กรุงเทพฯ 21 ก.ค. -เอ็กซิมแบงก์ไม่หวั่นเมียนมาร์ ธ.กลางเมียนมาร์ห้ามเอกชนชำระหนี้ต่างประเทศ ยอมรับเงินบาทเร่ิมเป็นสกุลหลักค้าขายชายแดน พร้อมขยายชำระหนี้ถึงสิ้นปี 65 เศรษฐกิจโลกมีปัญหาแนะค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน
นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การประกาศของธนาคารกลางเมียนมาร์ กำหนดไม่ให้ภาคเอกชนชำระหนี้ต่างประเทศด้วยเงินสกุลต่างประเทศ นั้น ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น และการปิดประเทศเกิดอยู่หลายครั้ง เพราะมีเหตุการณ์ความไม่สงบเป็นระยะล่าสุดในปี 64 และได้ประกาศเลือกตั้งทั่วไปในไตรมาส 2 ปี 66 เมื่อปิดและเปิดเร็วเพื่อเคลียร์ปัญหาในประเทศ นักลงทุนจึงไม่ตระหนกมากเพราะเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐในเมียนมาร์มีค่อนข้างจำกัด เพราะต้องชำระหนี้ 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ทุนสำรองของเมียนมาร์เป็นดอลาร์สหรัฐมีเพียง 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือมีภาระหนี้ต่างประเทศประมาณร้อยละ 10 เนื่องจากสกุลเงินจ๊าด มีปัญหา
เมื่อต้องชำระหนี้เป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ความมั่นคงทุนสำรองระหว่างประเทศและสภาพคล่องภายในประเทศมีปัญหา จึงต้องประกาศห้ามภาคเอกชนชำระหนี้สกุลดอลาร์สหรัฐในช่วงนี้ ส่วนการลงทุนของภาคเอกชนไทยในเมียนมาร์ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีขนาดเท่ากับการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว กัมพูชา ขณะที่การลงทุนในเวียดนามสูงกว่าหลายประเทศ ในส่วนนของการลงทุนเมียนมาร์แบ่งเป็นสองส่วน คือด้านพลังงานร้อยละ55-60 ที่เหลือเป็นการตั้งโรงงงานกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ร้อยละ 35-40 โดยการลงทุนของไทยทั้งสองส่วนไม่ได้อยู่ในประกาศฉบับนี้ เพราะเป็นการซื้อขายตามรายการซื้อสินค้าซื้อมาขายไป จึงไม่ใช่การชำระหนี้
ในส่วนของเอ็กซิมแบงก์ เมื่อภาคเอกชนมีรายได้ จะให้เปิดบัญชีในการรับโอนเงิน และหักในส่วนเงินต้นและดอกเบี้ยส่วนที่เหลือจะคืนให้กับลูกค้า จึงไม่มั่นใจว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ เอ็กซิมแบงก์ได้รับผลกระทบร้อยละ 60 เพราะลูกค้าโรงไฟฟ้า และสินค้าอุปโภคบริโภค ของเอ็กซิมแบงก์ในเมียนมาร์ จึงยังไม่ได้รับผลกระทบประมาณร้อยละ 40 ในส่วนที่เหลือ เนื่องจากได้เข้าไปลงทุนในเมียนมาร์มา 28 ปี ย่อมรับรู้สถานการณ์ในเมียนมาร์ การให้สินเชื่อบริษัทลูกเพื่อไปลงทุนในเมียนมาร์ หากค้างชำระหนี้ยังติดตามจากบริษัทแม่ในกรุงเทพฯได้ เพราะมีบริษัทแม่ดูแล อีกทั้งภาคเอกชนขนาใหญ่ของเมียนมาร์จะเปิดบัญชีต่างประเทศ เช่น ไทย สิงคโปร์ ไม่ได้เปิดบัญชีในเมียนมาร์ เพื่อใช้ซื้อขายสินค้าวงเงินเหล่านั้นเกิดนอกกเมียนมาร์ ธุรกรรมดังกล่าวจึงไม่ได้อยู่ในประกาศ ธนาคารกลางเมียนมาร์
สำหรับผู้ต้องชำระเงินใช้จ่ายในเมียนมาร์ หนักสุดประมาณร้อยละ 15-20 เป็นผู้ได้รับผลกระทบ เอ็กซิมแบงก์ จึงพร้อมขยายหนี้ จากเดิมชำระเงินต้นดอกเบี้ยประจำทุกเดือน เปิดให้ขยายเป็นสิ้นปี 65 เพื่อปรับเทอมชำระหนี้ ปรับวงเงินจากเดิมเหมือนกับการผ่อนชำระเงินงวดบ้าน จากเดิมรายเดือนเปลี่ยนเป็นราย 6 เดือน โดยเงินต้นและดอกเบี้ยเท่าเดิม นับว่าระยะเวลาชำระหนี้ใหม่ สอดคล้องกับคำประกาศของเมียนมาร์ ยอมรับว่า ธ.กลางเมียนมาร์จะไม่ประกาศเป็นเวลานาน 100-180 วัน อาจนานเกินไป ยอมรับว่าการค้าขายชายแดนไทย-เมียนมาร์ ใช้สกุลเงินบาทเป็นหลัก แม้ว่าเมียนมาร์ยังปัญหาเศรษฐกิจ แต่การส่งออกไปยังเมียนมาร์ยังเติบโตได้ถึงร้อยละ 12 อีกทั้งยอมรับว่าการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ยิ่งทำให้แรงงานต่างด้าวไหลเข้ามามากขึ้น มองว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกขณะนี้ การค้าขายตามแนวชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ยังเติบโตสูงมาก ทั้งกัมพูชา เวียดนาม ยังเติบโตเกินร้อยละ 20 จึงควรหันมาค้าขายกับอาเซียนดีกว่า เพราะแม้ว่าจะปิดประเทศ ยังต้องกินต้องใช้ ทำให้การส่งออกจากไทยยังเติบโต.-สำนักข่าวไทย