กรุงเทพฯ 12 มี.ค. – แฟนสาวเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ติดตามความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ “อดีตผู้กำกับโจ้” เจ้าหน้าที่เรียกสอบเพิ่มเติมผู้คุม-ผู้ต้องขัง
แฟนสาวของอดีตผู้กำกับโจ้ และแม่ของแฟนสาว พร้อมด้วยนายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น โดยยังไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด
คืบหน้าล่าสุดของการสอบสวนกรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานข่าวว่าเมื่อวานนี้พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น สอบปากคำพยาบาลเรือนจำที่เข้าไปตรวจสอบร่างอดีตผู้กำกับโจ้ เพียง 1 ปาก ซึ่งได้รับข้อมูลมาในระดับหนึ่ง โดยวันนี้จะเรียกผู้คุมประมาณ 2 นาย และผู้ต้องขังที่อยู่ในห้องใกล้เคียง ซึ่งเป็นพยานแวดล้อม 4-5 ปาก มาสอบปากคำเพิ่มเติมต่อหน้าพนักงานอัยการ
ส่วนอดีตผู้คุมแดน 7 ที่มีข้อพิพาทกับอดีตผู้กำกับโจ้ ไม่ได้อยู่ในรายชื่อที่ต้องมีการสอบปากคำในคดีชันสูตรการตาย เพราะอดีตผู้คุมเป็นคดีทำร้ายร่างกาย ซึ่งเป็นคนละส่วนกัน อย่างไรก็ตาม ในส่วนคดีของการทำร้ายร่างกายนั้น ทางพนักงานสอบสวนจะทำงานควบคู่กันไป
สำหรับภาพกล้องวงจรปิดในแดน 5 ที่อดีตผู้กำกับโจ้ถูกคุมขังอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดมาแล้ว และส่งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบรายละเอียดว่าถูกตัดต่อหรือไม่
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ได้ประสานงานกับแม่ของอดีตผู้กำกับโจ้ เพื่อให้ข้อมูลร่วมกับพนักงานอัยการแล้ว แต่เนื่องจากแม่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ ประกอบกับยังอยู่ในช่วงจัดพิธีศพ จึงจะดำเนินการนัดหมายในภายหลังอีกครั้ง
ประเด็นที่มีหยดเลือดอยู่ในที่เกิดเหตุและผ้าขนหนูนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจจากพิสูจน์หลักฐาน คาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบภายใน 30 วัน ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดในการสอบสวน โดยจะมีการเร่งรัดผลอย่างเต็มที่ ส่วนแนวทางการสอบสวนนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงตั้งอยู่ไว้ 2 ประเด็น คือ 1.ฆ่าตัวตาย และ 2.ถูกทำให้ตาย
ด้าน พล.ต.ต.เจษฎา สวยสม ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ให้ข้อมูลว่า ประเด็นการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องในเรือนจำกลางคลองเปรม ได้สั่งให้สอบปากคำภาพรวมทั้งหมด ทั้งคดีการเสียชีวิต และกรณีญาติมาแจ้งความร้องทุกข์จากการที่อดีตผู้กำกับโจ้ถูกทำร้ายร่างกายจากผู้คุมเรือนจำ ซึ่งจะต้องดูว่าทางเรือนจำจะจัดคนมาให้สอบในแต่ละวันอย่างไรบ้าง
ส่วนประเด็นที่อดีตผู้กำกับโจ้มีท่าทีโวยวายและเสียงดังหลังจากญาติไปเยี่ยมในวันเกิดเหตุนั้น ยังไม่ทราบข้อมูลดังกล่าว ต้องรอผลการสอบปากคำก่อน โดยได้กำหนดบุคคลที่จะต้องสอบปากคำทั้งพยานแวดล้อม พยานผู้ต้องขัง และพยานเจ้าหน้าที่ ยืนยันว่าตำรวจตั้งประเด็นการสอบปากคำและแนวทางการสืบสวนคดีเอาไว้เกินกว่าที่สื่อมวลชนและประชาชนคาดหวังแน่นอน นอกจากการตรวจสอบภาพในกล้องวงจรปิดแล้วจะต้องสอบปากคำทั้งญาติและบุคคลที่เคยมาเยี่ยมอดีตผู้กำกับโจ้ด้วยทุกคน
สำหรับกรณีพนักงานสอบสวนเข้าไปพบว่าศพอดีตผู้กำกับโจ้นอนอยู่กับพื้นและมีผ้าคลุม ไม่ได้อยู่ในท่าแขวนคอนั้น จะเข้าข่ายทำลายพยานหลักฐานหรือไม่ พล.ต.ต.เจษฎา เปิดเผยว่า อะไรที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ถ้ามีเจตนาก็ผิดหมด ทั้งนี้ จะต้องตรวจสอบว่ามีเจตนาทำลายพยานหลักฐานหรือไม่ ส่วนที่กรมราชทัณฑ์ชี้แจงว่าเป็นการช่วยเหลือนั้นจะต้องดูข้อบ่งชี้ว่าเป็นผลจากการพยายามช่วยเหลือหรือไม่ ซึ่งทางพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบอย่างละเอียดไว้แล้ว.-สำนักข่าวไทย