นายกฯ นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ดูก่อสร้างตึกสูง

29 มี.ค. – นายกฯ นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ดูก่อสร้างตึกสูง คุยนักท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่น หลังเหตุแผ่นดินไหว ต่างชาติ “Don’t worry” เชื่อมั่นสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ นายกฯ ข้องใจตึก สตง. ถล่มตึกเดียว ไม่ปล่อยผ่านสัปดาห์หน้าต้องได้คำตอบ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหว ที่โรงพยาบาลวชิรแล้ว นายกฯ พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงคมนาคม และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการ กทม. ได้เดินทางมาดูความเรียบร้อยการเปิดใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ด้วยการโดยสารจากสถานีสนามไชย ไปจนถึงสถานีสีลม

โดยมีนายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่า รฟม. รายงานสถานการณ์ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวและวิธีแก้ปัญหาให้ทราบ ว่าเนื่องจากระบบไฟค่อนข้างเปราะบางทำให้การตรวจสอบเป็นไปยังล่าช้า หลังจากตรวจสอบก็มีการทดลองวิ่งก่อนจะเปิดให้ใช้บริการจริง ซึ่งตอนนี้ใช้งานได้เรียบร้อยแล้ว ในระหว่างรับฟังรายงาน นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึงความคืบหน้าการเดินรถไฟฟ้า ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุรถไฟฟ้าทุกสาย ได้มีการตรวจสอบในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน และระบบการเดินรถต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจและกลับมาเปิดได้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินขึ้นจากรถไฟฟ้าสถานนีสีลม นายกรัฐมนตรีได้พบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และได้คุยกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว

นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการพูดคุยกับนักท่องเที่ยว ว่าได้สอบถามนักท่องเที่ยวว่ามีความกังวลใจอย่างไรบ้าง เมื่อวานที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวรู้สึกนิดหน่อย หลายประเทศอาจจะคุ้นชินแผ่นดินไหวมากกว่าเรา อีกเหตุผลหนึ่งเมื่อความเคลื่อนไหวหยุดมาหลายชั่วโมง ทุกคนก็ใช้ชีวิตตามปกติ และได้มีการบอกว่าชอบกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่สวยงาม และเดินทางโดยใช้รถไฟฟ้าใต้ดินได้ตามปกติ ไม่ได้รู้สึกอะไร ต่างชาติได้มีการสอบถามตนเองว่ามาทำอะไรที่นี่ จึงได้บอกไปว่ามาดูเรื่องตึกต่างๆ ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร และเขาก็ตั้งใจจะท่องเที่ยวตามแผนที่วางไว้

เมื่อถามว่าต่างชาติมองอย่างไรเมื่อนายกรัฐมนตรีอายุยังน้อย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใช่ และไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย


นายกรัฐมนตรี ยังย้ำถึงมาตรการหลังเหตุแผ่นดินไหว ว่าส่วนไหนที่ยังไม่เชื่อมั่น 100% ก็จะปิดให้บริการก่อน เช่น รถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง จากที่ได้รับรายงานก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ขอให้มั่นใจ 100% ก่อนจึงจะเปิดให้บริการ ซึ่งตนก็เห็นด้วย อยากให้มั่นใจทุกเส้นทางก่อนที่จะเปิดให้บริการ เพราะจะไม่เอาชีวิตประชาชนมาเสี่ยง ในวันพรุ่งนี้ก็จะประกาศเปิดให้บริการได้ รอให้ผู้ว่าฯ กทม.ยืนยันอีกครั้ง

เมื่อสักครู่ได้ถามผู้ว่า รฟม. ว่า เกิดเหตุอะไรขึ้นบ้างเกี่ยวกับสถานีรถไฟฟ้าหลังเกิดแผ่นดินไหว พบว่าไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงอะไรมาก ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องใหญ่ มีเพียงเศษท่อสั่น และมีส่วนผุพังเล็กๆน้อยๆ ซึ่งจากที่ได้ตรวจทั้งสาย ก็ได้มีการแก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้ว จึงมั่นใจว่าเรียกความเชื่อมั่นได้แน่นอน

ส่วนมาตรการเยียวยาต่างๆจะชัดเจนเมื่อไหร่นั้น นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า กรอบมีอยู่แล้ว ให้ทาง กทม.ประกาศได้เลยแต่ต้องดูอีกที ว่าความเสียหายกับกรอบเข้ากันได้หรือไม่ พร้อมยกตัวอย่างน้ำท่วมที่มีดินโคลนถล่ม จากกรอบที่ตั้งไว้ 5,000 บาท ก็เพิ่มเป็น 9,000 ได้เลย จึงให้ กทม.ที่เป็นส่วนหัวหน้าแจ้งในเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลดูแลแน่นอน

ส่วนประเด็นเรื่องโครงสร้างตึกที่ถล่มลงมา ได้มีการพูดคุยกับ ปภ.หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองก็สงสัยเช่นกัน ทำไมเป็นตึกเดียวที่เกิดปัญหา แน่นอนว่าไม่ปล่อย และตามดูว่าเป็นเพราะอะไร ต้องให้ผู้ที่มีความรู้ เช่น กรมโยธา ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ สัปดาห์หน้าจะมารายงานว่าเกิดอะไรขึ้น ตนได้ให้ไทม์ไลน์และสั่งการเรียบร้อย ขอคณะกรรมการที่มีผู้รู้อยู่ในนั้น สามารถให้คำแนะนำ และไล่ดูเลยว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร แบบผ่านใครผ่านได้อย่างไร มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร เพราะการก่อสร้างมีตั้งหลายตึก และการทำตึกแบบนี้เป็นตึกแรกในประเทศ ก็ไม่ใช่ เพราะฉะนั้นจะตามดู

ส่วนเรื่องท่าอากาศยาน นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ท่าอากาศยานไทย ได้ชี้แจงว่า ปัจจุบันการให้บริการทั้ง 6 ท่าอากาศยานให้บริการตามปกติ เที่ยวบินในวันนี้สามารถเดินทางได้ตามปกติ ทุกอย่างปกติดี นายกรัฐมนตรี จึงกล่าวเสริมว่า เมื่อวานนี้ได้บินกลับจากภูเก็ต ซึ่งทุกอย่างก็ปกติดี ไม่มีปัญหาแน่นอน เมื่อวานที่เกิดเหตุการณ์ได้ชะลอการขึ้นบินไว้ 30 นาทีเท่านั้น

จากนั้น นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองได้เข้าไป พูดคุยกับนายกฯ โดยได้ชี้แจงข้อมูล เกี่ยวกับการตรวจสอบกรณีตึกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งใหม่ถล่ม จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในวันนี้ทันที ร่วมกับทางสภาวิศวกรว่าจริงๆ แล้วเกิดอะไรขึ้น

ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะหันมาบอกกับสื่อมวลชนว่าเหตุแผ่นดินไหวเกิดตั้ง 7.7 ริกเตอร์ แต่ว่าตึกของเราทั้งหมดไม่มีปัญหา มีแค่ตึกเดียว รัฐบาลก็จะตั้งคณะกรรมการที่ต้องเอาผู้รู้มาคุยกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับตึกนั้นตึกเดียว ตั้งแต่เรื่องของการก่อสร้าง การออกแบบ ซึ่งเมื่อวานตนก็คิดอยู่ว่า แล้วถ้าเกิดตึกก่อสร้างเสร็จแล้วจะเป็นอะไรหรือไม่ เพราะว่าอาจจะมีคนเป็นพัน และได้ดูคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ดูหลายคลิปหลายมุมหลายรอบ จริงๆแล้วตนก็ผ่านการสร้างตึกมาในภาคของตัวเอง ก็ไม่เคยเห็นแบบนี้เหมือนกัน ก็ต้องสืบให้รู้ว่าผิดพลาดตรงไหน การเคาะงบไปตั้งแต่ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น และการต่ออายุ การยืดเวลา มันยืดแล้วมันยังไง

