ปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – อธิบดีกรมชลประทานเผย เริ่มปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาแล้ว จะทำให้น้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำจ.พระนครศรีอยุธยาในอ.เสนาและผักไห่ลดลง จัดสเครื่องจักร-เครื่องมือช่วยเหลือพื้นที่ได้รับผลกระทบจากฝนหนักทุกแห่ง จนกว่าสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ


นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า น้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มลดลงแล้ว ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมืองนครสวรรค์อยู่ในเกณฑ์ 1,754 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มลดลง จากนั้นผันน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งเหนือเขื่อนเจ้าพระยารวม 498 ลบ.ม./วินาที พร้อมปรับลดปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ 1,338 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณริมแม่น้ำน้อยนอกคันกั้นน้ำที่ต.บ้านกระทุ่มและหัวเวียง อ.เสนา และต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยาลดลงตามไปด้วย เเต่ขณะนี้ยังคงอยู่ในช่วงฤดูน้ำหลาก จึงสั่งโครงการชลประทานทุกพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและให้ควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะ หากมีแนวโน้มว่า จะมีปริมาณน้ำหลากเพิ่มขึ้นจะเร่งแจ้งให้เฝ้าระวัง

อธิบดีกรมชลประทานกล่าวต่อว่า ได้ดำเนินการตามแผนป้องกันอุทกภัยที่ได้วางไว้ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ ตามนโยบายของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหายและช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ควบคู่ไปกับการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้าให้ได้มากที่สุด โดยจังหวัดซึ่งมีพื้นที่ได้ประสบอุทกภัยมี 11 จังหวัดได้แก่


– จังหวัดกำแพงเพชร พื้นที่น้ำท่วม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.คลองขลุง พื้นที่บ้านหนองเต่าทอง หมู่ 12 ต.คลองขลุงพื้นที่การเกษตร 200 ไร่ และหมู่ 10 ต.ท่าไม้ อ.พรานกระต่าย ย้ำให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

– จังหวัดเลย มีพื้นที่น้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ 1 อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ปัจจุบันระดับน้ำในลำน้ำหมันภายในตัวอำเภอด่านซ้ายลดระดับลงประมาณ 0.50-1.50 ม. ซึ่งระดับน้ำในลำน้ำหมันลดระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง และน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรค่อยๆ ไหลลงรวมกันในลำน้ำอย่างช้าๆ คาดว่าภายใน 2-3 วันนี้จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ หากยังไม่มีฝนตกในพื้นที่ ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในลำน้ำหมัน 10 เครื่อง

– จังหวัดขอนแก่น พื้นที่น้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ อ.ภูผาม่าน บริเวณ ต.โนนสะอาด และต.โนนค่อม มีพื้นที่น้ำท่วม ประมาณ 40 ไร่ ย้ำให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด


– จังหวัดนครราชสีมา ลุ่มน้ำลำเชียงไกร มีพื้นที่ลุ่มต่ำด้านท้ายอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร(บน-ล่าง) ที่ได้รับผลกระทบ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ด่านขุนทด โนนไทย และโนนสูง ได้บริการจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ (Rule Curve) และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 6 เครื่อง แบ่งเป็นติดตั้งที่ อ.โนนสูง 2 เครื่อง และที่ อ.โนนไทย 4 เครื่อง

จังหวัดปราจีนบุรี มีน้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ อ.กบินทร์บุรี เนื่องจากเกิดน้ำล้นตลิ่งของแม่น้ำปราจีนบุรีบริเวณชุมชนตลาดเก่า ที่สถานีวัดน้ำ Kgt.3 อ.กบินทร์บุรี ยังคงสูงกว่าตลิ่ง 0.50 ม. คป.ปราจีนบุรี ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

– จังหวัดฉะเชิงเทรา มีพื้นที่น้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ อ.บางน้ำเปรี้ยว คลองหกวาสายล่าง ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งริมคลอง สูงประมาณ 0.23 เมตร บริเวณ ม.1 ต.ดอนฉิมพลี และม.14 ต.บึงน้ำรักษ์ โดยมีชาวบ้านผลกระทบประมาณ 60 หลังคาเรือน โครงการฯ รังสิตใต้ เร่งดำเนินการระบายน้ำเพื่อลดระดับน้ำในคลองรังสิตฯ และคลองหกวาสายล่าง โดยการสูบน้ำอย่างต่อเนื่อง

– จังหวัดชัยภูมิ ยังคงมีพื้นที่น้ำท่วมเหลือ 1 ได้แก่ อ.หนองบัวระเหว ต.โคกสะอาด น้ำจากอ่างเก็บน้ำโป่งขุนเพชร (อบต.) เอ่อล้นไหลท่วมถนนที่ใช้สัญจรเข้า-ออกหมู่บ้าน ระดับน้ำสูงประมาณ 0.50 เมตร ทำให้ราษฎรได้รับผลกระทบจำนวน 30 ครัวเรือน คป.ชัยภูมิ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

– จังหวัดชัยนาท มีพื้นที่น้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ อ.สรรคบุรี บริเวณ ต.บางขุด และต.ดอนกำ เป็นพื้นที่น้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตร จำนวน 1,950 ไร่ คป.ชัยนาท ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำ เครื่อง และใช้ระบบชลประทานในการระบายน้ำออกจากพื้นที่

– จังหวัดอ่างทอง มีพื้นที่น้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ อ.วิเศษชัยชาญ บริเวณ ต.สาวร้องไห้ และ ต.ไผ่วง เป็นพื้นที่น้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตร จำนวน 800 ไร่ คป.อ่างทอง นำรถแบ็คโฮเข้ากำจัดวัชพืชที่ขวางทางระบายน้ำ และปั้นคันดินเล็กคันคลองในจุดที่น้ำล้น รวมทั้งติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

– จังหวัดสุพรรณบุรี มีพื้นที่น้ำท่วม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.สามชุก บริเวณ ต.หนองผักนาก และ ต.บ้านสระ เป็นพื้นที่น้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตร ประมาณ 0.55 ม. ได้รับผลกระทบจำนวน 1,123 ไร่ และที่อ.เมือง บริเวณต.สระแก้ว มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจำนวน 976 ไร่ คป.สุพรรณบุรี ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 6 เครื่อง และสนับสนุนรถแบ็คโฮ 2 คัน กำจัดวัชพืชในคลองระบาย เพื่อเร่งการระบายน้ำต่อไป

-จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีพื้นที่น้ำท่วม 2 อำเภอได้แก่ อ.เสนา บริเวณ ต.หัวเวียง และ ต.บ้านกระทุ่มซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ มีน้ำท่วมสูง 0.15 – 1.00 ม. และที่อ.ผักไห่ บริเวณ ต.ท่าดินแดง มีน้ำท่วมประมาณ 0.24 ม. ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางบาลเตรียมพร้อมเครื่องจักร-เครื่องมือและเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังยังจุดเสี่ยง พร้อมทั้งประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานท้องถิ่น เพื่อแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบอย่างต่อเนื่องแล้ว

ทั้งนี้ กรมชลประทานจะช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ หากประชาชนหรือหน่วยงานต้องการความช่วยเหลือ ติดต่อสอบถามได้ที่โครงการชลประทานในพื้นที่ใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย