นายกฯ นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ดูก่อสร้างตึกสูง

29 มี.ค. – นายกฯ นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ดูก่อสร้างตึกสูง คุยนักท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่น หลังเหตุแผ่นดินไหว ต่างชาติ “Don’t worry” เชื่อมั่นสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ นายกฯ ข้องใจตึก สตง. ถล่มตึกเดียว ไม่ปล่อยผ่านสัปดาห์หน้าต้องได้คำตอบ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหว ที่โรงพยาบาลวชิรแล้ว นายกฯ พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงคมนาคม และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการ กทม. ได้เดินทางมาดูความเรียบร้อยการเปิดใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ด้วยการโดยสารจากสถานีสนามไชย ไปจนถึงสถานีสีลม

โดยมีนายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่า รฟม. รายงานสถานการณ์ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวและวิธีแก้ปัญหาให้ทราบ ว่าเนื่องจากระบบไฟค่อนข้างเปราะบางทำให้การตรวจสอบเป็นไปยังล่าช้า หลังจากตรวจสอบก็มีการทดลองวิ่งก่อนจะเปิดให้ใช้บริการจริง ซึ่งตอนนี้ใช้งานได้เรียบร้อยแล้ว ในระหว่างรับฟังรายงาน นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึงความคืบหน้าการเดินรถไฟฟ้า ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุรถไฟฟ้าทุกสาย ได้มีการตรวจสอบในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน และระบบการเดินรถต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจและกลับมาเปิดได้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินขึ้นจากรถไฟฟ้าสถานนีสีลม นายกรัฐมนตรีได้พบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และได้คุยกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว

นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการพูดคุยกับนักท่องเที่ยว ว่าได้สอบถามนักท่องเที่ยวว่ามีความกังวลใจอย่างไรบ้าง เมื่อวานที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวรู้สึกนิดหน่อย หลายประเทศอาจจะคุ้นชินแผ่นดินไหวมากกว่าเรา อีกเหตุผลหนึ่งเมื่อความเคลื่อนไหวหยุดมาหลายชั่วโมง ทุกคนก็ใช้ชีวิตตามปกติ และได้มีการบอกว่าชอบกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่สวยงาม และเดินทางโดยใช้รถไฟฟ้าใต้ดินได้ตามปกติ ไม่ได้รู้สึกอะไร ต่างชาติได้มีการสอบถามตนเองว่ามาทำอะไรที่นี่ จึงได้บอกไปว่ามาดูเรื่องตึกต่างๆ ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร และเขาก็ตั้งใจจะท่องเที่ยวตามแผนที่วางไว้

เมื่อถามว่าต่างชาติมองอย่างไรเมื่อนายกรัฐมนตรีอายุยังน้อย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใช่ และไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย


นายกรัฐมนตรี ยังย้ำถึงมาตรการหลังเหตุแผ่นดินไหว ว่าส่วนไหนที่ยังไม่เชื่อมั่น 100% ก็จะปิดให้บริการก่อน เช่น รถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง จากที่ได้รับรายงานก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ขอให้มั่นใจ 100% ก่อนจึงจะเปิดให้บริการ ซึ่งตนก็เห็นด้วย อยากให้มั่นใจทุกเส้นทางก่อนที่จะเปิดให้บริการ เพราะจะไม่เอาชีวิตประชาชนมาเสี่ยง ในวันพรุ่งนี้ก็จะประกาศเปิดให้บริการได้ รอให้ผู้ว่าฯ กทม.ยืนยันอีกครั้ง

เมื่อสักครู่ได้ถามผู้ว่า รฟม. ว่า เกิดเหตุอะไรขึ้นบ้างเกี่ยวกับสถานีรถไฟฟ้าหลังเกิดแผ่นดินไหว พบว่าไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงอะไรมาก ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องใหญ่ มีเพียงเศษท่อสั่น และมีส่วนผุพังเล็กๆน้อยๆ ซึ่งจากที่ได้ตรวจทั้งสาย ก็ได้มีการแก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้ว จึงมั่นใจว่าเรียกความเชื่อมั่นได้แน่นอน

ส่วนมาตรการเยียวยาต่างๆจะชัดเจนเมื่อไหร่นั้น นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า กรอบมีอยู่แล้ว ให้ทาง กทม.ประกาศได้เลยแต่ต้องดูอีกที ว่าความเสียหายกับกรอบเข้ากันได้หรือไม่ พร้อมยกตัวอย่างน้ำท่วมที่มีดินโคลนถล่ม จากกรอบที่ตั้งไว้ 5,000 บาท ก็เพิ่มเป็น 9,000 ได้เลย จึงให้ กทม.ที่เป็นส่วนหัวหน้าแจ้งในเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลดูแลแน่นอน

ส่วนประเด็นเรื่องโครงสร้างตึกที่ถล่มลงมา ได้มีการพูดคุยกับ ปภ.หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองก็สงสัยเช่นกัน ทำไมเป็นตึกเดียวที่เกิดปัญหา แน่นอนว่าไม่ปล่อย และตามดูว่าเป็นเพราะอะไร ต้องให้ผู้ที่มีความรู้ เช่น กรมโยธา ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ สัปดาห์หน้าจะมารายงานว่าเกิดอะไรขึ้น ตนได้ให้ไทม์ไลน์และสั่งการเรียบร้อย ขอคณะกรรมการที่มีผู้รู้อยู่ในนั้น สามารถให้คำแนะนำ และไล่ดูเลยว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร แบบผ่านใครผ่านได้อย่างไร มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร เพราะการก่อสร้างมีตั้งหลายตึก และการทำตึกแบบนี้เป็นตึกแรกในประเทศ ก็ไม่ใช่ เพราะฉะนั้นจะตามดู

ส่วนเรื่องท่าอากาศยาน นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ท่าอากาศยานไทย ได้ชี้แจงว่า ปัจจุบันการให้บริการทั้ง 6 ท่าอากาศยานให้บริการตามปกติ เที่ยวบินในวันนี้สามารถเดินทางได้ตามปกติ ทุกอย่างปกติดี นายกรัฐมนตรี จึงกล่าวเสริมว่า เมื่อวานนี้ได้บินกลับจากภูเก็ต ซึ่งทุกอย่างก็ปกติดี ไม่มีปัญหาแน่นอน เมื่อวานที่เกิดเหตุการณ์ได้ชะลอการขึ้นบินไว้ 30 นาทีเท่านั้น

จากนั้น นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองได้เข้าไป พูดคุยกับนายกฯ โดยได้ชี้แจงข้อมูล เกี่ยวกับการตรวจสอบกรณีตึกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งใหม่ถล่ม จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในวันนี้ทันที ร่วมกับทางสภาวิศวกรว่าจริงๆ แล้วเกิดอะไรขึ้น

ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะหันมาบอกกับสื่อมวลชนว่าเหตุแผ่นดินไหวเกิดตั้ง 7.7 ริกเตอร์ แต่ว่าตึกของเราทั้งหมดไม่มีปัญหา มีแค่ตึกเดียว รัฐบาลก็จะตั้งคณะกรรมการที่ต้องเอาผู้รู้มาคุยกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับตึกนั้นตึกเดียว ตั้งแต่เรื่องของการก่อสร้าง การออกแบบ ซึ่งเมื่อวานตนก็คิดอยู่ว่า แล้วถ้าเกิดตึกก่อสร้างเสร็จแล้วจะเป็นอะไรหรือไม่ เพราะว่าอาจจะมีคนเป็นพัน และได้ดูคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ดูหลายคลิปหลายมุมหลายรอบ จริงๆแล้วตนก็ผ่านการสร้างตึกมาในภาคของตัวเอง ก็ไม่เคยเห็นแบบนี้เหมือนกัน ก็ต้องสืบให้รู้ว่าผิดพลาดตรงไหน การเคาะงบไปตั้งแต่ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น และการต่ออายุ การยืดเวลา มันยืดแล้วมันยังไง

ส่วนจะต้องไปไล่เช็กตึกต่างๆ เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างอย่างไร นายกฯ กล่าวว่าจริงๆ แล้วอยู่ในกฎหมายอยู่แล้ว ว่าตึกทุกตึกที่สร้างใน กทม. มันจะต้องสามารถ ต้านเรื่องแผ่นดินไหวได้ ในระดับหนึ่ง ซึ่งเมื่อวานนี้ก็ไม่ได้กระทบเลย แต่อาจจะมีแค่เรื่องลิฟต์ และการสั่นของตึก ที่ตนได้ฟังผู้รู้ก็ระบุว่ามันสามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ระดับหนึ่ง

