8 เม.ย.- สพฐ.เผยภาพรวมสอบเข้า ม.1 ม.4 เรียบร้อยดี ดูรายชื่อโรงเรียนที่ว่างได้ 11 เม.ย.นี้ พร้อมเร่งสำรวจอาคารโรงเรียนที่เสียหายหนัก และเตรียมนำหลักสูตรฯ รับมือภัยพิบัติ-ภัยธรรมชาติ ลงสู่การปฏิบัติในห้องเรียน
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหาร สพฐ. ครั้งที่ 14/2568 โดยนำข้อสั่งการของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) แจ้งต่อที่ประชุมเพื่อให้ผู้บริหารและบุคลากรดำเนินการขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วน และติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานที่ได้สั่งการไปแล้ว โดยมีผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. ได้แก่ นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ., นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ., นายภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ., นางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. รวมถึงผู้อำนวยการเขตตรวจราชการ ผู้อำนวยการสำนักต่างๆ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านระบบ Zoom meeting
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวว่า วันนี้ในที่ประชุมได้หารือประเด็นต่างๆ ที่สำคัญ อาทิ รายงานการสำรวจสถานศึกษาในสังกัด สพฐ. ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว (ข้อมูล ณ วันที่ 8 เมษายน 2568) พบว่า มีสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบ รวม 2,944 แห่ง ทั่วประเทศ แบ่งเป็น กลุ่มสีเขียว (เสียหายเล็กน้อย/ไม่เสียหาย) จำนวน 2,512 แห่ง กลุ่มสีส้ม (เสียหายปานกลาง) จำนวน 353 แห่ง และกลุ่มสีแดง (เสียหายหนัก) จำนวน 66 แห่ง โดยจังหวัดที่มีสถานศึกษารายงานผลกระทบเข้ามามากสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. เชียงใหม่ 247 แห่ง 2. กรุงเทพมหานคร 214 แห่ง 3. ลำปาง 169 แห่ง 4. พิจิตร 163 แห่ง 5. กาญจนบุรี 157 แห่ง ทั้งนี้ สพฐ. ได้ประสานวิศวกรอาสาซึ่งมีอยู่ประมาณ 200 กว่าคน ลงพื้นที่สำรวจสถานศึกษาในกลุ่มสีส้มและสีแดงก่อน เพื่อยืนยันว่าอาคารสถานที่ในโรงเรียนที่ได้รับความเสียหายสามารถใช้งานได้หรือไม่ หากอาคารใดเสียหายหนักไม่สามารถใช้งานได้ต้องสั่งหยุดใช้ไปก่อน แต่หากเสียหายปานกลางหรือเสียหายน้อย ก็จะรีบดำเนินการของบประมาณเพื่อมาซ่อมแซมให้แล้วเสร็จทันก่อนวันเปิดภาคเรียน 1/2568 ในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้
สำหรับการสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อชั้น ม.1 และ ม.4 ซึ่งได้เลื่อนจากวันที่ 29-30 มีนาคม มาเป็นวันที่ 5-6 เมษายน 2568 เนื่องจากเหตุแผ่นดินไหว นั้น โดยภาพรวมพบว่าสามารถจัดการสอบได้เรียบร้อยดี ไม่มีการร้องเรียนหรือพบเรื่องทุจริตใดๆ และมีการดำเนินการตามแนวปฏิบัติเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกรณีหากเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่จัดสอบ โดยในวันที่ 4 เมษายน โรงเรียนทุกแห่งที่เป็นสถานที่จัดสอบได้มีการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุแผ่นดินไหวแบบเสมือนจริง ซึ่งทุกโรงเรียนให้ความร่วมมือดีมากและได้ผลตอบรับที่ดีจากนักเรียนและผู้ปกครอง ต่อไปอาจมีการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุเป็นประจำทุกเดือน ไม่ใช่แค่ภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวเท่านั้น ต้องมีการรับมือภัยจากเหตุอื่นๆ ด้วย เช่น ภัยธรรมชาติ ภัยจากมนุษย์ แผนการอพยพ เป็นต้น เพื่อให้นักเรียนและครูมีทักษะชีวิต สามารถเอาตัวรอดในสถานการณ์ไม่ปลอดภัยทั้งหลายได้ ทั้งนี้ สำหรับนักเรียนที่พลาดหวังในการสอบ สามารถตรวจสอบรายชื่อโรงเรียนและจำนวนที่นั่งว่าง ได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่ง ภายในวันที่ 11 เมษายน จากนั้นยื่นความจำนงผ่านระบบออนไลน์ วันที่ 17-22 เมษายน ประกาศผล 24 เมษายน และมอบตัว 27 เมษายน 2568 ขอให้ผู้ปกครองมั่นใจว่าบุตรหลานจะมีที่เรียนอย่างแน่นอน
“นอกจากนี้ ด้วยเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. ทบทวนหลักสูตรการเรียนการสอน การเรียนรู้การป้องกันภัยพิบัติต่างๆ ลงสู่ห้องเรียน โดยเราได้วิเคราะห์แล้วพบว่าในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ในหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน มีเนื้อหาที่เกี่ยวกับการรับมือภัยพิบัติ และภัยธรรมชาติอยู่แล้ว ใน 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ 1. สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ชั้น ป.6, ม.1-3, ม.4-6) 2. สุขศึกษาและพลศึกษา (ชั้น ป.1-3, ป.6) และ 3. วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ชั้น ป.6, ม.6) และในหนังสืออ่านเพิ่มเติม ภัยพิบัติทางธรรมชาติและการรับมือภัยพิบัติ (ชั้นประถม-มัธยม) เพียงแต่เป็นการสอนให้ความรู้อย่างเดียว ยังไม่ได้สอนการปฏิบัติจริง จากนี้ก็จะมีการกำชับไปยังเขตพื้นที่และสถานศึกษาทุกแห่ง ให้มีการนำหลักสูตรลงสู่การปฏิบัติ ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้แบบเสมือนจริง เพื่อให้นักเรียนรู้ เข้าใจ และปฏิบัติตนได้อย่างปลอดภัยจากภัยพิบัติต่าง ๆ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416-สำนักข่าวไทย