กระทรวงแรงงาน 7 ก.ค.-รมว.แรงงาน หารือร่วม 3 สมาคม ผุดมาตรการเสริมโครงการปันน้ำใจร้านค้าสู่แรงงาน บริหารจัดการอาหารช่วยเหลือแรงงานในแคมป์คนงาน
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ชมรมหาบเร่แผงลอยกรุงเทพมหานคร และสมาคมภัตตาคารไทย เรื่องแนวทางการบริหารจัดการอาหารสำหรับช่วยเหลือแรงงานที่เก็บตัวในแคมป์คนงาน โดยมีคณะที่ปรึกษาฯ และผู้เกี่ยวข้องจากสมาคม ชมรม เข้าร่วมประชุม
รมว.แรงงาน กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยผู้ใช้แรงงานจากกรณีที่ ศบค.มีมติให้ปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง งดการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม ได้แก่ กรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ นครปฐม เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด ในคลัสเตอร์แคมป์คนงาน และได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานดูแลแรงงานที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ โดยการจ่ายเยียวยาสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน 50 เปอร์เซ็นของค่าจ้าง และขอความร่วมมือนายจ้างดูแลอาหาร 3 มื้อ โดยกระทรวงแรงงานผุดโครงการปันน้ำใจร้านค้าสู่แรงงาน ซึ่งเป็นมาตรการเสริมในการสนับสนุนช่วยเหลือลูกจ้างนั้น
ในวันนี้กระทรวงแรงงานจึงเชิญผู้แทนสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ชมรมหาบเร่แผงลอยกรุงเทพมหานคร และสมาคมภัตตาคารไทย มาประชุมหารือเตรียมการและรับทราบแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาแรงงานที่อยู่ในแคมป์ก่อสร้างที่สถานประกอบการถูกปิดตามประกาศ โดยในส่วนของกระทรวงฯ กรมการจัดหางานได้เห็นชอบให้สำนักบริหารแรงงานต่างด้าวจัดทำโครงการให้ความช่วยเหลือคนต่างด้าว ด้านอาหาร เพื่อช่วยเหลือเยียวยาด้านอาหารแก่แรงงานต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานในกิจการก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพฯ ในช่วงที่มีการปิดสถานที่ก่อสร้าง โดยมีเป้าหมาย จำนวน 30,000 คน
“ผมได้เล็งเห็นถึงปัญหาของผู้ค้าหาบเร่แผงลอยที่ประสบปัญหากับสถานการณ์โรคโควิดทำให้ไม่มีรายได้จากการขายของ จึงได้อนุเคราะห์ให้ความช่วยเหลือผู้ค้าหาบเร่แผงลอยเพื่อให้มีรายได้ที่จะเลี้ยงดูตนเอง และครอบครัวได้บ้าง จึงให้ผู้ค้าหาบเร่แผงลอย รวมทั้งสมาคมภัตตาคารไทยได้ทำข้าวกล่องเพื่อส่งแคมป์คนงาน ซึ่งปัจจุบันต้องถูกกักตัว เนื่องจากป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19”นายสุชาติ กล่าว .-สำนักข่าวไทย