นายกฯ นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ดูก่อสร้างตึกสูง

29 มี.ค. – นายกฯ นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ดูก่อสร้างตึกสูง คุยนักท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่น หลังเหตุแผ่นดินไหว ต่างชาติ “Don’t worry” เชื่อมั่นสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ นายกฯ ข้องใจตึก สตง. ถล่มตึกเดียว ไม่ปล่อยผ่านสัปดาห์หน้าต้องได้คำตอบ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหว ที่โรงพยาบาลวชิรแล้ว นายกฯ พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงคมนาคม และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการ กทม. ได้เดินทางมาดูความเรียบร้อยการเปิดใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ด้วยการโดยสารจากสถานีสนามไชย ไปจนถึงสถานีสีลม

โดยมีนายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่า รฟม. รายงานสถานการณ์ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวและวิธีแก้ปัญหาให้ทราบ ว่าเนื่องจากระบบไฟค่อนข้างเปราะบางทำให้การตรวจสอบเป็นไปยังล่าช้า หลังจากตรวจสอบก็มีการทดลองวิ่งก่อนจะเปิดให้ใช้บริการจริง ซึ่งตอนนี้ใช้งานได้เรียบร้อยแล้ว ในระหว่างรับฟังรายงาน นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึงความคืบหน้าการเดินรถไฟฟ้า ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุรถไฟฟ้าทุกสาย ได้มีการตรวจสอบในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน และระบบการเดินรถต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจและกลับมาเปิดได้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินขึ้นจากรถไฟฟ้าสถานนีสีลม นายกรัฐมนตรีได้พบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และได้คุยกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว

นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการพูดคุยกับนักท่องเที่ยว ว่าได้สอบถามนักท่องเที่ยวว่ามีความกังวลใจอย่างไรบ้าง เมื่อวานที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวรู้สึกนิดหน่อย หลายประเทศอาจจะคุ้นชินแผ่นดินไหวมากกว่าเรา อีกเหตุผลหนึ่งเมื่อความเคลื่อนไหวหยุดมาหลายชั่วโมง ทุกคนก็ใช้ชีวิตตามปกติ และได้มีการบอกว่าชอบกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่สวยงาม และเดินทางโดยใช้รถไฟฟ้าใต้ดินได้ตามปกติ ไม่ได้รู้สึกอะไร ต่างชาติได้มีการสอบถามตนเองว่ามาทำอะไรที่นี่ จึงได้บอกไปว่ามาดูเรื่องตึกต่างๆ ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร และเขาก็ตั้งใจจะท่องเที่ยวตามแผนที่วางไว้

เมื่อถามว่าต่างชาติมองอย่างไรเมื่อนายกรัฐมนตรีอายุยังน้อย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใช่ และไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย


นายกรัฐมนตรี ยังย้ำถึงมาตรการหลังเหตุแผ่นดินไหว ว่าส่วนไหนที่ยังไม่เชื่อมั่น 100% ก็จะปิดให้บริการก่อน เช่น รถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง จากที่ได้รับรายงานก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ขอให้มั่นใจ 100% ก่อนจึงจะเปิดให้บริการ ซึ่งตนก็เห็นด้วย อยากให้มั่นใจทุกเส้นทางก่อนที่จะเปิดให้บริการ เพราะจะไม่เอาชีวิตประชาชนมาเสี่ยง ในวันพรุ่งนี้ก็จะประกาศเปิดให้บริการได้ รอให้ผู้ว่าฯ กทม.ยืนยันอีกครั้ง

เมื่อสักครู่ได้ถามผู้ว่า รฟม. ว่า เกิดเหตุอะไรขึ้นบ้างเกี่ยวกับสถานีรถไฟฟ้าหลังเกิดแผ่นดินไหว พบว่าไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงอะไรมาก ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องใหญ่ มีเพียงเศษท่อสั่น และมีส่วนผุพังเล็กๆน้อยๆ ซึ่งจากที่ได้ตรวจทั้งสาย ก็ได้มีการแก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้ว จึงมั่นใจว่าเรียกความเชื่อมั่นได้แน่นอน

ส่วนมาตรการเยียวยาต่างๆจะชัดเจนเมื่อไหร่นั้น นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า กรอบมีอยู่แล้ว ให้ทาง กทม.ประกาศได้เลยแต่ต้องดูอีกที ว่าความเสียหายกับกรอบเข้ากันได้หรือไม่ พร้อมยกตัวอย่างน้ำท่วมที่มีดินโคลนถล่ม จากกรอบที่ตั้งไว้ 5,000 บาท ก็เพิ่มเป็น 9,000 ได้เลย จึงให้ กทม.ที่เป็นส่วนหัวหน้าแจ้งในเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลดูแลแน่นอน

ส่วนประเด็นเรื่องโครงสร้างตึกที่ถล่มลงมา ได้มีการพูดคุยกับ ปภ.หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองก็สงสัยเช่นกัน ทำไมเป็นตึกเดียวที่เกิดปัญหา แน่นอนว่าไม่ปล่อย และตามดูว่าเป็นเพราะอะไร ต้องให้ผู้ที่มีความรู้ เช่น กรมโยธา ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ สัปดาห์หน้าจะมารายงานว่าเกิดอะไรขึ้น ตนได้ให้ไทม์ไลน์และสั่งการเรียบร้อย ขอคณะกรรมการที่มีผู้รู้อยู่ในนั้น สามารถให้คำแนะนำ และไล่ดูเลยว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร แบบผ่านใครผ่านได้อย่างไร มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร เพราะการก่อสร้างมีตั้งหลายตึก และการทำตึกแบบนี้เป็นตึกแรกในประเทศ ก็ไม่ใช่ เพราะฉะนั้นจะตามดู

