นนทบุรี 27 ส.ค.-อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจัดสัมมนาออนไลน์เร่งเครื่องเสริมความแข็งแกร่งโลจิสติกส์ พิชิตโอกาสทางการค้าเพื่อเปิดมุมมองให้ผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกหวังบุกเจาะตลาดจีน ดึงรายได้เข้าประเทศเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 คลี่คลาย
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การพัฒนาธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ เป็นการสร้างรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของประเทศ เนื่องจากการให้บริการโลจิสติกส์เป็นกระบวนการที่สำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ครอบคลุมการเคลื่อนย้ายสินค้าและบริการ การเก็บสินค้า การบริการให้กับธุรกิจการค้า การผลิต การส่งออก และการบริการทุกประเภท ดังนั้น ธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ จึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยในภาพรวม โดยสามารถช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันทางการค้าและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประทศ อันจะก่อให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเพิ่มรายได้ให้กับประเทศไทย
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ที่จดทะเบียนจัดตั้งในรูปแบบนิติบุคคลในประเทศไทยอยู่จำนวน 30,176 ราย ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564ซึ่งพบว่า ธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับ การนำเข้า-ส่งออกสินค้า ยังขาดความรู้ ความเข้าใจในการทำการค้ากับประเทศจีนอีกมาก ในขณะที่ตลาดจีนเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ มีประชากรกว่า 1,300 ล้านคน มีระบบเศรษฐกิจที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ และมีโอกาสขยายการส่งออกได้อีกมาก ซึ่งหากธุรกิจไทยสามารถไปเจาะตลาดได้แค่เพียงส่วนหนึ่งของประเทศจีน ก็สามารถดึงรายได้กลับเข้าประเทศได้อย่างมากมายมหาศาล กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงกำหนดจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “พัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการธุรกิจโลจิสติกส์” หลักสูตร “เสริมแกร่งโลจิสติกส์ พิชิตโอกาสทางการค้า” โดยเชิญวิทยากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการค้าขายกับประเทศจีนมาให้ความรู้ผ่าน 2 กิจกรรม ดังนี้ 1. การเสวนาหัวข้อ “ทิศทางการค้าโลจิสติกส์ไทย-จีน” โดยมีดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน, คุณสุวิทย์ รัตนจินดา ประธานสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย และ คุณสมชาย บรรลือเสนาะ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (TIFFA) 2. การบรรยายหัวข้อ “กลยุทธ์การขนส่งและกระบวนการโลจิสติกส์” โดย คุณจักรี ชัยวัฒนากุล ผู้บริหาร บริษัท เอเอสแอลโลจิสติกส์ จำกัด
อย่างไรก็ตาม การสัมมนาในวันนี้ กรมฯ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้เข้าร่วมจะได้รับความรู้ความเข้าใจ ในทิศทางการค้า และระบบโลจิสติกส์ของไทยและจีนมากขึ้น สามารถนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ไปปรับใช้กับระบบการขนส่ง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ เพื่อให้ธุรกิจของท่านสามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคง ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วนส่งเสริมธุรกิจโลจิสติกส์ กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร 0 2547 5955, สายด่วน 1570 และ www.dbd.go.th” ได้.-สำนักข่าวไทย