ปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – อธิบดีกรมชลประทานเผย เริ่มปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาแล้ว จะทำให้น้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำจ.พระนครศรีอยุธยาในอ.เสนาและผักไห่ลดลง จัดสเครื่องจักร-เครื่องมือช่วยเหลือพื้นที่ได้รับผลกระทบจากฝนหนักทุกแห่ง จนกว่าสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ


นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า น้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มลดลงแล้ว ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมืองนครสวรรค์อยู่ในเกณฑ์ 1,754 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มลดลง จากนั้นผันน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งเหนือเขื่อนเจ้าพระยารวม 498 ลบ.ม./วินาที พร้อมปรับลดปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ 1,338 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณริมแม่น้ำน้อยนอกคันกั้นน้ำที่ต.บ้านกระทุ่มและหัวเวียง อ.เสนา และต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยาลดลงตามไปด้วย เเต่ขณะนี้ยังคงอยู่ในช่วงฤดูน้ำหลาก จึงสั่งโครงการชลประทานทุกพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและให้ควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะ หากมีแนวโน้มว่า จะมีปริมาณน้ำหลากเพิ่มขึ้นจะเร่งแจ้งให้เฝ้าระวัง

อธิบดีกรมชลประทานกล่าวต่อว่า ได้ดำเนินการตามแผนป้องกันอุทกภัยที่ได้วางไว้ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ ตามนโยบายของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหายและช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ควบคู่ไปกับการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้าให้ได้มากที่สุด โดยจังหวัดซึ่งมีพื้นที่ได้ประสบอุทกภัยมี 11 จังหวัดได้แก่


– จังหวัดกำแพงเพชร พื้นที่น้ำท่วม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.คลองขลุง พื้นที่บ้านหนองเต่าทอง หมู่ 12 ต.คลองขลุงพื้นที่การเกษตร 200 ไร่ และหมู่ 10 ต.ท่าไม้ อ.พรานกระต่าย ย้ำให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

– จังหวัดเลย มีพื้นที่น้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ 1 อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ปัจจุบันระดับน้ำในลำน้ำหมันภายในตัวอำเภอด่านซ้ายลดระดับลงประมาณ 0.50-1.50 ม. ซึ่งระดับน้ำในลำน้ำหมันลดระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง และน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรค่อยๆ ไหลลงรวมกันในลำน้ำอย่างช้าๆ คาดว่าภายใน 2-3 วันนี้จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ หากยังไม่มีฝนตกในพื้นที่ ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในลำน้ำหมัน 10 เครื่อง

– จังหวัดขอนแก่น พื้นที่น้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ อ.ภูผาม่าน บริเวณ ต.โนนสะอาด และต.โนนค่อม มีพื้นที่น้ำท่วม ประมาณ 40 ไร่ ย้ำให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด


– จังหวัดนครราชสีมา ลุ่มน้ำลำเชียงไกร มีพื้นที่ลุ่มต่ำด้านท้ายอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร(บน-ล่าง) ที่ได้รับผลกระทบ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ด่านขุนทด โนนไทย และโนนสูง ได้บริการจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ (Rule Curve) และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 6 เครื่อง แบ่งเป็นติดตั้งที่ อ.โนนสูง 2 เครื่อง และที่ อ.โนนไทย 4 เครื่อง

จังหวัดปราจีนบุรี มีน้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ อ.กบินทร์บุรี เนื่องจากเกิดน้ำล้นตลิ่งของแม่น้ำปราจีนบุรีบริเวณชุมชนตลาดเก่า ที่สถานีวัดน้ำ Kgt.3 อ.กบินทร์บุรี ยังคงสูงกว่าตลิ่ง 0.50 ม. คป.ปราจีนบุรี ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

– จังหวัดฉะเชิงเทรา มีพื้นที่น้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ อ.บางน้ำเปรี้ยว คลองหกวาสายล่าง ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งริมคลอง สูงประมาณ 0.23 เมตร บริเวณ ม.1 ต.ดอนฉิมพลี และม.14 ต.บึงน้ำรักษ์ โดยมีชาวบ้านผลกระทบประมาณ 60 หลังคาเรือน โครงการฯ รังสิตใต้ เร่งดำเนินการระบายน้ำเพื่อลดระดับน้ำในคลองรังสิตฯ และคลองหกวาสายล่าง โดยการสูบน้ำอย่างต่อเนื่อง

– จังหวัดชัยภูมิ ยังคงมีพื้นที่น้ำท่วมเหลือ 1 ได้แก่ อ.หนองบัวระเหว ต.โคกสะอาด น้ำจากอ่างเก็บน้ำโป่งขุนเพชร (อบต.) เอ่อล้นไหลท่วมถนนที่ใช้สัญจรเข้า-ออกหมู่บ้าน ระดับน้ำสูงประมาณ 0.50 เมตร ทำให้ราษฎรได้รับผลกระทบจำนวน 30 ครัวเรือน คป.ชัยภูมิ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

– จังหวัดชัยนาท มีพื้นที่น้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ อ.สรรคบุรี บริเวณ ต.บางขุด และต.ดอนกำ เป็นพื้นที่น้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตร จำนวน 1,950 ไร่ คป.ชัยนาท ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำ เครื่อง และใช้ระบบชลประทานในการระบายน้ำออกจากพื้นที่

– จังหวัดอ่างทอง มีพื้นที่น้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ อ.วิเศษชัยชาญ บริเวณ ต.สาวร้องไห้ และ ต.ไผ่วง เป็นพื้นที่น้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตร จำนวน 800 ไร่ คป.อ่างทอง นำรถแบ็คโฮเข้ากำจัดวัชพืชที่ขวางทางระบายน้ำ และปั้นคันดินเล็กคันคลองในจุดที่น้ำล้น รวมทั้งติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

– จังหวัดสุพรรณบุรี มีพื้นที่น้ำท่วม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.สามชุก บริเวณ ต.หนองผักนาก และ ต.บ้านสระ เป็นพื้นที่น้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตร ประมาณ 0.55 ม. ได้รับผลกระทบจำนวน 1,123 ไร่ และที่อ.เมือง บริเวณต.สระแก้ว มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจำนวน 976 ไร่ คป.สุพรรณบุรี ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 6 เครื่อง และสนับสนุนรถแบ็คโฮ 2 คัน กำจัดวัชพืชในคลองระบาย เพื่อเร่งการระบายน้ำต่อไป

-จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีพื้นที่น้ำท่วม 2 อำเภอได้แก่ อ.เสนา บริเวณ ต.หัวเวียง และ ต.บ้านกระทุ่มซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ มีน้ำท่วมสูง 0.15 – 1.00 ม. และที่อ.ผักไห่ บริเวณ ต.ท่าดินแดง มีน้ำท่วมประมาณ 0.24 ม. ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางบาลเตรียมพร้อมเครื่องจักร-เครื่องมือและเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังยังจุดเสี่ยง พร้อมทั้งประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานท้องถิ่น เพื่อแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบอย่างต่อเนื่องแล้ว

ทั้งนี้ กรมชลประทานจะช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ หากประชาชนหรือหน่วยงานต้องการความช่วยเหลือ ติดต่อสอบถามได้ที่โครงการชลประทานในพื้นที่ใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย