ลพบุรี 12 มี.ค. – พระคลุ้มคลั่งต่อยหน้าพยาบาลสาว พลเมืองดีเกือบ 10 คน ช่วยกับจับวุ่น หลังตรวจสอบพบประวัติเป็นโรคลมชักและจิตเวช ล่าสุดจับสึกแล้ว
ภาพพลเมืองดีช่วยกันล็อกตัวพระไว้กับพื้น หลังบุกทำร้ายพยาบาลคนหนึ่ง โดยต่อยไปใบหน้า พยาบาลสาวผู้เสียหายยืนอยู่ในอาการตื่นตกใจกลัว ร้องไห้ เหตุเกิดกลางโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี
เจ้าหน้าที่ สภ.เมือง ลพบุรี ได้รับแจ้งจาก รปภ.โรงพยาบาล ว่ามีพระภิกษุคลุ้มคลั่งทำร้ายเจ้าหน้าที่พยาบาล ที่ชั้น 2 จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบพระธนิศธร อายุ 49 ปี จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าก่อนเกิดเหตุ เห็นหลวงพ่อนั่งอยู่ จากนั้นสลัดสิ่งของตกลงพื้น และจังหวะที่หลวงพ่อกำลังจะเดินออกไป พยาบาลสาวได้ตะโกนเรียกให้หลวงพ่อกลับมารอคุณหมอ แต่ปรากฏว่าหลวงพ่อหันหลังมาต่อยเข้าไปที่ใบหน้าพยาบาล
จากการพูดคุยกับพ่อของพระธนิศธร เล่าว่า ลูกชายป่วยเป็นโรคลมชักตั้งแต่เด็ก เข้ารับการรักษาอาการอย่างต่อเนื่อง แต่อาการทรงตัว จนมาเกิดอาการเซื่องซึม ต้องเข้ารักษาอาการจากจิตแพทย์ เมื่อช่วงเช้าที่มารักษาคงเกิดอาการลมชักผสมกับมีอาการจิตเวช ทำให้อาละวาดทำร้ายพยาบาลสาว หลังจากนี้คงต้องปรึกษาตำรวจถึงเรื่องการดำเนินคดี และอยากขอโทษพยาบาลที่ถูกลูกชายทำร้าย และคงจะต้องสึกก่อน เพื่อเข้ารักษาอาการให้ดีขึ้น เกรงเกิดอันตรายกับบุคคลอื่นอีก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนำตัวส่งไปยังห้องอายุกรรมชาย เพื่อให้แพทย์ทำการรักษา และฉีดยานอนหลับให้เพื่อลดอาการคลุ้มคลั่ง และได้นิมนต์เจ้าอาวาสมาเพื่อทำการสึก
ด้านเพจโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี ออกแถลงการณ์เรื่องเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ถูกทำร้ายร่างกายขณะปฏิบัติหน้าที่ ระบุว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 09.25 น. บริเวณชั้น 2 คลินิกอายุรกรรมอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ได้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ คือ เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช ถูกผู้ป่วย (พระภิกษุ) ทำร้ายร่างกายจากทางด้านหลังขณะปฏิบัติหน้าที่นั้น โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอชี้แจงรายละเอียดของเหตุการณ์ดังนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าวผู้ป่วยรายนี้ (พระภิกษุ) มาเข้ารับการตรวจติดตามนัดหมายด้วยโรคลมชัก คลินิกอายุรกรรมสมองและระบบประสาท ขณะรอตรวจ พยาบาลจุดซักประวัติสังเกตเห็นว่าผู้ป่วย (พระภิกษุ) มีอาการสับสน ปลดจีวร และเดินไปมาหลายรอบ โดยเจ้าหน้าที่ถูกทำร้ายกายจากทางด้านหลัง โดนมือทุบบริเวณด้านหลังและลำคอ 2 ครั้ง ญาติและผู้ป่วยรายอื่นที่มารอตรวจได้เห็นเหตุการณ์ จึงเข้าช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายและช่วยกันควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้.-สำนักข่าวไทย