“มงคล” นำทีมวิศวกร​ ตรวจโครงสร้างอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 29 มี.ค.-“มงคล” ตื่น​ นำทีมวิศวกร​ ตรวจโครงสร้างอาคารรัฐสภา พบเบื้องต้นมั่นใจโครงสร้างปลอดภัยไร้รอยร้าว​ เดินหน้าประชุม​ สว.​ 31 มี.ค.นี้​ ได้​ พร้อมเตรียมซ้อมแผนอพยพภัยพิบัติ พรุ่งนี้​ รองรับขน 5,000 คนออกนอกพื้นที่

นายมงคล​ สุระสัจจะ​ ประธานวุฒิสภา​ พร้อมด้วย ​สว. จำนวนหนึ่งอาทิ​ นายนพดล อินนา สว.​และอดีตรองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายปณิธิ พรหมสาขา ณ สกลนคร ตัวแทนจากวิศวกรรมสถาน​ ตัวแทนจากกรมโยธาธิการ และนางปัณณิตา สท้านไตรภพ เลขาธิการวุฒิสภา ร่วมตรวจสอบอาคารรัฐสภาฝั่งวุฒิสภา ภายหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวเพื่อ สร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยก่อนที่จะมีการประชุมวุฒิสภาในวันจันทร์ที่ 31 มีนาคมนี้


นายมงคล​ กล่าวว่า เนื่องจากเหตุภัยแผ่นดินไหว วุฒิสภา ไม่ได้นิ่งนอนใจ​ ตนได้คุยกับเลขาธิการวุฒิสภาและสมาชิกวุฒิสภาหลายท่าน แล้วว่าสิ่งแรกที่ต้องทำคือความรับผิดชอบต่อชีวิตและทรัพย์สินของข้าราชการรัฐสภา​ และ สว.​ ทุกคน​ ซึ่งวันจันทร์ที่ 31 มี.ค.​ จะมีการประชุมวุฒิสภาดังนั้นวันนี้ เราต้องตรวจสอบอาคาร ว่าพร้อมที่จะใช้งานงาน​ พร้อมอำนวยความสะดวกและปลอดภัย 100% หรือไม่​ จึงได้นัดหมายมาที่รัฐสภา​ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่ฝ่ายอาคารสถานที่ มาร่วมกันตรวจสอบอาคาร​ ซึ่งเราได้ตรวจสอบเรื่องโครงสร้าง​ โดยนายนพดล​ มีเพื่อนพี่น้องในวงการวิศวกรมากมาย​ จึงมีวิศวกรและประสานทีมวิศวกรจากกรมโยธาธิการมาช่วยกันตรวจสอบอย่างละเอียดที่สุโดยได้ตรวจสอบโครงสร้างอาคารก่อน จนมั่นใจว่าโครงสร้างไม่ได้รับความเสียหายสามารถใช้งานได้ดี​ พร้อมทั้งได้ตรวจสอบสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆได้แก่ลิฟท์ เครื่องมือสื่อสารเครื่องเตือนภัย เครื่องมือเครื่องใช้ในการรักษาความปลอดภัย​อะไรที่ขาดเช่น​ เสื้อ​หมวกต้องไปซื้อมาด่วน​ จะตรวจสอบทางหนีไฟ​ ไฟส่องทาง เมื่อเกิดไฟดับอะไรจะเกิดขึ้น จะตรวจสอบว่า ตรงไหนจะสว่างเพื่อจะได้รู้ว่าขาดอะไร​ จากนั้น​พรุ่งนี้เลขาธิการวุฒิสภาจะนัดประชุมเพื่อให้จะมีการซักซ้อมในส่วนของผู้มีหน้าที่รักษาความปลอดภัย​ และผู้เกี่ยวข้อง​ และวันจันทร์ที่ 31มี.ค. เราจะเข้าประจำจุดต่างๆโดยเฉพาะจุดรวมพล​ ที่เตรียมพร้อมไว้และทำความเข้าใจกับข้าราชการวุฒิสภา​ ว่าเมื่อเกิดใครหรือสัญญาณเตือนภัยขึ้นมา ทุกคนจะทำหน้าที่ของตนเองและผู้รับผิดชอบ รายการรักษาความปลอดภัยจะนำทุกคนออกนอกพื้นที่ อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ให้ปลอดภัย​ พร้อม เรื่องของการจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกอาหาร เพื่อให้ทุกคนกลับบ้านของตัวเองอย่างปลอดภัย

