จะกลับมาเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และให้ประเทศในภูมิภาคนี้มีทางเลือกในประเด็นสำคัญเหล่านี้ นอกเหนือไปจากแนวทางแบบจีน คณะเจ้าหน้าที่สหรัฐเผยว่า ประธานาธิบดีไบเดนต้องการให้ข้อตกลงนี้ช่วยยกระดับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม แรงงาน และอื่น ๆ ทั่วเอเชีย อย่างไรก็ดี เนื้อหาข้อตกลงจะต้องเป็นการเจรจาระหว่างประเทศที่เข้าร่วมในเบื้องต้นทั้งหมด 13 ประเทศประกอบด้วย ออสเตรเลีย บรูไน อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย เวียดนามและสหรัฐ ประเทศเหล่านี้ต้องเจรจากันเรื่องประเด็นที่ต้องการสร้างมาตรฐาน วิธีการปฏิบัติ การต้องขอสัตยาบันจากรัฐสภาในประเทศหรือไม่ และการพิจารณารับสมาชิกใหม่ในอนาคต […]

สงครามยูเครน : รัสเซียรุกหนักในดอนบาส

สงครามยูเครนในขณะนี้ รัสเซียได้เปิดฉากรุกอย่างหนักในภูมิภาคดอนบาส ทางภาคตะวันออกของยูเครน ขณะที่ผู้นำยูเครนยืนยันจะไม่ยอมเสียดินแดนให้กับรัสเซีย

“เซเลนสกี” เผยอาจมีคนตายในภูมิภาคดอนบาสวันละ 100

เคียฟ 23 พ.ค. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยว่า ยูเครนอาจมีผู้เสียชีวิตวันละ 50-100 รายในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน ขณะที่กระทรวงกลาโหมอังกฤษระบุว่า ทหารรัสเซียอาจเสียชีวิตมากถึง 15,000 นายในช่วงสงคราม 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเทียบเท่ากับตัวเลขทหารที่เสียชีวิตเมื่อครั้งที่สหภาพโซเวียตทำสงครามในอัฟกานิสถานเป็นเวลา 9 ปี ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ยูเครนอาจมีผู้เสียชีวิตวันละ 50-100 รายในภูมิภาคดอนบาส ผู้เสียชีวิตเหล่านี้เป็นผู้ที่พยายามปกป้องยูเครนจากการถูกรัสเซียรุกราน อย่างไรก็ดี ผู้นำยูเครนไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม แต่ดูเหมือนว่าข้อคิดเห็นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความสูญเสียทางทหารและชี้ให้เห็นว่าการต่อสู้ในภูมิภาคดอนบาสมีความรุนแรงมากเพียงใด ในขณะที่กองทัพรัสเซียกำลังพยายามบุกยึดเมืองต่าง ๆ ในภูมิภาคดอนบาส โดยเฉพาะเมืองซีวีโรโดเนตสก์ ในขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมอังกฤษ เผยว่า ทหารรัสเซียอาจเสียชีวิตมากถึง 15,000 นายในช่วงสงคราม 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเทียบเท่ากับตัวเลขทหารที่เสียชีวิตเมื่อครั้งที่สหภาพโซเวียตทำสงครามในอัฟกานิสถานเป็นเวลา 9 ปี ทั้งยังระบุว่า อัตราทหารรัสเซียที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจำนวนมากในการบุกโจมตีภูมิภาคดอนบาสเป็นผลมาจากการวางแผนกลยุทธ์ที่ไม่ดี มีข้อจำกัดเรื่องเครื่องบินคุ้มกันทางอากาศ การขาดความยืดหยุ่น และแนวทางบัญชาการที่ทำให้เกิดความล้มเหลว กระทรวงกลาโหมอังกฤษยังคาดการณ์ว่า ยอดทหารรัสเซียที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทำให้ประชาชนรัสเซียรับรู้และไม่พอใจกับการทำสงครามในครั้งนี้มากขึ้น. -สำนักข่าวไทย

สหรัฐพบผู้ต้องสงสัยฝีดาษลิงคนที่ 3

สหรัฐพบผู้ป่วยต้องสงสัยอาจติดเชื้อฝีดาษลิงเป็นคนที่ 3 ของประเทศ ผู้เชี่ยวชาญคาดจะพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก แต่คงไม่รุนแรงเหมือนโควิด-19

