รัฐสภา 29 มี.ค.-“มงคล” ตื่น นำทีมวิศวกร ตรวจโครงสร้างอาคารรัฐสภา พบเบื้องต้นมั่นใจโครงสร้างปลอดภัยไร้รอยร้าว เดินหน้าประชุม สว. 31 มี.ค.นี้ ได้ พร้อมเตรียมซ้อมแผนอพยพภัยพิบัติ พรุ่งนี้ รองรับขน 5,000 คนออกนอกพื้นที่
นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วย สว. จำนวนหนึ่งอาทิ นายนพดล อินนา สว.และอดีตรองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายปณิธิ พรหมสาขา ณ สกลนคร ตัวแทนจากวิศวกรรมสถาน ตัวแทนจากกรมโยธาธิการ และนางปัณณิตา สท้านไตรภพ เลขาธิการวุฒิสภา ร่วมตรวจสอบอาคารรัฐสภาฝั่งวุฒิสภา ภายหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวเพื่อ สร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยก่อนที่จะมีการประชุมวุฒิสภาในวันจันทร์ที่ 31 มีนาคมนี้
นายมงคล กล่าวว่า เนื่องจากเหตุภัยแผ่นดินไหว วุฒิสภา ไม่ได้นิ่งนอนใจ ตนได้คุยกับเลขาธิการวุฒิสภาและสมาชิกวุฒิสภาหลายท่าน แล้วว่าสิ่งแรกที่ต้องทำคือความรับผิดชอบต่อชีวิตและทรัพย์สินของข้าราชการรัฐสภา และ สว. ทุกคน ซึ่งวันจันทร์ที่ 31 มี.ค. จะมีการประชุมวุฒิสภาดังนั้นวันนี้ เราต้องตรวจสอบอาคาร ว่าพร้อมที่จะใช้งานงาน พร้อมอำนวยความสะดวกและปลอดภัย 100% หรือไม่ จึงได้นัดหมายมาที่รัฐสภา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่ฝ่ายอาคารสถานที่ มาร่วมกันตรวจสอบอาคาร ซึ่งเราได้ตรวจสอบเรื่องโครงสร้าง โดยนายนพดล มีเพื่อนพี่น้องในวงการวิศวกรมากมาย จึงมีวิศวกรและประสานทีมวิศวกรจากกรมโยธาธิการมาช่วยกันตรวจสอบอย่างละเอียดที่สุโดยได้ตรวจสอบโครงสร้างอาคารก่อน จนมั่นใจว่าโครงสร้างไม่ได้รับความเสียหายสามารถใช้งานได้ดี พร้อมทั้งได้ตรวจสอบสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆได้แก่ลิฟท์ เครื่องมือสื่อสารเครื่องเตือนภัย เครื่องมือเครื่องใช้ในการรักษาความปลอดภัยอะไรที่ขาดเช่น เสื้อหมวกต้องไปซื้อมาด่วน จะตรวจสอบทางหนีไฟ ไฟส่องทาง เมื่อเกิดไฟดับอะไรจะเกิดขึ้น จะตรวจสอบว่า ตรงไหนจะสว่างเพื่อจะได้รู้ว่าขาดอะไร จากนั้นพรุ่งนี้เลขาธิการวุฒิสภาจะนัดประชุมเพื่อให้จะมีการซักซ้อมในส่วนของผู้มีหน้าที่รักษาความปลอดภัย และผู้เกี่ยวข้อง และวันจันทร์ที่ 31มี.ค. เราจะเข้าประจำจุดต่างๆโดยเฉพาะจุดรวมพล ที่เตรียมพร้อมไว้และทำความเข้าใจกับข้าราชการวุฒิสภา ว่าเมื่อเกิดใครหรือสัญญาณเตือนภัยขึ้นมา ทุกคนจะทำหน้าที่ของตนเองและผู้รับผิดชอบ รายการรักษาความปลอดภัยจะนำทุกคนออกนอกพื้นที่ อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ให้ปลอดภัย พร้อม เรื่องของการจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกอาหาร เพื่อให้ทุกคนกลับบ้านของตัวเองอย่างปลอดภัย
