นายกฯ นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ดูก่อสร้างตึกสูง

29 มี.ค. – นายกฯ นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ดูก่อสร้างตึกสูง คุยนักท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่น หลังเหตุแผ่นดินไหว ต่างชาติ “Don’t worry” เชื่อมั่นสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ นายกฯ ข้องใจตึก สตง. ถล่มตึกเดียว ไม่ปล่อยผ่านสัปดาห์หน้าต้องได้คำตอบ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหว ที่โรงพยาบาลวชิรแล้ว นายกฯ พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงคมนาคม และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการ กทม. ได้เดินทางมาดูความเรียบร้อยการเปิดใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ด้วยการโดยสารจากสถานีสนามไชย ไปจนถึงสถานีสีลม

โดยมีนายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่า รฟม. รายงานสถานการณ์ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวและวิธีแก้ปัญหาให้ทราบ ว่าเนื่องจากระบบไฟค่อนข้างเปราะบางทำให้การตรวจสอบเป็นไปยังล่าช้า หลังจากตรวจสอบก็มีการทดลองวิ่งก่อนจะเปิดให้ใช้บริการจริง ซึ่งตอนนี้ใช้งานได้เรียบร้อยแล้ว ในระหว่างรับฟังรายงาน นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึงความคืบหน้าการเดินรถไฟฟ้า ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุรถไฟฟ้าทุกสาย ได้มีการตรวจสอบในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน และระบบการเดินรถต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจและกลับมาเปิดได้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินขึ้นจากรถไฟฟ้าสถานนีสีลม นายกรัฐมนตรีได้พบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และได้คุยกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว

นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการพูดคุยกับนักท่องเที่ยว ว่าได้สอบถามนักท่องเที่ยวว่ามีความกังวลใจอย่างไรบ้าง เมื่อวานที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวรู้สึกนิดหน่อย หลายประเทศอาจจะคุ้นชินแผ่นดินไหวมากกว่าเรา อีกเหตุผลหนึ่งเมื่อความเคลื่อนไหวหยุดมาหลายชั่วโมง ทุกคนก็ใช้ชีวิตตามปกติ และได้มีการบอกว่าชอบกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่สวยงาม และเดินทางโดยใช้รถไฟฟ้าใต้ดินได้ตามปกติ ไม่ได้รู้สึกอะไร ต่างชาติได้มีการสอบถามตนเองว่ามาทำอะไรที่นี่ จึงได้บอกไปว่ามาดูเรื่องตึกต่างๆ ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร และเขาก็ตั้งใจจะท่องเที่ยวตามแผนที่วางไว้

เมื่อถามว่าต่างชาติมองอย่างไรเมื่อนายกรัฐมนตรีอายุยังน้อย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใช่ และไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย


นายกรัฐมนตรี ยังย้ำถึงมาตรการหลังเหตุแผ่นดินไหว ว่าส่วนไหนที่ยังไม่เชื่อมั่น 100% ก็จะปิดให้บริการก่อน เช่น รถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง จากที่ได้รับรายงานก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ขอให้มั่นใจ 100% ก่อนจึงจะเปิดให้บริการ ซึ่งตนก็เห็นด้วย อยากให้มั่นใจทุกเส้นทางก่อนที่จะเปิดให้บริการ เพราะจะไม่เอาชีวิตประชาชนมาเสี่ยง ในวันพรุ่งนี้ก็จะประกาศเปิดให้บริการได้ รอให้ผู้ว่าฯ กทม.ยืนยันอีกครั้ง

เมื่อสักครู่ได้ถามผู้ว่า รฟม. ว่า เกิดเหตุอะไรขึ้นบ้างเกี่ยวกับสถานีรถไฟฟ้าหลังเกิดแผ่นดินไหว พบว่าไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงอะไรมาก ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องใหญ่ มีเพียงเศษท่อสั่น และมีส่วนผุพังเล็กๆน้อยๆ ซึ่งจากที่ได้ตรวจทั้งสาย ก็ได้มีการแก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้ว จึงมั่นใจว่าเรียกความเชื่อมั่นได้แน่นอน

