“มงคล” นำทีมวิศวกร​ ตรวจโครงสร้างอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 29 มี.ค.-“มงคล” ตื่น​ นำทีมวิศวกร​ ตรวจโครงสร้างอาคารรัฐสภา พบเบื้องต้นมั่นใจโครงสร้างปลอดภัยไร้รอยร้าว​ เดินหน้าประชุม​ สว.​ 31 มี.ค.นี้​ ได้​ พร้อมเตรียมซ้อมแผนอพยพภัยพิบัติ พรุ่งนี้​ รองรับขน 5,000 คนออกนอกพื้นที่

นายมงคล​ สุระสัจจะ​ ประธานวุฒิสภา​ พร้อมด้วย ​สว. จำนวนหนึ่งอาทิ​ นายนพดล อินนา สว.​และอดีตรองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายปณิธิ พรหมสาขา ณ สกลนคร ตัวแทนจากวิศวกรรมสถาน​ ตัวแทนจากกรมโยธาธิการ และนางปัณณิตา สท้านไตรภพ เลขาธิการวุฒิสภา ร่วมตรวจสอบอาคารรัฐสภาฝั่งวุฒิสภา ภายหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวเพื่อ สร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยก่อนที่จะมีการประชุมวุฒิสภาในวันจันทร์ที่ 31 มีนาคมนี้


นายมงคล​ กล่าวว่า เนื่องจากเหตุภัยแผ่นดินไหว วุฒิสภา ไม่ได้นิ่งนอนใจ​ ตนได้คุยกับเลขาธิการวุฒิสภาและสมาชิกวุฒิสภาหลายท่าน แล้วว่าสิ่งแรกที่ต้องทำคือความรับผิดชอบต่อชีวิตและทรัพย์สินของข้าราชการรัฐสภา​ และ สว.​ ทุกคน​ ซึ่งวันจันทร์ที่ 31 มี.ค.​ จะมีการประชุมวุฒิสภาดังนั้นวันนี้ เราต้องตรวจสอบอาคาร ว่าพร้อมที่จะใช้งานงาน​ พร้อมอำนวยความสะดวกและปลอดภัย 100% หรือไม่​ จึงได้นัดหมายมาที่รัฐสภา​ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่ฝ่ายอาคารสถานที่ มาร่วมกันตรวจสอบอาคาร​ ซึ่งเราได้ตรวจสอบเรื่องโครงสร้าง​ โดยนายนพดล​ มีเพื่อนพี่น้องในวงการวิศวกรมากมาย​ จึงมีวิศวกรและประสานทีมวิศวกรจากกรมโยธาธิการมาช่วยกันตรวจสอบอย่างละเอียดที่สุโดยได้ตรวจสอบโครงสร้างอาคารก่อน จนมั่นใจว่าโครงสร้างไม่ได้รับความเสียหายสามารถใช้งานได้ดี​ พร้อมทั้งได้ตรวจสอบสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆได้แก่ลิฟท์ เครื่องมือสื่อสารเครื่องเตือนภัย เครื่องมือเครื่องใช้ในการรักษาความปลอดภัย​อะไรที่ขาดเช่น​ เสื้อ​หมวกต้องไปซื้อมาด่วน​ จะตรวจสอบทางหนีไฟ​ ไฟส่องทาง เมื่อเกิดไฟดับอะไรจะเกิดขึ้น จะตรวจสอบว่า ตรงไหนจะสว่างเพื่อจะได้รู้ว่าขาดอะไร​ จากนั้น​พรุ่งนี้เลขาธิการวุฒิสภาจะนัดประชุมเพื่อให้จะมีการซักซ้อมในส่วนของผู้มีหน้าที่รักษาความปลอดภัย​ และผู้เกี่ยวข้อง​ และวันจันทร์ที่ 31มี.ค. เราจะเข้าประจำจุดต่างๆโดยเฉพาะจุดรวมพล​ ที่เตรียมพร้อมไว้และทำความเข้าใจกับข้าราชการวุฒิสภา​ ว่าเมื่อเกิดใครหรือสัญญาณเตือนภัยขึ้นมา ทุกคนจะทำหน้าที่ของตนเองและผู้รับผิดชอบ รายการรักษาความปลอดภัยจะนำทุกคนออกนอกพื้นที่ อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ให้ปลอดภัย​ พร้อม เรื่องของการจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกอาหาร เพื่อให้ทุกคนกลับบ้านของตัวเองอย่างปลอดภัย