อินโดนีเซียเลิกห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มแต่นโยบายยังไม่ชัดเจน

จาการ์ตา 23 พ.ค.- อินโดนีเซียยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มในวันนี้ แต่ผู้ค้าและบริษัทต่าง ๆ ยังคงรอรายละเอียดที่ชัดเจนในการปฏิบัติตามระเบียบการควบคุมปริมาณน้ำมันปาล์มปรุงอาหารให้เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศภายใต้ราคาควบคุม ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดของอินโดนีเซียประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนเรื่องยกเลิกคำสั่งห้ามออกส่งน้ำมันปาล์มดิบและผลิตภัณฑ์แปรรูปบางอย่าง เพราะมั่นใจว่าราคาน้ำมันปรุงอาหารในประเทศจะลดลงสู่ระดับเป้าหมายที่ลิตรละ 14,000 รูเปียห์ (ราว 32.72 บาท) แม้ว่าราคาเมื่อวันศุกร์ยังอยู่ที่ลิตรละ 17,000 รูเปียห์ (ราว 39.73 บาท) โดยใช้นโยบายข้อบังคับตลาดในประเทศหรือดีเอ็มโอ (DMO) ที่กำหนดให้ผู้ผลิตต้องจำหน่ายผลิตภัณฑ์จำนวนหนึ่งภายในประเทศในราคาที่กำหนดไว้ นายไอร์ลังกา ฮาร์ตาร์โต รัฐมนตรีกระทรวงประสานงานเศรษฐกิจเผยว่า รัฐบาลกำหนดให้ต้องมีน้ำมันปรุงอาหารในประเทศ 10 ล้านตัน โดยให้กระทรวงการค้าเป็นผู้กำกับดูแล อย่างไรก็ดี ผู้ค้ายังคงรอทางการประกาศรายละเอียดดีเอ็มโอและระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในวันนี้ น้ำมันปาล์มเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์หลายอย่าง และเป็นน้ำมันปรุงอาหารถึง 1 ใน 3 ของโลก อินโดนีเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดราวร้อยละ 60 ของโลก งดส่งออกตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน หวังดึงราคาในประเทศให้ลดลง แต่กระทบต่อราคาในตลาดโลกที่ได้รับผลกระทบจากน้ำมันเมล็ดทานตะวันขาดแคลนเพราะสงครามยูเครน.-สำนักข่าวไทย

ทั่วโลกมีคนพลัดถิ่นเกิน 100 ล้านคนเป็นครั้งแรก

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอชซีอาร์ (UNHCR) เผยว่า สงครามยูเครนทำให้จำนวนผู้พลัดถิ่นทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกิน 100 ล้านคนเป็นครั้งแรก คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของประชากรโลก

“ไบเดน” ยันสหรัฐพร้อมช่วยญี่ปุ่นปกป้องประเทศเต็มที่

โตเกียว 23 พ.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ยืนยันกับนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นในวันนี้ว่า สหรัฐจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในด้านการปกป้องประเทศของญี่ปุ่น ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นกับจีนและการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวในช่วงเริ่มต้นหารือกับนายกรัฐมนตรีคิชิดะที่พระราชวังอากาซากะ ซึ่งเป็นสถานที่รับรองอาคันตุกะรัฐบาลในกรุงโตเกียวว่า ความเป็นพันธมิตรของสหรัฐกับญี่ปุ่นคือรากฐานแห่งสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก สหรัฐจะยังคงให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในด้านการปกป้องประเทศของญี่ปุ่น ทำเนียบขาวของสหรัฐแถลงว่า ก่อนหน้าที่จะพบกับผู้นำญี่ปุ่น ประธานาธิบดีไบเดนได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะของญี่ปุ่นเป็นเวลาสั้น ๆ ที่หน้าทางเข้าพระราชวังอากาซากะ และถวายพระพรในนามประชาชนชาวอเมริกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในระดับบุคคลของทั้งสองประเทศ สำนักข่าวรอยเตอร์สคาดการณ์ว่า สหรัฐกับญี่ปุ่นจะหารือเกี่ยวกับแผนขยายขีดความสามารถทางทหารของญี่ปุ่นเพื่อรับมือกับจีนที่ขยายอิทธิพลมากขึ้นเรื่อย ๆ ย้ำจุดยืนร่วมกันต่อเรื่องรัสเซียบุกโจมตียูเครนว่าไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังเปลี่ยนแปลงสถานภาพปัจจุบันแต่เพียงฝ่ายเดียว รวมทั้งจะหารือประเด็นเกาหลีเหนือและประเด็นอื่น ๆ ในระดับภูมิภาค หลังจากนั้นประธานาธิบดีไบเดนจะเดินทางไปพบกับครอบครัวชาวญี่ปุ่นที่ถูกลักพาตัวไปฝึกเป็นสายลับในเกาหลีเหนือเมื่อหลายปีก่อน จุดสนใจของการเยือนญี่ปุ่นในวันนี้จะอยู่ที่เรื่องประธานาธิบดีไบเดนเตรียมเปิดตัวกรอบเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิกเพื่อความเจริญรุ่งเรือง (Indo-Pacific Economic Framework for Prosperity) ซึ่งเป็นโครงการที่จะเชื่อมโยงมาตรฐานทำงานร่วมกันของหลายประเทศในด้านต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เช่น ความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน พลังงานสะอาด ระบบโครงสร้างพื้นฐาน และการค้าทางดิจิทัล ประธานาธิบดีไบเดนมีกำหนดเดินทางเยือนญี่ปุ่นเป็นเวลา 2 วัน และจะมีการจัดประชุมระหว่างประเทศสมาชิกในกรอบความร่วมมือด้านความมั่นคง 4 ฝ่าย หรือควอด ซึ่งประกอบด้วยสหรัฐ ญี่ปุ่น อินเดีย […]

“คิม จอง-อึน” ร่วมงานศพโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย

เปียงยาง 23 พ.ค.- สื่อทางการเกาหลีเหนือแพร่ภาพนายคิม จอง-อึน ผู้นำประเทศเข้าร่วมพิธีศพใหญ่ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย แม้ว่าเกาหลีเหนือยอมรับแล้วว่าโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด สำนักข่าวกลางเกาหลีหรือเคซีเอ็นเอ (KCNA) รายงานว่า นายคิมเข้าร่วมพิธีศพจอมพลฮยอน ชอย-แฮ รองผู้อำนวยการสำนักงานการเมืองกลางกองทัพเกาหลี และอดีตองครักษ์ประจำตัวนายคิม อิล-ซุง ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือและปู่ของนายคิมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่ากันว่าจอมพลฮยอนเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการเตรียมตัวนายคิมให้ขึ้นเป็นผู้นำประเทศคนใหม่ หลังจากนายคิม จอง-อิล ผู้เป็นบิดาถึงแก่อสัญกรรมเมื่อปลายปี 2554 สื่อทางการเผยแพร่ภาพนายคิมร่วมแบกโลงศพจอมพลฮยอนไปยังสุสานแห่งชาติ โดยเป็นผู้ร่วมแบกโลงศพคนเดียวที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย ต่อมาสถานีโทรทัศน์ของรัฐออกอากาศภาพเจ้าหน้าที่ทหารส่งพลั่วให้เขาเพื่อตักดินโรยในหลุมศพ แต่เขาคืนพลั่วแล้วก้มลงไปใช้มือเปล่าตักดินแทน เคซีเอ็นเอรายงานว่า ทหารและพลเรือนจำนวนมากหลั่งไหลออกมาแสดงความอาลัยตลอดสองข้างทางที่ขบวนศพของจอมพลฮยอนเคลื่อนผ่านไปยังสุสานแห่งชาติ เกาหลีเหนือยอมรับเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมว่า โรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนระบาด แต่รายงานเฉพาะตัวเลขผู้ป่วยมีไข้ ล่าสุดอยู่ที่มากกว่า 2 ล้าน 8 แสนคนในวันนี้ และมีผู้เสียชีวิต 68 คนนับตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำยูเครนจะกล่าวต่อเวิลด์อีโคโนมิกฟอรัมวันนี้

