กรุงเทพฯ 21 ก.ค. EXIM BANK ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ย Prime Rate 5.75% ต่อปี เตรียมออกกรีนบอร์นระดมทุนกันยายนนี้ เปิดตัว “EXIM Index” คาดการส่งออกของไทย ขยายตัวร้อยละ 6-7 ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อสูง
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังปี 2565 การส่งออกยังขยายตัวได้ แต่อาจชะลอความเร็วลง คาดว่าส่งออกทั้งปีคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 6-7 ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้สินค้าแพง ต้นทุนธุรกิจและค่าขนส่งเพิ่มสูงขึ้น ในการช่วยเหลือให้ผู้ส่งออกไทยรู้เท่าทันสถานการณ์ และเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในระยะข้างหน้า EXIM BANK จึงริเริ่มจัดทำ “EXIM Index” นวัตกรรมแสดงผลเป็นดัชนีชี้วัดสภาวะส่งออกล่วงหน้า โดยใช้ข้อมูล 25 ตัวชี้วัดใน 5 มิติ เช่น ทิศทางเศรษฐกิจในตลาดหลักและตลาดใหม่ การส่งออกของประเทศคู่ค้า ณ ไตรมาส 2 ปี 2565 อยู่ที่ 100.63 ลดลงจาก 100.90
ทั้งนี้ ไตรมาสแรกปี 2565 สะท้อนว่าในระยะข้างหน้า การส่งออกไทยมีแนวโน้มชะลอตัว เป็นผลจากเศรษฐกิจคู่ค้าที่ชะลอตัวลง อาทิ สหรัฐอเมริกาและยุโรป ผู้บริโภคและนักลงทุนมีความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยและภาวะเงินเฟ้อ ปัญหา Global Supply Chain ยังมีอยู่ ส่งผลกระทบต่อต้นทุนของผู้ส่งออกและธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศ เริ่มชะลอลง แม้จะยังขยายตัวได้ คาดว่ามูลค่า E-Commerce โลกจะเติบโตต่อเนื่องจาก 4.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 เป็น 7.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 ก้าวกระโดดจาก 3.4 และ 4.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2562 และ 2563 ตามลำดับ และปิดความเสี่ยงรอบด้านให้มากที่สุด
ดร.รักษ์ กล่าวว่า EXIM BANK พร้อมช่วยผู้ประกอบการไทยสู้ต้นทุนแพงและบริหารความเสี่ยง ด้วย “Hybrid Model : ฟื้นส่งออกสู้ต้นทุน รุกลงทุนสร้างอุตสาหกรรมใหม่” นโยบายตรึงดอกเบี้ยนโยบายรร้อยละ 5.75 ต่อปี ดังนั้น เพื่อแบ่งเบาภาระด้านต้นทุนของผู้ประกอบการไทย จึงให้บริการผ่าน “EXIM Export Ready Credit” วงเงินสูงสุด 5 ล้านบาท ดอกเบี้ยต่ำสุดร้อยละ 4.5 ต่อปีใน 6 เดือนแรก ผ่อนชำระคืนภายใน 3 ปี เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs นำไปใช้เสริมสภาพคล่องของกิจการส่งออกและที่เกี่ยวเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์เปราะบางในปี 2565 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกไม่แน่นอน EXIM BANK ได้บรรลุเป้าหมายสินเชื่อคงค้างปี 2565 จำนวน 156,500 ล้านบาทภายใน 7 เดือนแรก ผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2565 มีสินเชื่ออนุมัติใหม่ 34,551 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.52 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน วงเงิน SMEs จำนวน 8,408 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.42 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน EXIM BANK มีจำนวนลูกค้าอยู่ที่ 5,476 ราย เพิ่มขึ้นถึง 22.78% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
จากยอดสินเชื่อคงค้าง 153,508 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 EXIM BANK มียอดคงค้างสินเชื่อที่สนับสนุนความยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG Economy 43,471 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกัน EXIM BANK ได้สานพลังกับหน่วยงานเครือข่ายพันธมิตรอย่างกว้างขวาง โดยมีสำนักงานผู้แทนครบทั้ง 4 แห่งในประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ภายหลังเปิดสำนักงานผู้แทนในเวียดนามอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 EXIM BANK มียอดคงค้างสินเชื่อโครงการระหว่างประเทศทั้งสิ้น 66,790 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,711 ล้านบาท หรือ 7.59% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อจำแนกเป็นรายตลาดที่สำคัญ EXIM BANK สนับสนุนธุรกิจไทยสยายปีกไปยังกลุ่มประเทศ CLMV และตลาดใหม่ (New Frontiers) อย่างต่อเนื่อง โดยครึ่งแรกปี 2565 มีสินเชื่อคงค้าง CLMV และ New Frontiers จำนวน 54,764 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,732 ล้านบาทหรือ 21.61% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นสินเชื่อคงค้างในเวียดนาม 14,591 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
EXIM BANK ได้สร้างภูมิคุ้มกันความเสี่ยงแก่ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยผ่านบริการประกัน ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจด้านการรับประกันการส่งออกและการลงทุนเท่ากับ 100,554 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.07 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 มีอัตราส่วน NPLs ต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) เพียง ร้อยละ 2.91 ย่างไรก็ตาม ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss) จำนวน 12,281 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อ NPLs (Coverage Ratio) ร้อยละ 274.67 สูงสุดในระบบ ส่งผลให้ในไตรมาส 2 ปี 2565 EXIM BANK มีกำไรก่อนสำรอง 1,217 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.55% และกำไรสุทธิเท่ากับ 604 ล้านบาท และได้เตรียมออกหุ้นกู้ระดมทุนในช่วงเดือนกันยายนี้ ห้าพันล้านบาทเนื่องจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสูง นักลงทุนให้การตอบรับการออกหุ้นกู้ของภาคเอกชน มีบรรยากาศดีมากในช่วงนี้.-สำนักข่าวไทย