ส่วนเรื่องท่าอากาศยาน นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ท่าอากาศยานไทย ได้ชี้แจงว่า ปัจจุบันการให้บริการทั้ง 6 ท่าอากาศยานให้บริการตามปกติ เที่ยวบินในวันนี้สามารถเดินทางได้ตามปกติ ทุกอย่างปกติดี นายกรัฐมนตรี จึงกล่าวเสริมว่า เมื่อวานนี้ได้บินกลับจากภูเก็ต ซึ่งทุกอย่างก็ปกติดี ไม่มีปัญหาแน่นอน เมื่อวานที่เกิดเหตุการณ์ได้ชะลอการขึ้นบินไว้ 30 นาทีเท่านั้น

จากนั้น นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองได้เข้าไป พูดคุยกับนายกฯ โดยได้ชี้แจงข้อมูล เกี่ยวกับการตรวจสอบกรณีตึกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งใหม่ถล่ม จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในวันนี้ทันที ร่วมกับทางสภาวิศวกรว่าจริงๆ แล้วเกิดอะไรขึ้น

ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะหันมาบอกกับสื่อมวลชนว่าเหตุแผ่นดินไหวเกิดตั้ง 7.7 ริกเตอร์ แต่ว่าตึกของเราทั้งหมดไม่มีปัญหา มีแค่ตึกเดียว รัฐบาลก็จะตั้งคณะกรรมการที่ต้องเอาผู้รู้มาคุยกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับตึกนั้นตึกเดียว ตั้งแต่เรื่องของการก่อสร้าง การออกแบบ ซึ่งเมื่อวานตนก็คิดอยู่ว่า แล้วถ้าเกิดตึกก่อสร้างเสร็จแล้วจะเป็นอะไรหรือไม่ เพราะว่าอาจจะมีคนเป็นพัน และได้ดูคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ดูหลายคลิปหลายมุมหลายรอบ จริงๆแล้วตนก็ผ่านการสร้างตึกมาในภาคของตัวเอง ก็ไม่เคยเห็นแบบนี้เหมือนกัน ก็ต้องสืบให้รู้ว่าผิดพลาดตรงไหน การเคาะงบไปตั้งแต่ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น และการต่ออายุ การยืดเวลา มันยืดแล้วมันยังไง

ส่วนจะต้องไปไล่เช็กตึกต่างๆ เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างอย่างไร นายกฯ กล่าวว่าจริงๆ แล้วอยู่ในกฎหมายอยู่แล้ว ว่าตึกทุกตึกที่สร้างใน กทม. มันจะต้องสามารถ ต้านเรื่องแผ่นดินไหวได้ ในระดับหนึ่ง ซึ่งเมื่อวานนี้ก็ไม่ได้กระทบเลย แต่อาจจะมีแค่เรื่องลิฟต์ และการสั่นของตึก ที่ตนได้ฟังผู้รู้ก็ระบุว่ามันสามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ระดับหนึ่ง

เมื่อถามว่าคณะกรรมการจะให้หน่วยงานไหนรับผิด นายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้เป็นหน่วยงานของทางกรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นผู้รับผิดชอบ โดยจะตั้งวันนี้ ซึ่งได้มีการประชุมไปเมื่อช่วงเช้า โดยปลายอาทิตย์หน้าจะขอเรียกเข้ามาคุยอีกทีว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อมีผู้รู้มาคุยกันหลายคนก็ต้องได้คำตอบอยู่แล้ว

จากนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พานายกรัฐมนตรี ดูตึกที่กำลังก่อสร้างบริเวณโดยรอบสวนลุมพินี ก่อนนายกรัฐมนตรีจะหันมาบอกกับสื่อมวลชน ว่าตนเองผ่านการสร้างตึกมาในภาคของตนเอง ไม่เคยเห็นลักษณะแบบนี้เหมือนกัน ต้องสืบให้รู้ว่าผิดพลาดตรงจุดใด การเคาะงบฯ เกิดอะไรขึ้น การต่ออายุที่ยืดเวลาเป็นอย่างไร ความจริงตึกที่สร้างใน กทม. ต้องรองรับแผ่นดินไหวได้ ระดับเมื่อวานนี้ตึกส่วนใหญ่ไม่กระทบเลย อาจจะมีเรื่องลิฟต์ที่สั่นบ้าง แต่ผู้รู้บอกว่า ตึกนี้ สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ในระดับหนึ่ง โดยเรื่องคณะกรรมการตรวจสอบ จะให้กรมโยธาธิการฯ ไปดูแล

โดย นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำ ให้ตรวจสอบทุกอาคาร เหตุเกิดอยู่ตึกเดียว แต่ตึกอื่นไม่เป็นอะไรรุนแรง โดยได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบฯ แล้วให้กลับมารายงานผลภายในสัปดาห์หน้า.-314-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]