EXIM BANK เดินหน้า ซ่อม สร้าง เสริม ผู้ส่งออก

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- EXIM BANK เดินหน้า “ซ่อม สร้าง เสริม”  ผู้ส่งออก หลัง ครม.เห็นชอบเพิ่มทุน  4,198 ล้านบาท  มุ่งขับเคลื่อนการค้าและการลงทุน คาดสินเชื่อขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 11   ใน  5 ปีข้างหน้า หวังสินค้าคงค้าง 212,730 ล้านบาท ในปี  68


 นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า หลังจาก ที่ประชุม ครม. เห็นชอบให้กองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพิ่มทุน EXIM BANK จำนวน 4,198 ล้านบาท นับเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี  จึงมีทุนจดทะเบียนเพิ่มจาก   12,800 ล้านบาท  เพิ่มเป็น 16,998 ล้านบาท ส่งผลให้ขยายธุรกิจสนับสนุนผู้ประกอบการไทย เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ EXIM BANK พร้อมเร่งเครื่อง “ซ่อม สร้าง เสริม” สนับสนุนผู้ประกอบการทุกระดับให้กลับมาทำการค้าการลงทุนได้อย่างเข้มแข็ง  เป็นกลไกสำคัญผลักดันให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัว  คาดว่ายอดคงค้างสินเชื่อจะเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 11  ต่อปีในอีก 5 ปีข้างหน้า ไปแตะระดับ 212,730 ล้านบาทในปี 2568 จากจำนวนยอดสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2564  จำนวน 140,600 ล้านบาท  โดย EXIM BANK มุ่งขยายบริการทางการเงินดังต่อไปนี้


1.การส่งเสริมการลงทุน ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และเขตเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zones: SEZs) ทั้งในโครงสร้างพื้นฐานและภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curve และ Bio-Circular-Green Economy)  รองรับนโยบายภาครัฐและแนวโน้มโลก  เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ  

2.การบุกตลาด CLMV และตลาดใหม่ (New Frontiers)   EXIM BANK  พร้อมนำความเชี่ยวชาญและเป็นผู้นำ (Lead Bank) นำทัพนักลงทุนไทยไปรุกตลาดได้อย่างมั่นใจ ผ่านการสนับสนุนทางการเงินในรูปแบบที่หลากหลาย  ทั้งสินเชื่อ ประกันการส่งออก และบริการอื่น ๆ  เพื่อกระตุ้นการส่งออกสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่องของ SMEs ในประเทศตามโมเดลการลงทุนนำการค้า (Investment-induced Trade) พร้อมกับการนำเข้าวัตถุดิบหรือเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อการยกระดับภาคอุตสาหกรรมในประเทศ

3.การให้บริการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการส่งออกของ SMEs  ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศของไทย รวมทั้งให้บริการทั้งทางการเงินและไม่ใช่การเงินเพื่อช่วยเหลือ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้สามารถประคับประคองธุรกิจหรือขยายธุรกิจไปยังตลาดที่ยังมีศักยภาพได้


“การเพิ่มทุนครั้งนี้ส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ของ EXIM BANK มีความมั่นคงยิ่งขึ้น  จึงพร้อมขยายสินเชื่อและช่วยเหลือผู้ประกอบการมากขึ้น  ตาม นโยบายเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย (Thailand Development Bank) ในการ ‘ซ่อม’ ภาคอุตสาหกรรมที่ประสบวิกฤตและฟื้นฟูธุรกิจ   การ ‘สร้าง’ พื้นที่สำหรับผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยให้เติบโตตลอดทั้ง Supply Chain  อุตสาหกรรมแห่งอนาคต  และการ ‘เสริม’ ศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดโลก  เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตั” นายรักษ์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รับชันสูตรศพ “ผกก.โจ้” ยาก เหตุศพไม่อยู่สภาพเดิม

ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับชันสูตรศพ ผกก.โจ้ ยาก เพราะศพไม่อยู่ในสภาพเดิม ยันดูวงจรปิดไม่พบพิรุธ ยังยิ้มแย้มทักทายผู้ต้องขัง ยกมือไหว้ผู้คุม แต่พบเลือดหยดข้างศพ และแขนซ้ายมีรอยกัดของสัตว์ขนาดเล็ก

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหารช่วยเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหาร พร้อมกำลังพลจิตอาสากองทัพบก เข้าช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และอพยพผู้ป่วย จากเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ข่าวแนะนำ

ซ่อมรถบัสทิพย์

บุกจับ 7 จนท.กองกีฬาฯ จัดจ้างซ่อมรถบัสทิพย์เสียหาย 2.7 ล้าน

ป.ป.ช. สนธิกำลังปฏิบัติการร่วม ปปท. และ ป.ป.ป. จับกุม 7 เจ้าหน้าที่สังกัดสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร จัดจ้างซ่อมรถบัสทิพย์ เสียหายกว่า 2.8 ล้านบาท

สว.ยื่นเอาผิดทวี

“105 สว.” ​ยื่นเอาผิด “ทวี-อธิบดีดีเอสไอ” กลั่นแกล้งฮั้ว สว.

“105 สว.” ลงชื่อ​ยื่น​ป.ป.ช. เอาผิด​ม. 157 “ทวี” – “อธิบดีดีเอสไอ” กลั่นแกล้งเรื่องฮั้วสว. แขวะความยุติธรรมในประเทศไม่เกิด มีแต่ระส่ำเพราะผู้นำจิตวิญญาณคุมฝ่ายการเมือง​ได้ เปรียบ​ อ.ดีเอสไอ เป็นแมว ที่มีคนเลี้ยงคอยกระตุกคอให้จับหนู แต่สุดท้ายอาจต้องตาย เพราะไปจับปลาแต่ว่ายน้ำไม่เป็น​

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อน-ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนและฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพจากสภาพอากาศร้อน และระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กทม.-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง 30%