สมาคมภัตตาคารไทย พอใจคำสั่งผ่อนผันในพื้นที่สีแดงเข้ม

กทม. 18 มิ.ย. – สมาคมภัตตาคารไทย พอใจคำสั่งผ่อนผันในพื้นที่สีแดงเข้ม ลูกค้านั่งได้ 50% กินได้ถึง 5 ทุ่ม แต่ยังอยากให้ร้านอาหารขายแอลกอฮอล์ได้ เพราะเป็นคนละประเภทกับผับบาร์


ภายหลัง ศบค.คลายล็อกดาวน์ให้กับร้านอาหารในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ โดยร้านอาหารในพื้นที่ควบคุมสูงสุดนี้ สามารถบริโภคในร้านได้ และเปิดให้บริการได้ไม่เกิน 23.00 น. ส่วนกรณีที่ร้านมีเครื่องปรับอากาศ ให้นั่งได้ไม่เกิน 50% ของพื้นที่ และห้ามจัดกิจกรรมที่มีคนมากกว่า 50 คน แต่ยังห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวภายหลังจากมีคำสั่งผ่อนผันว่า อย่างน้อยคำสั่งในวันนี้ถือเป็นการช่วยเหลือให้กับบรรดาผู้ประกอบการร้านอาหารในพื้นที่สีแดงเข้ม 4 จังหวัด ให้พอลืมตาอ้าปากได้บ้าง เพราะคำสั่งเดิมที่ให้เปิดได้เพียง 25% ของพื้นที่ร้าน ถือเป็นการทำร้ายความรู้สึกของผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก แม้จำนวนที่ทางภาครัฐอนุญาตให้เปิดอยู่ที่ 50% ของพื้นที่ร้าน อาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่ทางสมาคมและบรรดาผู้ประกอบการร้านอาหารไปเรียกร้องกับทางรัฐบาลที่ขอให้เปิดให้มีลูกค้า 70-80% ของพื้นที่


แต่ในสถานการณ์แบบนี้ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี ที่รัฐบาลนั้นเห็นใจผู้ประกอบการร้านค้าในพื้นที่สีแดงเข้ม ขยายทั้งจำนวนลูกค้าและขยายเวลาให้นั่งกินในร้านได้ถึง 23.00 น. จากเดิมที่นั่งในร้านได้ถึงแค่ 21.00 น.

ส่วนเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ยังคงไม่อนุญาตให้ขายในร้านอาหาร ส่วนตัวมองว่าคนที่อยู่กับตัวเลขผู้ป่วยอย่างฝ่ายสาธารณสุข อาจจะมองคนละมุม ยังคงติดภาพการระบาดคลัสตอร์สถานบันเทิงทองหล่อ ว่ามีสาเหตุมาจากร้านที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วมีการมั่วสุมกัน ตรงนี้ในฐานะคนทำธุรกิจ อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องแยกแยะระหว่างร้านอาหาร และผับบาร์ คนที่มากินในร้านอาหารเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่ง คนกลุ่มนี้ไม่ได้ตั้งใจจะมากินให้เมาจนไม่สามารถควบคุมสติตัวเองได้ ควรจะต้องหาตรงกลางและมีการแยกแยะประเภทร้านให้ชัดเจน แต่ในสถานการณ์แบบนี้ ทางสมาคมและผู้ประกอบการก็พอจะเข้าใจการตัดสินใจที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะยังคงเดินหน้าเรียกร้องให้กับหน่วยงานภาครัฐผ่อนผันให้ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหารเปิดรับลูกค้าให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 70 เป็นตัวเลขที่จะทำให้เหล่าบรรดาร้านค้ามีรายได้อยู่รอดประคองธุรกิจไปได้ต่อ. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดยื้อ! ด.ช.5 ขวบ น้ำหนัก 50 กก. อาหารติดคอดับ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจเด็กชายวัย 5 ขวบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม อาหารติดคอ แต่สุดยื้อ เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว

เจอร่างใต้ตึกถล่ม

เจออีก 4 ร่างใต้ซากตึกถล่มโซน C จ่อนำเครนยักษ์เปิดพื้นที่

กู้ภัยเจอ 4 ร่างผู้สูญหายตึกถล่ม โซน C รอส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เตรียมนำเครนเข้ายกแผ่นปูนขนาดใหญ่ เปิดพื้นที่มากขึ้น

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

ปิดฉาก “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยอดจองพุ่ง 7.9 หมื่นคัน โต 44.8%

ยอดจองรถยนต์ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” รวมทุกเซกเมนต์โตพุ่ง 44.8% หรือคิดเป็น 79,941 คัน โดยเป็น EV 65% ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเลื่อน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเห็นตรงกันเลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไปก่อน หลังมีเรื่องด่วนกว่า ต้องจัดลำดับความสำคัญ แต่ไม่ถอนการพิจารณาในสภา บอกการเมืองบิดเป็นกาสิโน ลั่นผู้นำสไตล์ “แพทองธาร” พรรคร่วมต้องเห็นด้วยอย่างเต็มใจ

“คะน้า” แจ้งความเอาผิดไฮโซเก๊ หลอกจ่ายค่าแชมเปญ

“คะน้า” ดาราสาว แจ้งความตำรวจไซเบอร์ ดำเนินคดีกับอดีตแฟนหนุ่ม ข้อหาฉ้อโกง หลังหลอกให้จ่ายค่าแชมเปญ 98,000 บาท เพื่อเป็นของขวัญ

ตึกสตง.ถล่ม

เข้าสู่วันที่ 12 นำออกได้อีก 4 ร่าง ภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม

หลังดีเอสไอรับคดีตึก สตง.ถล่ม เป็นคดีพิเศษ วันนี้ (8 เม.ย.) กรรมการคดีพิเศษได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์และหารือแรงงานที่เกี่ยวข้องกับพยานหลักฐาน เพื่อใช้ในคดีกับผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิด ขณะที่ กทม. ยืนยันใช้แผนเดิมในการรื้อถอนอาคาร โดยวันนี้จะพยายามตัดยอดส่วนบนให้ได้ 5 เมตร เพื่อหาร่างผู้ติดอยู่ในโซน B และ C