นายแบงก์-นักเศรษฐศาสตร์ แนะแผนฟื้นเศรษฐกิจ

กรุงเทพฯ 24 พ.ย.-นายแบงก์ เผย ธปท.ผ่อนปรนมาตรการแก้หนี้ยั่งยืน 2 ล้านล้านบาท ผ่านธนาคารถึงสิ้นปี 66 ช่วยฟื้นธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ แนะพึ่งไทยเที่ยวไทย เพราะต่างชาติยังไม่เข้าไทย คาดเฟดขยับดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 65 เพื่อคุมเงินเฟ้อ หวั่นลุกลามไทย หนี้ครัวเรือนยังสูง

นายพยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธ.กรุงไทย ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย ปาฐกถาพิเศษ ในงานเสวนา “Unlock Value ก้าวสู่ เส้นทางใหม่ ไร้ขีดจำกัด” ว่า เมื่อเกิดปัญหาแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รัฐบาลได้ออกมาตรการเชิงรุกแก้ปัญหา ทั้งการพักชำระหนี้ การออกเครื่องมือยืดหยุ่น ขยายอายุการชำระหนี้ เพื่อประคองไม่ให้ธุรกิจล้ม มองว่าการออกมาตรการสุดท้ายของ ธปท. มาใช้แก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืนยาวไปถึงสิ้นปี 2566 วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ผ่านสถาบันการเงิน ช่วง 2 ปีข้างหน้า นับเป็นเครื่องมือประคองธุรกิจแบบฟื้นตัว หวังให้ผู้ต้องการสภาพคล่องกลับมาดำเนินกิจการแล้วหันชำระหนี้ได้เหมือนเดิม เพื่อให้ธุรกิจหยุดชะงักกระทบเสถียรภาพสถาบันการเงิน


ความเชื่อมั่นจากการฉีดวัคซีนกระจายครอบคลุมมากขึ้น  แต่อย่าประมาทในการใช้ชีวิต  เพื่อไม่ให้มีปัญหาแพร่ระบาดโควิด-19 ต้องกลับมาล็อคดาวน์อีก เมื่อความเชื่อมั่นกลับมา กิจกรรมเศรษฐกิจจะกลับมา การส่งออกยังเป็นพลังหลัก แต่ประสิทธิภาพการผลิต ต้องปรับตัวรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล หันมาเน้นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ แต่ยอมรับว่า ปัญหาโควิด-19 ได้เกิด “วงจร K ขาลง”  เพราะจะมีคนรอดจากโอกาส และผู้ล้มหายไป จากความเปราะบางโครงสร้างของเศรษฐกิจไทย จึงต้องปรับแนวคิด รูปแบบธุรกิจ เมื่อมีสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ธุรกิจต้องหันมาพึ่งพานโยบายดังกล่าว

ในส่วนของ ธ.กรุงไทย ได้นำแอปเป๋าตัง มาใช้ดูแลประชาชน รองรับนโยบายของรัฐบาล เพื่อใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่ง เราชนะ ชิมช้อปใช้  การขายพันธบัตรรัฐบาลผ่านแอปเป๋าตัง ยอมรับว่า โลกออนไลน์ ออฟไลน์ ต้องทำให้ประชาชนมั่นใจ เพื่อใช้บริการธุรกรรมการเงินผ่านระบบออนไลน์ โดยใช้เจ้าหน้าที่ออกไปให้คำแนะนำให้ประชาชนเชื่อมั่น เพื่อให้ทันกระแสโลกยุคใหม่ จากนี้ไปแอป “เป๋าตัง” ที่มีคนใช้บริการ 33 ล้านคน  พร้อมเปลี่ยนไปให้บริการ ทั้งซื้อขายทองคำผ่านมือถือเพียง 100 บาท บริการชำระเงินออนไลน์  และต้องหาช่องทางบริการอีกหลากหลายผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม รองรับชีวิตวิถีดิจิทัล


นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยภัทร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียตินาคินภัทร กล่าวว่า แม้ไทยจะฉีดวัคซีนมากขึ้น มีโอกาสยอดเจ็บป่วยน้อยลง เสียชีวิต 50 คนต่อวัน จึงต้องหาทางให้ยอดเสียชีวิตลดลง เมื่อต้องการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้จ่ายในประเทศ  เมื่อหลายประเทศยังระวังการติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ยอดเดินทางเข้ามาน้อย จึงต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวไทยด้วยกันเอง เมื่อโควิด-19 ยังอยู่กับเราอีกนาน จึงต้องระวัดระวัง อาจต้องเปลี่ยนทัศนคติในการท่องเที่ยว

ยอมรับว่า อัตราเงินเฟ้อจะเป็นเรื่องใหญ่ในการประเมินเศรษฐกิจช่วงกลางปี 65 เพราะเป็นช่วง ธนาคารกลางสหรัฐจะเริ่มปรับเพิ่มดอกเบี้ย ในช่วงนี้แม้ประชาชน ยังต้องกิน ต้องใช้ แต่ภาคการผลิตได้รับผลกระทบมากจากโควิด-19 ทำให้กลับมาผลิตสินค้าไม่เหมือนเดิม เป็นเหมือนกันทั่วโลก  ทั้งสหรัฐ และจีน ตลาดคาดการณ์ว่า การคุมเงินเฟ้อ ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 65 เริ่มตั้งแต่ มิ.ย.65 เป็นต้นไป และขยับเพิ่มเป็น 7 ครั้งในปีถัดไป ทำให้อัตราดอกเบี้ยสหรัฐขึ้นร้อยละ 2 จึงทำให้เกิดปัญหากับลูกหนี้ เพราะนี้ครัวเรือนยังสูงมาก โดยเฉพาะไทย เมื่อดอกเบี้ยขยับ ลูกหนี้ต้องเหนื่อย ทุกฝายจึงต้องร่วมกันดูแลปัญหาหนี้ไม่ให้กระทบสถาบันการเงิน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน