กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – อธิบดีกรมชลประทานเผย เริ่มปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาแล้ว จะทำให้น้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำจ.พระนครศรีอยุธยาในอ.เสนาและผักไห่ลดลง จัดสเครื่องจักร-เครื่องมือช่วยเหลือพื้นที่ได้รับผลกระทบจากฝนหนักทุกแห่ง จนกว่าสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า น้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มลดลงแล้ว ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมืองนครสวรรค์อยู่ในเกณฑ์ 1,754 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มลดลง จากนั้นผันน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งเหนือเขื่อนเจ้าพระยารวม 498 ลบ.ม./วินาที พร้อมปรับลดปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ 1,338 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณริมแม่น้ำน้อยนอกคันกั้นน้ำที่ต.บ้านกระทุ่มและหัวเวียง อ.เสนา และต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยาลดลงตามไปด้วย เเต่ขณะนี้ยังคงอยู่ในช่วงฤดูน้ำหลาก จึงสั่งโครงการชลประทานทุกพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและให้ควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะ หากมีแนวโน้มว่า จะมีปริมาณน้ำหลากเพิ่มขึ้นจะเร่งแจ้งให้เฝ้าระวัง
อธิบดีกรมชลประทานกล่าวต่อว่า ได้ดำเนินการตามแผนป้องกันอุทกภัยที่ได้วางไว้ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ ตามนโยบายของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหายและช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ควบคู่ไปกับการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้าให้ได้มากที่สุด โดยจังหวัดซึ่งมีพื้นที่ได้ประสบอุทกภัยมี 11 จังหวัดได้แก่
– จังหวัดกำแพงเพชร พื้นที่น้ำท่วม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.คลองขลุง พื้นที่บ้านหนองเต่าทอง หมู่ 12 ต.คลองขลุงพื้นที่การเกษตร 200 ไร่ และหมู่ 10 ต.ท่าไม้ อ.พรานกระต่าย ย้ำให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
– จังหวัดเลย มีพื้นที่น้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ 1 อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ปัจจุบันระดับน้ำในลำน้ำหมันภายในตัวอำเภอด่านซ้ายลดระดับลงประมาณ 0.50-1.50 ม. ซึ่งระดับน้ำในลำน้ำหมันลดระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง และน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรค่อยๆ ไหลลงรวมกันในลำน้ำอย่างช้าๆ คาดว่าภายใน 2-3 วันนี้จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ หากยังไม่มีฝนตกในพื้นที่ ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในลำน้ำหมัน 10 เครื่อง
– จังหวัดขอนแก่น พื้นที่น้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ อ.ภูผาม่าน บริเวณ ต.โนนสะอาด และต.โนนค่อม มีพื้นที่น้ำท่วม ประมาณ 40 ไร่ ย้ำให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
– จังหวัดนครราชสีมา ลุ่มน้ำลำเชียงไกร มีพื้นที่ลุ่มต่ำด้านท้ายอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร(บน-ล่าง) ที่ได้รับผลกระทบ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ด่านขุนทด โนนไทย และโนนสูง ได้บริการจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ (Rule Curve) และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 6 เครื่อง แบ่งเป็นติดตั้งที่ อ.โนนสูง 2 เครื่อง และที่ อ.โนนไทย 4 เครื่อง
จังหวัดปราจีนบุรี มีน้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ อ.กบินทร์บุรี เนื่องจากเกิดน้ำล้นตลิ่งของแม่น้ำปราจีนบุรีบริเวณชุมชนตลาดเก่า ที่สถานีวัดน้ำ Kgt.3 อ.กบินทร์บุรี ยังคงสูงกว่าตลิ่ง 0.50 ม. คป.ปราจีนบุรี ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
– จังหวัดฉะเชิงเทรา มีพื้นที่น้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ อ.บางน้ำเปรี้ยว คลองหกวาสายล่าง ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งริมคลอง สูงประมาณ 0.23 เมตร บริเวณ ม.1 ต.ดอนฉิมพลี และม.14 ต.บึงน้ำรักษ์ โดยมีชาวบ้านผลกระทบประมาณ 60 หลังคาเรือน โครงการฯ รังสิตใต้ เร่งดำเนินการระบายน้ำเพื่อลดระดับน้ำในคลองรังสิตฯ และคลองหกวาสายล่าง โดยการสูบน้ำอย่างต่อเนื่อง
– จังหวัดชัยภูมิ ยังคงมีพื้นที่น้ำท่วมเหลือ 1 ได้แก่ อ.หนองบัวระเหว ต.โคกสะอาด น้ำจากอ่างเก็บน้ำโป่งขุนเพชร (อบต.) เอ่อล้นไหลท่วมถนนที่ใช้สัญจรเข้า-ออกหมู่บ้าน ระดับน้ำสูงประมาณ 0.50 เมตร ทำให้ราษฎรได้รับผลกระทบจำนวน 30 ครัวเรือน คป.ชัยภูมิ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
– จังหวัดชัยนาท มีพื้นที่น้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ อ.สรรคบุรี บริเวณ ต.บางขุด และต.ดอนกำ เป็นพื้นที่น้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตร จำนวน 1,950 ไร่ คป.ชัยนาท ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำ เครื่อง และใช้ระบบชลประทานในการระบายน้ำออกจากพื้นที่
– จังหวัดอ่างทอง มีพื้นที่น้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ อ.วิเศษชัยชาญ บริเวณ ต.สาวร้องไห้ และ ต.ไผ่วง เป็นพื้นที่น้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตร จำนวน 800 ไร่ คป.อ่างทอง นำรถแบ็คโฮเข้ากำจัดวัชพืชที่ขวางทางระบายน้ำ และปั้นคันดินเล็กคันคลองในจุดที่น้ำล้น รวมทั้งติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
–
– จังหวัดสุพรรณบุรี มีพื้นที่น้ำท่วม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.สามชุก บริเวณ ต.หนองผักนาก และ ต.บ้านสระ เป็นพื้นที่น้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตร ประมาณ 0.55 ม. ได้รับผลกระทบจำนวน 1,123 ไร่ และที่อ.เมือง บริเวณต.สระแก้ว มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจำนวน 976 ไร่ คป.สุพรรณบุรี ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 6 เครื่อง และสนับสนุนรถแบ็คโฮ 2 คัน กำจัดวัชพืชในคลองระบาย เพื่อเร่งการระบายน้ำต่อไป
-จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีพื้นที่น้ำท่วม 2 อำเภอได้แก่ อ.เสนา บริเวณ ต.หัวเวียง และ ต.บ้านกระทุ่มซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ มีน้ำท่วมสูง 0.15 – 1.00 ม. และที่อ.ผักไห่ บริเวณ ต.ท่าดินแดง มีน้ำท่วมประมาณ 0.24 ม. ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางบาลเตรียมพร้อมเครื่องจักร-เครื่องมือและเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังยังจุดเสี่ยง พร้อมทั้งประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานท้องถิ่น เพื่อแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบอย่างต่อเนื่องแล้ว
ทั้งนี้ กรมชลประทานจะช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ หากประชาชนหรือหน่วยงานต้องการความช่วยเหลือ ติดต่อสอบถามได้ที่โครงการชลประทานในพื้นที่ใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา.- สำนักข่าวไทย