ส่วนจะต้องไปไล่เช็กตึกต่างๆ เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างอย่างไร นายกฯ กล่าวว่าจริงๆ แล้วอยู่ในกฎหมายอยู่แล้ว ว่าตึกทุกตึกที่สร้างใน กทม. มันจะต้องสามารถ ต้านเรื่องแผ่นดินไหวได้ ในระดับหนึ่ง ซึ่งเมื่อวานนี้ก็ไม่ได้กระทบเลย แต่อาจจะมีแค่เรื่องลิฟต์ และการสั่นของตึก ที่ตนได้ฟังผู้รู้ก็ระบุว่ามันสามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ระดับหนึ่ง

เมื่อถามว่าคณะกรรมการจะให้หน่วยงานไหนรับผิด นายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้เป็นหน่วยงานของทางกรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นผู้รับผิดชอบ โดยจะตั้งวันนี้ ซึ่งได้มีการประชุมไปเมื่อช่วงเช้า โดยปลายอาทิตย์หน้าจะขอเรียกเข้ามาคุยอีกทีว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อมีผู้รู้มาคุยกันหลายคนก็ต้องได้คำตอบอยู่แล้ว

จากนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พานายกรัฐมนตรี ดูตึกที่กำลังก่อสร้างบริเวณโดยรอบสวนลุมพินี ก่อนนายกรัฐมนตรีจะหันมาบอกกับสื่อมวลชน ว่าตนเองผ่านการสร้างตึกมาในภาคของตนเอง ไม่เคยเห็นลักษณะแบบนี้เหมือนกัน ต้องสืบให้รู้ว่าผิดพลาดตรงจุดใด การเคาะงบฯ เกิดอะไรขึ้น การต่ออายุที่ยืดเวลาเป็นอย่างไร ความจริงตึกที่สร้างใน กทม. ต้องรองรับแผ่นดินไหวได้ ระดับเมื่อวานนี้ตึกส่วนใหญ่ไม่กระทบเลย อาจจะมีเรื่องลิฟต์ที่สั่นบ้าง แต่ผู้รู้บอกว่า ตึกนี้ สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ในระดับหนึ่ง โดยเรื่องคณะกรรมการตรวจสอบ จะให้กรมโยธาธิการฯ ไปดูแล

โดย นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำ ให้ตรวจสอบทุกอาคาร เหตุเกิดอยู่ตึกเดียว แต่ตึกอื่นไม่เป็นอะไรรุนแรง โดยได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบฯ แล้วให้กลับมารายงานผลภายในสัปดาห์หน้า.-314-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศิริโชค” เชื่อรถถูกเผาโยงการเมือง ตร.เร่งหาเบาะแสคนร้าย

6 ก.ค.- “ศิริโชค” ฟันธงเหตุรถยนต์ถูกลอบวางเพลิงมาจากเรื่องการเมือง ด้านตำรวจเร่งหาเบาะแสคนร้าย ส่วนบริษัทเจ้าของรถออกหนังสือชี้แจงสาเหตุไฟไหม้ ความคืบหน้าเหตุการณ์ไฟไหม้ รถ GWM HAVAL H6 PHEV ของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ 4 สมัย ซึ่งจอดอยู่ในบริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อช่วงตี 3 วานนี้ (5ก.ค.68) ทำให้รถเสียหายทั้งคันและได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.นาทวี เพื่อให้ตรวจสอบว่าเป็นความบกพร่องของรถหรือลอบวางเพลิง ล่าสุดในทางคดีมีการยืนยันชัดเจนแล้วว่า เป็นการจงใจลอบวางเพลิง โดยหลังจากที่วานนี้ พนักงานสอบสวน สภ.นาทวี และตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้รถยนต์คันนี้ ปรากฏว่าพบมียางรถยนต์จำนวน 6 เส้นถูกเผาเหลือแต่เส้นใยเหล็ก พร้อมด้วยตับสิเหรงที่ใช้มุงหลังคา ซึ่งน่าจะเป็นเชื้อเพลิงในการจุดไฟเพื่อทำการเผารถยนต์คันนี้อยู่บริเวณใต้ท้องรถ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุหรือความบกพร่องของรถแต่อย่างใด ด้านนายศิริโชค เปิดเผยว่า ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าเป็นการวางเพลิงโดยใช้ยางรถยนต์ ตับสิเหรง และใช้น้ำมันเบนซินราด จากที่ตนสังเกตแม้ว่าทางศูนย์หลักฐานจะยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ว่าดูจากรูปการแล้วพุ่งเป้าไปที่คนวางเพลิง ไม่ใช่ความบกพร่องของรถ แต่มีความตั้งใจที่จะให้เป็นความบกพร่องของรถเพราะเป็นรถไฟฟ้า แต่สุดท้ายจากหลักฐานที่พบบ่งชี้ไปที่การวางเพลิง มองว่ามาจากเรื่องการเมืองมากกว่าเรื่องการสร้างสถานการณ์ด้านความมั่นคงหรือเรื่องส่วนตัว เพราะตนไม่มีความแค้นส่วนตัวกับใครไม่ได้ทำธุรกิจในพื้นที่ ไม่มีเรื่องชู้สาว สิ่งที่เดียวที่มีคือการเป็นนักการเมือง […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดดังพิษณุโลก ย่องลาสิกขา หลังพัวพันข่าวดัง

พิษณุโลก 6 ก.ค.- “พระ ส.” เจ้าอาวาสวัดดัง จ.พิษณุโลก ย่องลาสิกขาเงียบ หลังพัวพันข่าวดัง ขณะทางวัดยังไม่แถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุ เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ได้ลาสิกขาอย่างเงียบ ๆ โดย พระครูวิโรจน์ธรรมากร เจ้าอาวาสวัดกรุงกรัก เจ้าคณะตำบลท่านางงาม เขต 2 เลขานุการเจ้าคณะอำเภอบางระกำ เป็นผู้ทำพิธีลาสิกขาให้พระ ส. ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเป็นสามีคนแรกของหญิงสาวที่รู้จักในฉายา “น้องดอกไม้” หรือสีกา ก. และยิ่งได้รับความสนใจเมื่อมีข้อมูลระบุว่า น้องดอกไม้มีบุตรสาววัย 13 ปี ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในอดีตของพระ ส. ขณะทางวัดยังไม่มีการออกแถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุของการลาสิกขา แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่าเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของเจ้าอาวาส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดและศาสนา -สำนักข่าวไทย

ไทยเปิดด่านกรณีพิเศษ ช่วยนายพลกัมพูชาป่วยฉุกเฉิน

สระแก้ว 6 ก.ค.- เพื่อมนุษยธรรม! ไทยเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ ช่วยเหลือนายทหารระดับสูงกัมพูชา ป่วยฉุกเฉิน ส่งรักษาโรงพยาบาล อ.อรัญประเทศ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคงตึงเครียดและมีการปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ได้เกิดภาพความประทับใจ เมื่อหน่วยงานความมั่นคงของไทย ร่วมกันตัดสินใจเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่นายทหารระดับสูงกัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ไทยจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันอำนวยความสะดวกบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนลอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ เพื่อทำการรักษาให้ทันท่วงที ปัจจุบันด่านคลองลึก ยังคงปิดทำการจากปัญหาชายแดนที่ยังไม่คลี่คลาย แต่การดำเนินการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า หลักมนุษยธรรมและความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกันนั้นอยู่เหนือปัญหาความขัดแย้งใด ๆ ทั้งปวง และยังแสดงถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานของทั้งสองประเทศ -สำนักข่าวไทย