ธปท. พร้อมให้แบงก์ยื่นกู้สินเชื่อฟื้นฟูฯ ช่วยเอสเอ็มอี

กรุงเทพฯ 21 เม.ย. – ธปท. พร้อมให้แบงก์ยื่นกู้สินเชื่อฟื้นฟูฯ เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอี วันที่ 26 เม.ย. นี้ ขณะที่การพักทรัพย์พักหนี้ ยืนยันไม่กดราคา


น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายและกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า สถาบันการเงินสามารถยื่นคำขอกู้เงินจาก ธปท. ตามมาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อฟื้นฟูและโครงการพักทรัพย์พักหนี้ ภายใต้พระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2564 (พ.ร.ก. ฟื้นฟูฯ) ได้ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2564 เป็นต้นไป ซึ่งประกอบด้วย 2 มาตรการช่วยเหลือ ได้แก่ (1) มาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจ (สินเชื่อฟื้นฟู) วงเงิน 250,000 ล้านบาท และ (2) มาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ (โครงการพักทรัพย์ พักหนี้)  วงเงิน 100,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ มาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจ (สินเชื่อฟื้นฟู) วงเงิน 250,000 ล้านบาท เป็นมาตรการเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพ เพื่อดูแลประคับประคองกิจการ รักษาอัตราการจ้างงาน เพื่อไม่ส่งผลกระทบกับศักยภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะยาว


สำหรับคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการ คือ บุคคลธรรมดา หรือ นิติบุคคลที่จดทะเบียนในไทยที่มีสถานประกอบการ และ ประกอบธุรกิจในไทยเป็นลูกหนี้เดิม ที่มีวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท และ ไม่เป็นลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ณ 31 ธ.ค. 62 หรือ เป็นลูกหนี้ใหม่ ที่ไม่มีวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงินทุกแห่ง

ขณะเดียวกันจะต้องไม่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ยกเว้น ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai รวมถึงต้องไม่เป็นผู้ประกอบธุรกิจทางการเงินด้วย เนื่องจากต้องการให้เงินไปสู่ผู้ประกอบธุรกิจที่แท้จริง

ส่วนวงเงินที่ได้รับสินเชื่อหากเป็นลูกหนี้เดิม จะขอกู้ได้ไม่เกิน 30% ของวงเงินในแต่ละสถาบันการเงิน แต่ไม่เกิน 150 ล้านบาท จากเดิมขอกู้ได้ 20% ทั้งนี้ หากเคยได้รับสินเชื่อ Soft loan ให้นับรวมด้วย ขณะที่ลูกหนี้ใหม่ สามารถขอกู้ได้ในวงเงินไม่เกิน 20 ล้านบาท โดยให้นับรวมวงเงินจากทุกสถาบันการเงิน  ซึ่งมาตรการนี้จะมีระยะเวลาการให้สินเชื่อ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยไม่เกิน5% ต่อปี โดย 6 เดือนแรก รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ และ 2 ปีแรกของสัญญาให้คิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 2% ต่อปี และสถาบันการเงินจะต้องไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมใด ๆ รวมถึงดอกเบี้ยผิดนัดในช่วง 5 ปี


ด้านมาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ (โครงการพักทรัพย์ พักหนี้)  วงเงิน 100,000 ล้านบาท เป็นการช่วยเหลือลูกหนี้ธุรกิจที่มีทรัพย์สินที่สามารถตีโอนชำระหนี้ได้และมีศักยภาพ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการลดภาระต้นทุนทางการเงินชั่วคราว มีโอกาสในการกลับมาดำเนินธุรกิจในอนาคต ไม่ถูกกดราคาทรัพย์สิน (fire sale)  ส่วนคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ จะต้องเป็นบุคคลธรรมดา หรือ นิติบุคคลที่จดทะเบียนในไทยมีสถานประกอบการ และ ประกอบธุรกิจในไทย เป็นลูกหนี้ของสถาบันการเงินอยู่แล้วก่อนวันที่ 1 มี.ค.64 และไม่เป็น NPL ณ วันที่ 31 ธ.ค.62 และไม่เป็นผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน

สำหรับเงื่อนไขในสัญญาลูกหนี้ หรือ เจ้าของทรัพย์มีสิทธิซื้อคืนได้ภายในเวลา 3 – 5 ปี นับแต่วันที่รับโอน สถาบันการเงินต้องไม่ขายทรัพย์สินที่รับโอน เว้นแต่ได้รับแจ้งว่าจะไม่ใช่สิทธินี้แล้ว ขณะเดียวกัน ลูกหนี้หรือเจ้าของทรัพย์ สามารถเช่ากลับ เพื่อนำไปประกอบธุรกิจต่อไป โดยแจ้งความประสงค์ภายใน 15 วันนับแต่วันที่สถาบันการเงินรับโอนทรัพย์รวมถึงสถาบันการเงินจะนำค่าเช่าที่ได้รับ หักจากราคาขายคืน