เมื่อถามว่าคณะกรรมการจะให้หน่วยงานไหนรับผิด นายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้เป็นหน่วยงานของทางกรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นผู้รับผิดชอบ โดยจะตั้งวันนี้ ซึ่งได้มีการประชุมไปเมื่อช่วงเช้า โดยปลายอาทิตย์หน้าจะขอเรียกเข้ามาคุยอีกทีว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อมีผู้รู้มาคุยกันหลายคนก็ต้องได้คำตอบอยู่แล้ว

จากนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พานายกรัฐมนตรี ดูตึกที่กำลังก่อสร้างบริเวณโดยรอบสวนลุมพินี ก่อนนายกรัฐมนตรีจะหันมาบอกกับสื่อมวลชน ว่าตนเองผ่านการสร้างตึกมาในภาคของตนเอง ไม่เคยเห็นลักษณะแบบนี้เหมือนกัน ต้องสืบให้รู้ว่าผิดพลาดตรงจุดใด การเคาะงบฯ เกิดอะไรขึ้น การต่ออายุที่ยืดเวลาเป็นอย่างไร ความจริงตึกที่สร้างใน กทม. ต้องรองรับแผ่นดินไหวได้ ระดับเมื่อวานนี้ตึกส่วนใหญ่ไม่กระทบเลย อาจจะมีเรื่องลิฟต์ที่สั่นบ้าง แต่ผู้รู้บอกว่า ตึกนี้ สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ในระดับหนึ่ง โดยเรื่องคณะกรรมการตรวจสอบ จะให้กรมโยธาธิการฯ ไปดูแล

โดย นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำ ให้ตรวจสอบทุกอาคาร เหตุเกิดอยู่ตึกเดียว แต่ตึกอื่นไม่เป็นอะไรรุนแรง โดยได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบฯ แล้วให้กลับมารายงานผลภายในสัปดาห์หน้า.-314-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 19 คนไทยรับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

15 พ.ค.- เปิดปฏิบัติการ “The Scam เงินแท้ คนเก๊” รวบ 19 คนไทยขายชาติ รับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์รวม 6.6 ล้านบาท พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ร่วมแถลงข่าว กรณีมีผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งสายที่ 1 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ มีพัสดุมาส่ง จากนั้นได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง (สายที่ 2) เมื่อผู้เสียหายโทรกลับไป อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองคลัง โดยให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายสั่ง อ้างเพื่อเพิ่มเงินบำนาญ โดยได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินครั้งแรกจำนวน 720,000 บาท และต่อมาได้มีสายที่ 3 โทรเข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าการทำธุรกรรมที่ได้ทำไปก่อนหน้านั้นผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอก เป็นเหตุให้ต้องระงับบัญชี และให้ทำตามขั้นตอนจากธนาคารแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำให้ต้องโอนเงินไปอีกเป็นจำนวน 6 ครั้ง แต่มาทราบภายหลังว่าสุดท้ายเป็นการโอนเงินออกจากบัญชีทุกบัญชีของตนเองไปยังบัญชีของคนร้าย รวมความเสียหายทั้งหมด 3,942,767 บาท พฤติการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นกระบวนการ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ทำการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อมูล […]

นายกฯ เยือนเวียดนามวันแรก เดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ

เวียดนาม 15 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและเทคโนโลยี.-สำนักข่าวไทย

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

ยังปิดล้อม! เหตุชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า จ่อปรับยุทธวิธี

15 พ.ค.- ยังปิดล้อม! เหตุชายคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ เน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ เตรียมปรับยุทธวิธีระงับเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่เหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ภายในบ้านพักหลังวัดลครทำ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า จะเข้าไปพูดคุยกับทาง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังเน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ ซึ่งจะยังไม่มีการยกระดับมาตรการหรือยุทธวิธีใดๆ ยึดการเจรจาเป็นหลักแม้สถานการณ์จะล่วงเลยมานานกว่า 9 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ส่วนกรณีชาวบ้านหลายครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นจะหารือกับทาง พล.ต.ท.สยาม เรื่องมาตรการเยียวยา ตำรวจเตรียมปรับยุทธวิธีระงับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังให้แม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปเจรจาอยู่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธและมอบตัว ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่ท่าทีโดยรวมของผู้ก่อเหตุเย็นลง อาการคลุ้มคลั่งก็ลดลงด้วย หากการเจรจาไม่เป็นผลหลังจากนี้อาจจะมีการปรับยุทธวิธีต่อไป -420 .-สำนักข่าวไทย