ทำเนียบฯ 1 มี.ค.-ครม.เห็นชอบร่าง MOU ขยายความร่วมมือด้านไฟฟ้าไทย-ลาว มุ่งซื้อขายพลังงานสะอาดในภูมิภาค เพิ่มกำลังการผลิตอีก 1,500 เมกะวัตต์ หวังเชื่อมโยงสายส่งไปยังประเทศที่สาม
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจความร่วมมือการพัฒนาไฟฟ้าใน สปป ลาว ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างไทยและ สปป ลาว โดยเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีก 1,500 เมกะวัตต์ จากปริมาณกำลังผลิตเดิม 9,000 เมกะวัตต์ รวมปริมาณกำลังผลิตเป็น 10,500 เมกะวัตต์ เพื่อขายพลังงานไฟฟ้าให้กับไทย โดย กฟผ. รับผิดชอบการซื้อขายไฟฟ้า
สำหรับขอบเขตความร่วมมือในด้านอื่นๆ อาทิ 1) การจัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาร่วมกันในรายละเอียดเชิงเทคนิค 2) การพัฒนาไฟฟ้าจากแหล่งเชื้อเพลิงความร้อน พัฒนาระบบโครงข่ายสายส่งไฟฟ้า และระบบขายปลีกไฟฟ้า ใน สปป ลาว 3) จัดสรรทรัพยากรน้ำ รวมถึงความร่วมมืออื่นๆ เพื่อลดการปล่อยคาร์บอน 4) พิจารณาการก่อสร้างระบบสายส่งไฟฟ้าข้ามพรมแดนของแต่ละประเทศ เพื่อเชื่อมโยงสายส่งกับประเทศที่สาม กำหนดให้การรับซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศใดประเทศหนึ่ง ไม่เกินร้อยละ 13 ของกำลังการผลิตทั้งหมดในระบบ
นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา ครม.ได้มีมติอนุมัติ/เห็นชอบการขยายกรอบปริมาณรับซื้อไฟฟ้าระหว่างไทยกับ สปป ลาว ในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 4 ครั้ง ปัจจุบันไทยลงนามซื้อขายไฟฟ้ากับ สปป ลาว แล้ว จำนวน 5,935 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ปริมาณรับซื้อไฟฟ้าภายใต้บันทึกความเข้าใจ 6 กันยายน 2559 มีปริมาณรับซื้อไฟฟ้าคงเหลือ 3,065 เมกะวัตต์ การขยายกรอบปริมาณรับซื้อไฟฟ้าในครั้งนี้ ทำให้ไทยมีปริมาณรับซื้อไฟฟ้าคงเหลือ 4,565 เมกะวัตต์ กระทรวงพลังงานคาดว่าจะเพียงพอต่อการจัดหาพลังงานสะอาดต้นทุนการผลิตต่ำ มุ่งสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี 2608.-สำนักข่าวไทย