บขส.-รถไฟ เรือด่วน เฮ!! ศบค.ผ่อนคลายเพิ่มผู้โดยสารเต็มความจุ

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – ผู้บริหารระบบขนส่งตบเท้ายินดี  ศบค.ผ่อนคลายมาตรการเพิ่มความจุระบบขนส่งเต็มความจุมาตรฐาน บขส.ลุยเพิ่มความถี่-เปิดเส้นทางที่เคยหยุด ขณะที่รถไฟฯ เตรียมขยับขายตั๋วยืนรถไฟชานเมืองทันที


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.อนุญาตให้ผ่อนคลายระบบขนส่งสาธารณะทั้งทางบกและทางน้ำสามารถมีจำนวนผู้โดยสารได้เต็มตามความจุมาตรฐานของพาหนะ เริ่มตั้งแต่วันนี้ (13 ส.ค. )

นายมาโนช สายชูโต รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. เปิดเผยว่า ภายหลัง ศบค.ผ่อนคลายมาตรการเรื่องความจุบนรถโดยสารให้สามารถรับผู้โดยสารได้ตามจำนวนที่นั่งที่มี อย่างไรก็ตาม บขส.ยังคงความเข้มข้นในเรื่องของมาตรการตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารที่เข้าพื้นที่ สถานีบนตัวรถ  และจุดพักรถต่าง ๆ มาตรการที่ให้ผู้โดยสารทุกคนยังต้องสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงจุดตั้งเจลอนามัยต่าง ๆ ภายในพื้นที่สถานี


ทั้งนี้ ยอมรับว่ามาตรการผ่อนคลายดังกล่าวจะช่วยให้ บขส.ประกอบการเดินรถได้คุ้มทุนมากขึ้น  เนื่องจากปกติการเดินรถแต่ละเที่ยวจะต้องมีอัตราบรรทุกผู้โดยสารมากกว่า 70 % ขึ้นไป  ที่ผ่านมามีอัตราบรรทุก 67-68 % เท่านั้น ขณะที่ปัจจุบันผู้โดยสารยังใช้บริการน้อยมาก โดยในส่วนของ บขส.ก่อนโควิด-19 เคยมีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 80,000 คน ปัจจุบันเหลือเพียง 40,000-50,000 คนเท่านั้น โดยส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้โดยสารเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น รวมถึงปัจจัยเรื่องภาวะเศรษฐกิจทำให้ประชาชนเดินทางน้อยลง

นอกจากนี้ เห็นว่ามาตรการผ่อนคลายความจุบนรถโดยสารจะมีส่วนช่วยให้ บขส.และผู้ประกอบการรถร่วมบริการสามารถเพิ่มความถี่ของเที่ยวรถในเส้นทางที่มีความต้องการของผู้โดยสาร เช่น เส้นทางกรุงเทพฯ-แม่สอด จาก 8 เที่ยวก็จะสามารถเพิ่มเป็น 16 เที่ยวต่อวัน รวมถึงการกลับมาเปิดเส้นทางเดินรถที่เคยหยุดไป เช่น  เส้นทางกรุงเทพฯ-ลี้ และกรุงเทพ-จอมทอง ได้ด้วย

นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า กรมฯ อยู่ระหว่างการรอคำสั่งอย่างเป็นทางการจาก ศบค. แจ้งมายังกระทรวงคมนาคมและกระทรวงคมนาคมมีคำสั่งมายังหน่วยงานในสังกัดที่กำกับดูแลระบบขนส่งต่าง ๆ แล้ว จะมีการแจ้งข้อมูลถึงผู้ประกอบการ ทั้งเรือด่วนเจ้าพระยาและเดินเรือคลองแสนแสบ  และแม้ว่าหลังจากนี้มาตรการการเว้นระยะห่างบนเรือจะมีการผ่อนปรนแล้ว แต่ยืนยันว่ามาตรการอื่น ๆ เช่นการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนขึ้นเรือโดยสาร ผู้โดยสารต้องใส่หน้ากากอนามัย รวมถึงการตั้งจุดบริการเจลอนามัย จะยังต้องดำเนินการอย่างเข้มข้น


อย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมเจ้าท่ายืนยันว่ามาตรการผ่อนคลายให้ระบบขนส่งบรรทุกผู้โดยสารได้เต็มความจุนั้น จะส่งผลดีทั้งในแง่ของผู้โดยสารไม่ต้องรอเรือนาน และผู้ประกอบการก็สามารถกลับมาทำรายได้ตามปกติ โดยระหว่างช่วงสถานการณ์โควิค-19 ที่ผ่านมา  และระบบขนส่งมีการใช้มาตรการเว้นระยะห่างหรือ social distancing ทำให้ผู้โดยสารแต่ละลำจุผู้โดยสารได้เพียง 20% ของความจุปกติเท่านั้น

ด้านนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ระบุว่ามาตรการผ่อนคลายความจุของระบบขนส่ง ของ ศบค.จะส่งผลดีต่อการให้บริการผู้โดยสาร โดยเฉพาะขบวนรถไฟชานเมืองที่ผู้โดยสารมีความต้องการเดินทางจำนวนมากในช่วงเช้าและเย็น หลังจากนี้ รฟท.จะขยับจำหน่ายตั๋วยืนให้แก่ผู้โดยสารกลุ่มนี้ เพื่อให้ผู้ใช้บริการมีรถใช้บริการอย่างเพียงพอ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของมาตรการอื่นในการคัดกรองอุณหภูมิผู้โดยสารเข้าสถานี การใส่หน้ากากอนามัย จุดบริการเจลล้างมือ ทางรถไฟฯ จะยังดำเนินมาตรการเหล่านี้อย่างเข้มข้น

ขณะที่นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ของบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัทผู้ให้บริการรถไฟฟ้า BTS ระบุว่า BTS จะมีการหารือร่วมกับกรมการขนส่งทางราง เพื่อกำหนดการผ่อนคลายมาตรการต่อไป

นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวยอมรับว่าการขยับผ่อนคลายของ ศบค.ให้รถโดยสารสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ตามความจุมาตรฐานนี้จะช่วยทำให้การเดินรถของ ขสมก.ในเรื่องของความถี่จำนวนเที่ยวไม่ตึงตัวมากนัก จากเดิมจะต้องหมุนเวียนรถเกือบ 3,000 คัน ด้วยความถี่สูง เนื่องจากในช่วงสถานการณ์โควิด-19 รถแต่ละคันต้องเว้นระยะห่าง ทำให้ต้องเพิ่มความถี่เพื่อให้มีรถหมุนเวียนรองรับความต้องการใช้บริการของประชาชนอย่างเพียงพอ ซึ่งการผ่อนคลายของ ศบค.ครั้งนี้จะช่วยลดความถี่ของเที่ยวรถลงได้ประมาณ 5 %

ทั้งนี้ ปัจจุบัน ขสมก.มีผู้ใช้บริการต่อวันในช่วงวันธรรมดา 850,000 คน จากเดิมก่อนโควิดจะมีผู้โดยสารต่อวัน 1 ล้านคน ขณะที่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จากเดิมมีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 800,000คน แต่ปัจจุบันเหลือเพียงวันละ 400,000 คนเท่านั้น ซึ่งส่วนนี้น่าจะมาหลายปัจจัย รวมถึงภาวะเศรษฐกิจ ทำให้คนเดินทางในช่วงวันหยุดลดลง

อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจุบัน ศบค.จะผ่อนคลายมาตรการความจุของผู้โดยสาร แต่ ขสมก.ยังคงปฏิบัติมาตรการอื่น ๆ เช่น การตรวจวัดอุณหภูมิที่ท่ารถ ,การให้ผู้โดยสารทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย อย่างเข้มงวด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

กู้ซากคานสะพานลอยคนข้ามพังถล่ม เปิดการจราจรแล้ว

23 ส.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งหาสาเหตุคานสะพานลอยคนข้ามขนาดใหญ่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท พังถล่มลงมากีดขวางถนน สาย 317 จันทบุรี–สระแก้ว ล่าสุดกู้ซากคานสะพานลอย ออกจากถนน และเปิดการจราจรได้ตามปกติแล้ว เหตุคานสะพานลอยถล่ม บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา เหตุดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบ สภาพการจราจรติดขัด ตลอดช่วงสายและบ่าย เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ พยายามเร่งกู้ซากสะพานลอย ประสาน นำเครื่องจักรกลหนักทั้ง รถแบ็กโฮ 3 คัน รถแบ็กโฮหัวขุดเจาะ 2 คันและรถเครนใหญ่อีก 1 คัน ระดมลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยบริษัทผู้รับเหมา ต้องใช้รถหัวขุดเจาะ 2 คัน ทำการขุดเจาะกระแทกแผ่นคอนกรีตให้แตก จนเหลือแต่เส้นเหล็กจากนั้นได้ใช้ชุดเชื่อมทำการใช้ไฟแก๊สตัดเหล็ก แยกชิ้นส่วนของคานคอนกรีตออก […]

ตามล่านักโทษชายหลบหนีเรือนจำนนทบุรี

นนทบุรี 23 ส.ค. – นักโทษเรือนจำนนทบุรีหลบหนี ขณะออกมาทำงานนอกเรือนจำ เจ้าหน้าที่พบชุดนักโทษ ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม กล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ ช่วงบ่ายวันนี้ หลังตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับเเจ้งว่ามีนักโทษชายหลบหนีจากร้านหับเผย อ.เมือง จ.นนทบุรี ตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อ นช.อนุชิต อายุ 29 ปี เป็นผู้ต้องขังกองนอกประจำร้านหับเผย ของเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ชุดที่หลบหนีสวมชุดสีส้มของเรือนจำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเรมเบสต้า สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร หลบหนี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบชุดที่นักโทษสวมใส่ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม สำหรับ นช.อนุชิต สุขสด ถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง จับกุมเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ข้อหาพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด หลังจับกุม สภ.บางบัวทอง นำตัวส่งเรือนจำกลางจังหวัดนนทบุรี วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ศาลตัดสินโทษจำคุก 1 ปี โดยจะพ้นโทษในวันที่ในวันที่ […]

ผบ.ทบ. ตรวจฐานภูมะเขือ ขอบคุณกำลังพลทุ่มเทปฏิบัติงาน

23 ส.ค.- ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ย้ำกำลังพลปฏิบัติงานเต็มความสามารถ ตั้งอยู่บนความปลอดภัย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) พร้อม พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร เดินทางมาตรวจเยี่ยม และรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของฐานการภูมะเขือ โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยฝ่ายเสนาธิการกองกำลังสุรนารี, ผู้บังคับหน่วย และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมปฏิบัติภารกิจ ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ และการปฏิบัติงาน ณ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือกลาง พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ผู้บัญชาการทหารทัพบก กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้ปฏิบัติภารกิจอย่างปลอดภัย จากนั้นได้เดินดูบริเวณฐานธุรการและพื้นที่ต่างๆ บนภูมะเขือ -สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]