ส่วนมาตรการเยียวยาต่างๆจะชัดเจนเมื่อไหร่นั้น นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า กรอบมีอยู่แล้ว ให้ทาง กทม.ประกาศได้เลยแต่ต้องดูอีกที ว่าความเสียหายกับกรอบเข้ากันได้หรือไม่ พร้อมยกตัวอย่างน้ำท่วมที่มีดินโคลนถล่ม จากกรอบที่ตั้งไว้ 5,000 บาท ก็เพิ่มเป็น 9,000 ได้เลย จึงให้ กทม.ที่เป็นส่วนหัวหน้าแจ้งในเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลดูแลแน่นอน

ส่วนประเด็นเรื่องโครงสร้างตึกที่ถล่มลงมา ได้มีการพูดคุยกับ ปภ.หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองก็สงสัยเช่นกัน ทำไมเป็นตึกเดียวที่เกิดปัญหา แน่นอนว่าไม่ปล่อย และตามดูว่าเป็นเพราะอะไร ต้องให้ผู้ที่มีความรู้ เช่น กรมโยธา ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ สัปดาห์หน้าจะมารายงานว่าเกิดอะไรขึ้น ตนได้ให้ไทม์ไลน์และสั่งการเรียบร้อย ขอคณะกรรมการที่มีผู้รู้อยู่ในนั้น สามารถให้คำแนะนำ และไล่ดูเลยว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร แบบผ่านใครผ่านได้อย่างไร มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร เพราะการก่อสร้างมีตั้งหลายตึก และการทำตึกแบบนี้เป็นตึกแรกในประเทศ ก็ไม่ใช่ เพราะฉะนั้นจะตามดู

ส่วนเรื่องท่าอากาศยาน นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ท่าอากาศยานไทย ได้ชี้แจงว่า ปัจจุบันการให้บริการทั้ง 6 ท่าอากาศยานให้บริการตามปกติ เที่ยวบินในวันนี้สามารถเดินทางได้ตามปกติ ทุกอย่างปกติดี นายกรัฐมนตรี จึงกล่าวเสริมว่า เมื่อวานนี้ได้บินกลับจากภูเก็ต ซึ่งทุกอย่างก็ปกติดี ไม่มีปัญหาแน่นอน เมื่อวานที่เกิดเหตุการณ์ได้ชะลอการขึ้นบินไว้ 30 นาทีเท่านั้น

จากนั้น นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองได้เข้าไป พูดคุยกับนายกฯ โดยได้ชี้แจงข้อมูล เกี่ยวกับการตรวจสอบกรณีตึกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งใหม่ถล่ม จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในวันนี้ทันที ร่วมกับทางสภาวิศวกรว่าจริงๆ แล้วเกิดอะไรขึ้น

ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะหันมาบอกกับสื่อมวลชนว่าเหตุแผ่นดินไหวเกิดตั้ง 7.7 ริกเตอร์ แต่ว่าตึกของเราทั้งหมดไม่มีปัญหา มีแค่ตึกเดียว รัฐบาลก็จะตั้งคณะกรรมการที่ต้องเอาผู้รู้มาคุยกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับตึกนั้นตึกเดียว ตั้งแต่เรื่องของการก่อสร้าง การออกแบบ ซึ่งเมื่อวานตนก็คิดอยู่ว่า แล้วถ้าเกิดตึกก่อสร้างเสร็จแล้วจะเป็นอะไรหรือไม่ เพราะว่าอาจจะมีคนเป็นพัน และได้ดูคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ดูหลายคลิปหลายมุมหลายรอบ จริงๆแล้วตนก็ผ่านการสร้างตึกมาในภาคของตัวเอง ก็ไม่เคยเห็นแบบนี้เหมือนกัน ก็ต้องสืบให้รู้ว่าผิดพลาดตรงไหน การเคาะงบไปตั้งแต่ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น และการต่ออายุ การยืดเวลา มันยืดแล้วมันยังไง

ส่วนจะต้องไปไล่เช็กตึกต่างๆ เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างอย่างไร นายกฯ กล่าวว่าจริงๆ แล้วอยู่ในกฎหมายอยู่แล้ว ว่าตึกทุกตึกที่สร้างใน กทม. มันจะต้องสามารถ ต้านเรื่องแผ่นดินไหวได้ ในระดับหนึ่ง ซึ่งเมื่อวานนี้ก็ไม่ได้กระทบเลย แต่อาจจะมีแค่เรื่องลิฟต์ และการสั่นของตึก ที่ตนได้ฟังผู้รู้ก็ระบุว่ามันสามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ระดับหนึ่ง

เมื่อถามว่าคณะกรรมการจะให้หน่วยงานไหนรับผิด นายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้เป็นหน่วยงานของทางกรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นผู้รับผิดชอบ โดยจะตั้งวันนี้ ซึ่งได้มีการประชุมไปเมื่อช่วงเช้า โดยปลายอาทิตย์หน้าจะขอเรียกเข้ามาคุยอีกทีว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อมีผู้รู้มาคุยกันหลายคนก็ต้องได้คำตอบอยู่แล้ว

จากนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พานายกรัฐมนตรี ดูตึกที่กำลังก่อสร้างบริเวณโดยรอบสวนลุมพินี ก่อนนายกรัฐมนตรีจะหันมาบอกกับสื่อมวลชน ว่าตนเองผ่านการสร้างตึกมาในภาคของตนเอง ไม่เคยเห็นลักษณะแบบนี้เหมือนกัน ต้องสืบให้รู้ว่าผิดพลาดตรงจุดใด การเคาะงบฯ เกิดอะไรขึ้น การต่ออายุที่ยืดเวลาเป็นอย่างไร ความจริงตึกที่สร้างใน กทม. ต้องรองรับแผ่นดินไหวได้ ระดับเมื่อวานนี้ตึกส่วนใหญ่ไม่กระทบเลย อาจจะมีเรื่องลิฟต์ที่สั่นบ้าง แต่ผู้รู้บอกว่า ตึกนี้ สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ในระดับหนึ่ง โดยเรื่องคณะกรรมการตรวจสอบ จะให้กรมโยธาธิการฯ ไปดูแล

โดย นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำ ให้ตรวจสอบทุกอาคาร เหตุเกิดอยู่ตึกเดียว แต่ตึกอื่นไม่เป็นอะไรรุนแรง โดยได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบฯ แล้วให้กลับมารายงานผลภายในสัปดาห์หน้า.-314-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชาสั่งแบนหนัง-ละครไทย

พนมเปญ 13 มิ.ย. – เว็บไวต์ขแมร์ไทม์ส ของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภา เรียกร้องให้สถานีโทรทัศน์กัมพูชายกเลิกการออกอากาศละครไทย เลิกฉายหนังไทย และอาจจะยกเลิกการนำเข้าสินค้าจากไทยด้วยเพื่อรักษาอธิปไตยและศักดิ์ศรีของประเทศในยามที่เผชิญแรงกดดัน กระทรวงข่าวสารกัมพูชาได้ออกหนังสือถึงเจ้าของสถานีโทรทัศน์ทุกแห่งแจ้งให้ทราบว่าตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 12 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ทุกสถานีของกัมพูชาต้องงดออกอากาศภาพยนตร์ไทยทุกประเภทเพื่อความเหมาะสมของสถานการณ์และรักษาความมั่นคงของชาติ นอกจากนี้กระทรวงศิลปะและวัฒนธรรมกัมพูชายังออกประกาศแจ้งเตือนให้ระงับการฉายและห้ามนำเข้าภาพยนตร์ไทยทุกประเภทในกัมพูชาตั้งแต่ 12 นาฬิกาวันนี้เป็นต้นไป.-816.-สำนักข่าวไทย