เมื่อถามว่าหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงจะต้องอพยพคนในอาคารรัฐสภาจำนวน เท่าใดประธานวุฒิสภากล่าวว่า​ ประมาณ 4,000เกือบ5,000​ คน​ มีกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพอเพียงสำหรับรับมือ ภัยพิบัติได้ ส่วนจะซ้อมร่วมกับฝั่งของสส. หรือไม่ประธานวุฒิสภากล่าวว่าในชั้นนี้เราจะซ้อมกันเองก่อน​ ว่าใครจะทำอะไรที่ไหนเมื่อไหร่อย่างไร จะนำคนไปไว้ที่จุดไหนหากเกิดเหตุการณ์ และจะคุยกันอีกทีเป็นการภายใน ซึ่งเลขาของทั้ง 2 สภาคือผู้บัญชาการเหตุการณ์​


นายมงคล​ ยืนยันอีกครั้งว่า อาคารรัฐสภาปลอดภัย​ และหากเกิดเหตุการณ์ ก็พร้อมที่จะอพยพคนออกจากอาคาร

นายนพดล​ กล่าวว่า​ จากการที่ทีมวิศวกร6คน​ ตรวจสอบโครงสร้างในเบื้องต้น ตั้งแต่ชั้นใต้ดิน B2 B1 ขึ้นมาเรื่อยๆปรากฏว่าในเบื้องต้น ยังไม่พบรอยร้าวที่จะนำไปสู่โครงสร้างเสียหาย​ โดยส่วนใหญ่ทางวิศวกรรมเสาและคาน​ เป็นเรื่องสำคัญ​ นอกจากนี้ยังได้ตรวจสะพานเชื่อมระหว่างอาคารต่างๆ ซึ่งก็มีความสำคัญและพบว่ายังไม่มีอะไร ที่เป็นสิ่งบ่งชี้ว่าวิกฤต หรืออันตรายดังนั้นในเบื้องต้น โครงสร้างทั้งหมดยังอยู่ในขั้นที่ปลอดภัย มีรอยร้าวบางอย่างที่อาจต้องไปปรับแต่งเล็กน้อย​ ซึ่งอาจจะเป็นรอยร้าวที่เกิดขึ้นก่อนแผ่นดินไหว ดังนั้นในเบื้องต้นมีความมั่นใจพอสมควรที่จะใช้อาคารแห่งนี้ในการประชุมต่อไป​ คงจะไม่หวั่นวิตกมากนัก​ เพราะได้มีการตรวจเกือบทุกจุด​ โดยเฉพาะในส่วนของโรงพิมพ์ที่ตรวจด้วย​เนื่องจากมีอุปกรณ์​หนักหลายตันวางอยู่​แม้จะมีรอยร้าว​แต่ไม่น่าจะมีภัยพิบัติรุนแรงมากเกินไป

นายปณิธิ กล่าวว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบ ส่วนใหญ่ความเสียหายที่เกิดขึ้นคือส่วนงานสถาปัตยกรรม ไม่ใช่ส่วนของโครงสร้าง ซึ่งสามารถปรับปรุงแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว ไม่น่าจะก่อให้เกิดอันตรายอาจจะมีแค่บางส่วน ที่อาจจะเกิดจากเหตุแผ่นดินไหว เช่นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ชั้นใต้ดิน ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ต้องมีการกัั้นพื้นที่ เพราะอาจจะมีเศษวัสดุตกลงมา แต่ไม่มีการร้าวถึงโครงสร้าง ค่อนข้างมั่นใจในระดับหนึ่งว่าโครงสร้างของอาคารไม่ได้รับความเสียหายหลังจากเดินดูเกือบทุกจุด ได้ไปดูจุดที่วิกฤตได้ไปดูทุกจุดไม่พบรอยร้าว ไม่มีพิ้นที่ไหนไม่น่าวิตกกังวลภาพรวมอาคารนี้ยังอยู่ในสภาพที่ดี ใช้ได้อย่างมีความปลอดภัย​


ส่วนเรื่องของการเตือนภัยสามารถใช้สัญญาณ เตือนภัยของไฟไหม้ได้ เพราะจุดประสงค์ต้องการอพยพคนออกนอกอาคาร.-319​.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ชวนชมดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาลเชิญชวนชมความงดงามของดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี (วันแม่แห่งชาติ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมใจกัน ติดตั้งไฟประดับทั้ง 2 ข้างทาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามของดวงไฟประดับ เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับจำนวนกว่า 2 ล้านดวง เพื่อประดับในสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระบรมมหาราชวัง บริเวณท้องสนามหลวง รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ทำเนียบองคมนตรี กระทรวงมหาดไทย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่วันนี้ – […]