ยอดตั้งโรงงานใหม่ 6 เดือน กว่า 1,110 โรง เงินลงทุนกว่า 56,000 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 22 เม.ย.- กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) โชว์ผลงาน 6 เดือน ยอดตั้งโรงงานใหม่กว่า 1,000 โรง เงินลงทุนกว่า 56,000 ล้านบาท ตรวจกำกับโรงงานเป็นไปตามเป้า ต่อยอดโครงการเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัย พร้อมนำไอทีมาพัฒนางานบริการและตรวจกำกับให้สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น


นายวันชัย พนมชัย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ยอดตั้งโรงงานใหม่ 1,110 โรงงาน เงินลงทุน 56,354.19 ล้านบาท การจ้างงาน 31,330 คน กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการประกอบกิจการใหม่สูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหาร แปรรูปไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ และผลิตภัณฑ์โลหะ ตามลำดับ ในส่วนของการขยายโรงงานมีจำนวน 152 โรงงาน เงินลงทุน 41,510.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.41 % การจ้างงาน 37,550 คน เพิ่มขึ้น 52.02 % ขณะเดียวกันมีการเลิกประกอบกิจการลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา จำนวน 361 โรงงาน ลดลง 8.38% เงินลงทุน จำนวน 21,427.65 ล้านบาท ลดลง 4.57% เลิกจ้างงาน 12,172 คน ลดลง 8.74% สะท้อนให้เห็นถึงสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากที่โรงงานขนาดเล็กส่วนใหญ่และขนาดกลางบางส่วนได้รับผลกระทบของวิกฤตการณ์โควิด-19

“แม้ยอดตั้งโรงงานใหม่จะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่คาดว่าแนวโน้มการลงทุนจะเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 เพราะสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง อีกทั้งประเทศไทยยังมีมาตรการภาครัฐสนับสนุนการลงทุน ทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ มาตรการทางการเงินและการคลัง คาดว่าในปีนี้ยอดตั้งโรงงานแห่งใหม่และขยายกิจการโรงงานตลอดทั้งปีน่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา แต่ยังคงต้องเฝ้าจับตา ผลกระทบสงคราม อย่างระมัดระวัง” อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าว


สำหรับภารกิจเร่งด่วนที่ได้ตั้งเป้าไว้ในปีงบประมาณ 2565 นั้น ด้านการบังคับใช้กฎหมาย ได้มีการออกมาตราการทางกฎหมาย เพื่อดูแลด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยกว่า 30 ฉบับ เช่น การเพิ่มโทษผู้ลักลอบทิ้งกาก หรือแอบ ปล่อยน้ำเสียโดยไม่ทำการบำบัด การต้องทำรายงานประเมินความเสี่ยงสำหรับโรงงานที่มีความเสี่ยงสูง นอกจากนี้ยังสั่งดำเนินคดีกับโรงงานที่ไม่รายงานการรับหรือนำกากออกนอกโรงงานกว่า 4 หมื่นราย รวมทั้งโรงงานที่ไม่ทำรายงานประเมินความเสี่ยงอีกกว่า 700 โรงงาน  ด้านการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมให้เข้าสู่ระบบ กรอ.นำระบบจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว (E-fully Manifest) มาใช้ในการกำกับดูแลสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วในอุตสาหกรรม ตั้งแต่ต้นน้ำไปยังปลายน้ำครบวงจร สามารถติดตามรถขนส่งสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วในระบบ E-fully Manifest ได้แบบ real time โดยหลังจากเปิดใช้งานระบบเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 การบำบัด / กำจัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วเข้าสู่ระบบมากขึ้น โดย 2 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2565 (ตุลาคม 64 – มีนาคม 65) ของเสียอันตรายเข้าสู่ระบบ 0.79 ล้านตัน ของเสียไม่อันตรายเข้าสู่ระบบ 10.8 ล้านตัน และการกําจัดมูลฝอยติดเชื้อภายใต้สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย กระทรวงอุตสาหกรรมได้ให้ความเห็นชอบให้โรงงาน 9 ราย นํามูลฝอยติดเชื้อมาเป็นเชื้อเพลิงในเตาเผาของโรงงานเป็นการชั่วคราว เป็นการสนับสนุนให้สามารถนำมูลฝอยติดเชื้อไปกำจัดได้อย่างถูกวิธี ทำให้ความสามารถในการรับมูลฝอยติดเชื้อไปกําจัดเพิ่มขึ้นเป็น 1,150 ตันต่อวัน ซึ่งเพียงพอต่อปริมาณที่เกิดขึ้น โดยมีการกําจัดมูลฝอยติดเชื้อรวมแล้วทั้งสิ้น 13,247.55 ตัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 65)

สำหรับการช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านเงินทุน มีการสนับสนุนผู้ประกอบการในการจดทะเบียนจำนองเครื่องจักรโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการจดทะเบียนจำนองเครื่องจักร ครึ่งปีแรกมีการจดทะเบียนจำนองเครื่องจักรแล้วมูลค่ารวมกว่า 1 แสนล้านบาท

“กรอ. ยังได้นำไอทีมาพัฒนางานบริการและตรวจกำกับให้สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น มีระบบ POMS  ซึ่งเป็นระบบเฝ้าระวังการระบายมลพิษจากโรงงาน 24 ชั่วโมง 359 โรงงาน คลอบคลุม 45 จังหวัดทั่วประเทศ สามารถตรวจสอบค่าการระบายมลพิษผ่านมือถือได้ และเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการไม่ต้องเดินทางมายื่นเอกสาร จึงมีการพัฒนาระบบขออนุญาตทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างต่อเนื่อง อาทิ ระบบอนุญาตวัตถุอันตราย ณ จุดเดียว (HSSS) ระบบอนุญาตนำสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงาน (สก.2) ระบบจดทะเบียนเครื่องจักรออนไลน์ สำหรับระบบการขอรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) ระดับที่ 1 – 5 ผ่านช่องทางออนไลน์ จะเริ่มดำเนินการ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป และยังมีแผนพัฒนาระบบการอนุญาตประกอบกิจการโรงงานแบบอิเล็กทรอนิกส์ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้อีกด้วย” อธิบดีกรมโรงงานฯ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือน 6 จังหวัดรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 10 ก.ค.- กรมอุตุฯ เตือน 6 จังหวัด บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร จันทบุรี และตราด รับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทย โดยเฉพาะในบริเวณจังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 11-13 ก.ค. ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากจะมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน […]

“ทักษิณ” ประกาศเลิกคบ “ฮุน เซน”

พญาไท 9 ก.ค. – “ทักษิณ” ประกาศเลิกคบ “ฮุน เซน” ยอมรับช็อกลูกสาวถูกปล่อยคลิป ชี้ไม่มีการรบ เผยผลประโยชน์สีเทาจุดแตกหัก “ฮุน เซน” เชื่อปมชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ถึงขั้นสงคราม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในงาน “55 ปี NATION : ผ่าทางตันประเทศไทย” Chapter 3 บก. ถาม “ทักษิณ ชินวัตร” ณ ห้องพญาไท 4 ชั้น 6 โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท ดำเนินรายการโดย 3 บก. บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่นระบุจุดเริ่มต้นของรอยร้าวที่ปะทุขึ้นสู่สาธารณะมาจากการปล่อยคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีแพทองธาร และฮุน เซน โดย ดร.ทักษิณ เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า เดิมทีมีการนัดหมายให้นายกฯ แพทองธาร สนทนากับฮุน เซน ผ่านการประสานงานของ “พี่ฮวด” โดยมีรัฐมนตรีคนสำคัญร่วมรับฟังด้วย ทั้งนายภูมิธรรม […]

ทบ.แจงปมทหารไทย-กัมพูชา ปะทะคารมที่ช่องอานม้า

9 ก.ค.- โฆษกกองทัพบก แจงทหารไทย-กัมพูชา ปะทะคารมที่ช่องอานม้า ปมทหารเขมรอยากรู้อยากเห็น ขยับเข้าใกล้พื้นที่ไทยเกินขอบเขตที่กำหนด จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์คลิปภาพทหารเขมรปะทะคารมกับทหารพรานของไทย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 9 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ค.68 เวลา 09.00 น. โดยสื่อของฝ่ายกัมพูชาได้นำเสนอคลิปวิดีโอการโต้เถียงระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารไทยและทหารกัมพูชา จากการตรวจสอบของหน่วยที่เกี่ยวข้องพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณช่องอานม้า ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองร้อยทหารพราน 2310 โดยกำลังพลประมาณ 7 นาย ได้จัดเตรียมสถานที่ เพื่อรองรับกิจกรรมภายในของหน่วย และกิจกรรมการตรวจเยี่ยมของผู้บังคับบัญชา คาดว่าฝ่ายกัมพูชาเห็นว่าฝ่ายทหารไทยมีการปฏิบัติต่างไปจากวันปกติทั่วไป จึงอยากเข้ามาสังเกตการณ์ใกล้ๆ แต่เมื่อเข้าใกล้พื้นที่มากกว่าขอบเขตที่กำหนด ทหารไทยจึงแสดงตนเข้าชี้แจง และขอให้อยู่ในระยะที่เหมาะสม เป็นเหตุให้เกิดการโต้เถียงกันด้วยวาจาตามที่ปรากฏข่าว แต่ทั้งสองฝ่ายได้มีการอธิบายทำความเข้าใจกันจนเป็นที่เข้าใจทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ บริเวณที่ฝ่ายไทยจัดกิจกรรมมิได้เป็นการรุกล้ำเข้าไปในเขตกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ ขณะที่ ผช.เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ไปขอสึกที่วัดดังเชียงใหม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., นายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ที่ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามตัวเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี พระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในหลักฐานคลิปวิดีโอร่วมหลับนอนกับสีกา ก. เช่นเดียวกัน เพื่อตามตัวมาพูดคุยเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว ภายหลังทราบว่าเจ้าตัวกำลังเดินทางออกจากวัดมาที่หน้าวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ เพื่อมาซื้อจีวรผืนใหม่ จึงนำกำลังไปดักนิมนต์ได้ที่แยกไฟแดงพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก่อนเจรจาพร้อมนำหลักฐานคลิปและภาพออกมาแสดงให้เจ้าตัวรับทราบ จนทำให้จำนนต่อหลักฐาน ยอมตัดสินใจลาสิกขา เพื่อรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนิมนต์เดินทางต่อมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อกล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าองค์พระประทานในพระอุโบสถวัดไตรมิตร ขณะเดียวกันในส่วนของการติดตามหาตัวผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เบื้องต้นทราบว่าติดตามเจอตัวที่วัดพระธาตุสุนันทา ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา แสดงหลักฐานให้เจ้าตัวได้รับทราบ เพื่อให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการยอมสึกขาดจากความเป็นพระด้วย […]