 อิสราเอลระบุเปิดฉากโจมตีอิหร่าน

เยรูซาเล็ม 13 มิ.ย. – กองกำลังอิสราเอลเปิดฉากโจมตีเป้าหมายด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน เพื่อขัดขวางมิให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ สื่อของอิหร่านและผู้เห็นเหตุการณ์รายงานว่า เกิดเหตุระเบิดหลายครั้งที่โรงงานเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียม อิสราเอลเรียกปฏิบัติการโจมตีนี้ว่า “สิงห์ผงาด” (Rising Lion) โดยระบุว่าการโจมตียังพุ่งเป้าไปที่บรรดาผู้บัญชาการของอิหร่านและโรงงานผลิตขีปนาวุธ พร้อมกันนั้น อิสราเอลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อเตรียมรับมือกับการโจมตีตอบโต้ด้วยขีปนาวุธและโดรนจากเตหะราน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ได้กล่าวผ่านข้อความวิดีโอที่บันทึกไว้ว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ชี้ขาดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล นายเนทันยาฮูเขากล่าวด้วยว่า อิสราเอลเล็งเป้าโจมตีไปที่นักวิทยาศาสตร์ที่กำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โครงการขีปนาวุธนำวิถี และโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่เมืองนาทานซ์ (Natanz) ในปฏิบัติการที่จะดำเนินต่อไปอีกหลายวัน เจ้าหน้าที่กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า อิสราเอลกำลังโจมตีเป้าหมายทางนิวเคลียร์และทางทหาร ‘หลายสิบแห่ง’ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าอิหร่านมีวัสดุเพียงพอที่จะสร้างระเบิดนิวเคลียร์ได้ถึง 15 ลูกภายในไม่กี่วัน มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า อิสราเอลได้ดำเนินการฝ่ายเดียวเนื่องจากเชื่อว่าปฏิบัติการดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับการป้องกันตนเอง พร้อมกับย้ำว่า สหรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฎิบัติการครั้งนี้ของอิสราเอล ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากข่าวนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

“ทนายวิญญัติ” รอศาลกำหนดแนวทางพิจารณา

ศาลฎีกาฯ 13 มิ.ย.-“ทักษิณ” ไม่มาศาลฎีกา​ “ทนายวิญญัติ” รอศาลกำหนดแนวทางพิจารณา นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี​ เดินทางมาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประมาณ 8.30 น. พร้อมทีมทนาย 4-5 คน โดยไม่ปรากฏนายทักษิณ เดินทางมาศาลแต่อย่างใด นายวิญญัติ เปิดเผยถึงกรณีศาลฯได้นัดไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณ ได้รับการเข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ วันนี้ว่า​ เป็นการนัดของศาลฎีกาฯ เพื่อจะดำเนินการกระบวนการไต่สวน​ ซึ่งต้องรอดู ตนในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจของนายทักษิณ​ มาทำหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นว่า กระบวนการพิจารณาคดีจากนี้ไป จะกำหนดหรือวางแนวทางอย่างไร ยังไม่สามารถตอบได้ ส่วนเรื่องรายละเอียดต่างๆ ขอให้สัมภาษณ​์หลังจากที่เสร็จกระบวนการก่อน เนื่องจากว่ายังไม่ทราบ ว่าจะมีกระบวนการอย่างไรบ้าง ทั้งนี้การเป็นทนายความมาพอจะคาดเดาได้ ส่วนในคดีนี้มีโอกาสที่นายทักษิณจะมาหรือไม่​ นายวิญญัติ​ กล่าวว่ายังตอบไม่ได้ และการพิจารณาวันนี้ไม่น่านาน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ ต้องดูว่า เราจะทำคำชี้แจงอย่างไร และหน่วยงานต่างๆ บุคคลที่ได้รับหมายได้ยื่นคำชี้แจงมาหรือไม่ ต้องมาดูว่ามีใครยื่นมาบ้าง หลังจากนั้นศาลจะให้โอกาสทุกฝ่าย ในการชี้แจง.-319​.-สำนักข่าวไทย

เครื่องบินตกอินเดีย

นายกฯ แสดงความเสียใจเครื่องบินตกที่อินเดีย

กทม. 13 มิ.ย.-นายกฯ แสดงความเสียใจโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่เมืองอาเมดาบัด นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความเมื่อคืนที่ผ่านมา แสดงความรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่เมืองอาเมดาบัด ในนามของประชาชนและรัฐบาลไทย ขอแสดงความเสียใจไปยังท่านนายกรัฐมนตรีโมที @NarendraModi และผู้ที่ประสบความสูญเสียจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ I am deeply saddened by the tragic plane crash in Ahmedabad earlier today. On behalf of the people and Government of Thailand, I extend our heartfelt condolences to PM @NarendraModi and all those who suffered loss in this tragedy.-314.-สำนักข่าวไทย