อย่างไรก็ตาม หากผู้เช่าทำทรัพย์สินเสียหาย ชำรุด เสื่อมค่า อาจไม่ได้รับสิทธิในการซื้อคืนขณะเดียวกัน หากมีการทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์นั้น สิทธิซื้อคืนยังคงเดิม เว้นแต่ลูกหนี้ผิดสัญญาจนสถาบันการเงินยกเลิกสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ แต่ยังคงให้สิทธิลูกหนี้แสดงเจตนาว่าจะซื้อคืนภายใน 30 วัน ทั้งนี้ หากรับโอนทรัพย์แล้วยังมีหนี้คงค้างให้สถาบันการเงินพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างหนี้เพิ่มเติมด้วย

ขณะที่ราคาซื้อคืนนั้น จะต้องไม่เกินราคาที่สถาบันการเงินรับโอนบวกกับค่าใช่จ่ายในการเก็บรักษา (Carrying Cost) ไม่เกินร้อยละ 1 ต่อปี บวกกับค่าใช้จ่ายอื่นที่เกิดขึ้นจริง ลบด้วยค่าเช่าที่ได้รับจากลูกหนี้หรือเจ้าของทรัพย์ระหว่างสัญญา โดยธุรกรรมนี้จะได้รับยกเว้นภาษีและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการโอนทรัพย์ ทั้งขาที่โอนให้สถาบันการเงินและขาซื้อคืนของลูกหนี้และเจ้าของทรัพย์

อย่างไรก็ดีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ยอมรับว่า ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ธปท. ได้ติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด และอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจไทย . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ในหลวงทรงรับคนไข้

ในหลวงทรงรับคนไข้เหตุแผ่นดินไหวไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

ในหลวงทรงรับคนไข้เหตุแผ่นดินไหวเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ขณะนายกรัฐมนตรีเยี่ยมผู้บาดเจ็บ แพทย์แจงอาการดีขึ้นแล้ว

Building after collapses in Myanmar in front of monk's eye

แผ่นดินไหวทำตึกเมียนมาถล่ม-ยอดตายเกินพันแล้ว

มัณฑะเลย์ 29 มี.ค.- แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในเมียนมาเมื่อวานนี้ ทำให้อาคารหลังหนึ่งถล่มต่อหน้าต่อตากลุ่มพระสงฆ์ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในเมียนมาจนถึงขณะนี้เกิน 1,000 คนแล้ว คลิปภาพที่ผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกไว้ได้ในเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของเมียนมา และอยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวบนบกที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ เห็นกลุ่มพระสงฆ์รวมตัวกันอยู่บนถนนใกล้อาคารหลังหนึ่งที่ค่อย ๆ เสียการทรงตัว ก่อนพังถล่มลงไปทั้งหลังต่อหน้าต่อตา ทำให้เกิดกลุ่มควันขนาดใหญ่ฟุ้งกระจาย รอยเตอร์รายงานเมื่อเวลา 13:00 น.วันนี้ตามเวลาไทยว่า รัฐบาลเมียนมาแถลงล่าสุดว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเพิ่มเป็น 1,002 คนแล้ว ขณะที่สำนักสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐหรือยูเอสจีเอส ซึ่งแจ้งขนาดแผ่นดินไหวไว้ที่ 7.7 และมีศูนย์กลางลึกเพียง 10 กิโลเมตรประเมินจากแบบจำลองการคาดการณ์ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจจะเกิน 10,000 คน.-814.-สำนักข่าวไทย  

สาเหตุตึกถล่ม

นายกฯ เร่งกรมโยธาดูสาเหตุตึกถล่ม-หาทางแก้

นายกฯ รับรายงายสถานการณ์แผ่นดินไหว เร่งกรมโยธาดูสาเหตุ-หาทางแก้ตึกถล่ม ย้ำ ปชช. มั่นใจได้ เหตุแผ่นดินไหวตอนนี้ไม่กระทบไทยแล้ว เตรียมออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อไป

วัดเสียหายแผ่นดินไหว

วัด 4 แห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว

สำนักงานพระพุทธศาสนา และคณะสงฆ์เชียงใหม่ สำรวจโบราณสถาน พบวัด 4 แห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว มีทั้งรอยร้าว ฐานพระพุทธรูปอายุกว่า 700 ปีทรุด ยอดฉัตรทองคำหักเอียง