ดาวอส 23 พ.ค.- ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนจะกล่าวทางวิดีทัศน์ต่อผู้นำทางเศรษฐกิจและการเมืองโลกในที่ประชุมเวิลด์อีโคโนมิกฟอรัมที่เมืองดาวอสของสวิตเซอร์แลนด์ในวันนี้ ซึ่งจะไม่มีตัวแทนจากรัสเซียเข้าร่วมเหมือนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีเซเลนสกีเผยในคลิปที่บันทึกรายคืนเมื่อวันอาทิตย์ว่า เวิลด์อีโคโนมิกฟอรัมเป็นเวทีเศรษฐกิจทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ยูเครนจึงต้องกล่าวอะไรบางอย่างบนเวทีนี้ เอเอฟพีรายงานว่า ประเด็นหลักในการประชุมปีนี้ประกอบด้วยเรื่องวิกฤตยูเครน การฟื้นตัวหลังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 การแก้ไขการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อนาคตของการทำงาน และการส่งเสริมเทคโนโลยีใหม่ ๆ การประชุมปีนี้ถูกเลื่อนจากเดือนมกราคมมาจัดในเดือนพฤษภาคมทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้พบกันท่ามกลางบรรยากาศฤดูใบไม้ผลิ แปลกตาไปจากปกติที่จะพบกันท่ามกลางบรรยากาศฤดูหนาว ขณะที่กลุ่มศิลปินชาวยูเครนช่วยกันแปลงโฉมถนนสายหลักของเมืองดาวอส ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุม ให้เป็นสถานที่จัดแสดงการก่ออาชญากรรมสงครามของรัสเซีย นอกจากบรรยากาศเมืองที่ไม่คุ้นเคยแล้ว บรรยากาศการประชุมก็จะต่างไปจากเดิมด้วย เนื่องจากไม่มีผู้นำภาคธุรกิจ การเมืองและวิชาการของรัสเซียเข้าร่วมเลยแม้แต่คนเดียว.-สำนักข่าวไทย

พายุฝนถล่มแคนาดา ตายเพิ่มเป็น 8 ราย

โทรอนโต 23 พ.ค. – แคนาดาพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 8 รายจากเหตุพายุฝนฟ้าคะนองถล่มรัฐออนแทรีโอและรัฐควิเบกในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินของแคนาดาเร่งหาทางกู้คืนระบบจำหน่ายไฟฟ้าครั้งใหญ่หลังเกิดเหตุไฟดับเป็นวงกว้างที่ทำให้ประชาชนราว 500,000 ครัวเรือนเดือดร้อน พายุฝนฟ้าคะนองที่มีความเร็วลมแรงเกือบเท่าทอร์นาโดได้พัดถล่มรัฐออนแทรีโอ ทางตอนกลาง และรัฐควิเบก ทางตะวันออก เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมงเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีความเร็วลมสูงสุดถึง 132 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนทำให้ต้นไม้ล้ม เสาไฟฟ้าหักโค่น และเสาไฟฟ้าแรงสูงเสียหายเป็นจำนวนมาก ขณะที่ทางการแคนาดาระบุว่า บริษัทไฟฟ้าของแคนาดากำลังเร่งหาทางซ่อมแซมสายส่งไฟฟ้าแรงสูงเมื่อวันอาทิตย์ ส่วนผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ถูกต้นไม้ล้มทับในขณะที่เกิดพายุรุนแรง ด้านนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา เผยว่า รัฐบาลกลางพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองในครั้งนี้ และกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เร่งหาทางกู้ระบบไฟฟ้าให้กลับมาเป็นปกติ ในขณะเดียวกัน ไฮโดร วัน บริษัทผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ของรัฐออนแทรีโอ ระบุผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ว่า เจ้าหน้าที่กำลังเร่งซ่อมแซมเสาไฟฟ้าที่ได้รับความเสียหายรุนแรง ขณะนี้ เจ้าหน้าที่สามารถกู้ระบบไฟฟ้าให้แก่ประชาชนกว่า 360,000 ครัวเรือน แต่ยังมีประชาชนอีกกว่า 226,000 ครัวเรือนที่ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางไฟดับ โดยคาดว่าอาจต้องใช้เวลาอีกราว 2-3 วันเพื่อให้ประชาชนทั้งหมดมีไฟฟ้าใช้ตามปกติ. -สำนักข่าวไทย

อนามัยโลกเตือนรับมือโควิด-สงครามยูเครน-ฝีดาษลิง

องค์การอนามัยโลกเตือนว่า ทั่วโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ยากลำบาก เช่น การระบาดของโรคโควิด-19 สงครามยูเครน และโรคฝีดาษลิง

1 141 142 143 144 145 1,268
...