อินโดนีเซียเลิกห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มแต่นโยบายยังไม่ชัดเจน

จาการ์ตา 23 พ.ค.- อินโดนีเซียยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มในวันนี้ แต่ผู้ค้าและบริษัทต่าง ๆ ยังคงรอรายละเอียดที่ชัดเจนในการปฏิบัติตามระเบียบการควบคุมปริมาณน้ำมันปาล์มปรุงอาหารให้เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศภายใต้ราคาควบคุม


ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดของอินโดนีเซียประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนเรื่องยกเลิกคำสั่งห้ามออกส่งน้ำมันปาล์มดิบและผลิตภัณฑ์แปรรูปบางอย่าง เพราะมั่นใจว่าราคาน้ำมันปรุงอาหารในประเทศจะลดลงสู่ระดับเป้าหมายที่ลิตรละ 14,000 รูเปียห์ (ราว 32.72 บาท) แม้ว่าราคาเมื่อวันศุกร์ยังอยู่ที่ลิตรละ 17,000 รูเปียห์ (ราว 39.73 บาท) โดยใช้นโยบายข้อบังคับตลาดในประเทศหรือดีเอ็มโอ (DMO) ที่กำหนดให้ผู้ผลิตต้องจำหน่ายผลิตภัณฑ์จำนวนหนึ่งภายในประเทศในราคาที่กำหนดไว้

นายไอร์ลังกา ฮาร์ตาร์โต รัฐมนตรีกระทรวงประสานงานเศรษฐกิจเผยว่า รัฐบาลกำหนดให้ต้องมีน้ำมันปรุงอาหารในประเทศ 10 ล้านตัน โดยให้กระทรวงการค้าเป็นผู้กำกับดูแล อย่างไรก็ดี ผู้ค้ายังคงรอทางการประกาศรายละเอียดดีเอ็มโอและระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในวันนี้


น้ำมันปาล์มเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์หลายอย่าง และเป็นน้ำมันปรุงอาหารถึง 1 ใน 3 ของโลก อินโดนีเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดราวร้อยละ 60 ของโลก งดส่งออกตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน หวังดึงราคาในประเทศให้ลดลง แต่กระทบต่อราคาในตลาดโลกที่ได้รับผลกระทบจากน้ำมันเมล็ดทานตะวันขาดแคลนเพราะสงครามยูเครน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]