เมื่อถามว่าหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงจะต้องอพยพคนในอาคารรัฐสภาจำนวน เท่าใดประธานวุฒิสภากล่าวว่า ประมาณ 4,000เกือบ5,000 คน มีกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพอเพียงสำหรับรับมือ ภัยพิบัติได้ ส่วนจะซ้อมร่วมกับฝั่งของสส. หรือไม่ประธานวุฒิสภากล่าวว่าในชั้นนี้เราจะซ้อมกันเองก่อน ว่าใครจะทำอะไรที่ไหนเมื่อไหร่อย่างไร จะนำคนไปไว้ที่จุดไหนหากเกิดเหตุการณ์ และจะคุยกันอีกทีเป็นการภายใน ซึ่งเลขาของทั้ง 2 สภาคือผู้บัญชาการเหตุการณ์
นายมงคล ยืนยันอีกครั้งว่า อาคารรัฐสภาปลอดภัย และหากเกิดเหตุการณ์ ก็พร้อมที่จะอพยพคนออกจากอาคาร
นายนพดล กล่าวว่า จากการที่ทีมวิศวกร6คน ตรวจสอบโครงสร้างในเบื้องต้น ตั้งแต่ชั้นใต้ดิน B2 B1 ขึ้นมาเรื่อยๆปรากฏว่าในเบื้องต้น ยังไม่พบรอยร้าวที่จะนำไปสู่โครงสร้างเสียหาย โดยส่วนใหญ่ทางวิศวกรรมเสาและคาน เป็นเรื่องสำคัญ นอกจากนี้ยังได้ตรวจสะพานเชื่อมระหว่างอาคารต่างๆ ซึ่งก็มีความสำคัญและพบว่ายังไม่มีอะไร ที่เป็นสิ่งบ่งชี้ว่าวิกฤต หรืออันตรายดังนั้นในเบื้องต้น โครงสร้างทั้งหมดยังอยู่ในขั้นที่ปลอดภัย มีรอยร้าวบางอย่างที่อาจต้องไปปรับแต่งเล็กน้อย ซึ่งอาจจะเป็นรอยร้าวที่เกิดขึ้นก่อนแผ่นดินไหว ดังนั้นในเบื้องต้นมีความมั่นใจพอสมควรที่จะใช้อาคารแห่งนี้ในการประชุมต่อไป คงจะไม่หวั่นวิตกมากนัก เพราะได้มีการตรวจเกือบทุกจุด โดยเฉพาะในส่วนของโรงพิมพ์ที่ตรวจด้วยเนื่องจากมีอุปกรณ์หนักหลายตันวางอยู่แม้จะมีรอยร้าวแต่ไม่น่าจะมีภัยพิบัติรุนแรงมากเกินไป
นายปณิธิ กล่าวว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบ ส่วนใหญ่ความเสียหายที่เกิดขึ้นคือส่วนงานสถาปัตยกรรม ไม่ใช่ส่วนของโครงสร้าง ซึ่งสามารถปรับปรุงแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว ไม่น่าจะก่อให้เกิดอันตรายอาจจะมีแค่บางส่วน ที่อาจจะเกิดจากเหตุแผ่นดินไหว เช่นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ชั้นใต้ดิน ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ต้องมีการกัั้นพื้นที่ เพราะอาจจะมีเศษวัสดุตกลงมา แต่ไม่มีการร้าวถึงโครงสร้าง ค่อนข้างมั่นใจในระดับหนึ่งว่าโครงสร้างของอาคารไม่ได้รับความเสียหายหลังจากเดินดูเกือบทุกจุด ได้ไปดูจุดที่วิกฤตได้ไปดูทุกจุดไม่พบรอยร้าว ไม่มีพิ้นที่ไหนไม่น่าวิตกกังวลภาพรวมอาคารนี้ยังอยู่ในสภาพที่ดี ใช้ได้อย่างมีความปลอดภัย
ส่วนเรื่องของการเตือนภัยสามารถใช้สัญญาณ เตือนภัยของไฟไหม้ได้ เพราะจุดประสงค์ต้องการอพยพคนออกนอกอาคาร.-319.-สำนักข่าวไทย