เมื่อถามว่าหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงจะต้องอพยพคนในอาคารรัฐสภาจำนวน เท่าใดประธานวุฒิสภากล่าวว่า​ ประมาณ 4,000เกือบ5,000​ คน​ มีกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพอเพียงสำหรับรับมือ ภัยพิบัติได้ ส่วนจะซ้อมร่วมกับฝั่งของสส. หรือไม่ประธานวุฒิสภากล่าวว่าในชั้นนี้เราจะซ้อมกันเองก่อน​ ว่าใครจะทำอะไรที่ไหนเมื่อไหร่อย่างไร จะนำคนไปไว้ที่จุดไหนหากเกิดเหตุการณ์ และจะคุยกันอีกทีเป็นการภายใน ซึ่งเลขาของทั้ง 2 สภาคือผู้บัญชาการเหตุการณ์​


นายมงคล​ ยืนยันอีกครั้งว่า อาคารรัฐสภาปลอดภัย​ และหากเกิดเหตุการณ์ ก็พร้อมที่จะอพยพคนออกจากอาคาร

นายนพดล​ กล่าวว่า​ จากการที่ทีมวิศวกร6คน​ ตรวจสอบโครงสร้างในเบื้องต้น ตั้งแต่ชั้นใต้ดิน B2 B1 ขึ้นมาเรื่อยๆปรากฏว่าในเบื้องต้น ยังไม่พบรอยร้าวที่จะนำไปสู่โครงสร้างเสียหาย​ โดยส่วนใหญ่ทางวิศวกรรมเสาและคาน​ เป็นเรื่องสำคัญ​ นอกจากนี้ยังได้ตรวจสะพานเชื่อมระหว่างอาคารต่างๆ ซึ่งก็มีความสำคัญและพบว่ายังไม่มีอะไร ที่เป็นสิ่งบ่งชี้ว่าวิกฤต หรืออันตรายดังนั้นในเบื้องต้น โครงสร้างทั้งหมดยังอยู่ในขั้นที่ปลอดภัย มีรอยร้าวบางอย่างที่อาจต้องไปปรับแต่งเล็กน้อย​ ซึ่งอาจจะเป็นรอยร้าวที่เกิดขึ้นก่อนแผ่นดินไหว ดังนั้นในเบื้องต้นมีความมั่นใจพอสมควรที่จะใช้อาคารแห่งนี้ในการประชุมต่อไป​ คงจะไม่หวั่นวิตกมากนัก​ เพราะได้มีการตรวจเกือบทุกจุด​ โดยเฉพาะในส่วนของโรงพิมพ์ที่ตรวจด้วย​เนื่องจากมีอุปกรณ์​หนักหลายตันวางอยู่​แม้จะมีรอยร้าว​แต่ไม่น่าจะมีภัยพิบัติรุนแรงมากเกินไป

นายปณิธิ กล่าวว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบ ส่วนใหญ่ความเสียหายที่เกิดขึ้นคือส่วนงานสถาปัตยกรรม ไม่ใช่ส่วนของโครงสร้าง ซึ่งสามารถปรับปรุงแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว ไม่น่าจะก่อให้เกิดอันตรายอาจจะมีแค่บางส่วน ที่อาจจะเกิดจากเหตุแผ่นดินไหว เช่นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ชั้นใต้ดิน ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ต้องมีการกัั้นพื้นที่ เพราะอาจจะมีเศษวัสดุตกลงมา แต่ไม่มีการร้าวถึงโครงสร้าง ค่อนข้างมั่นใจในระดับหนึ่งว่าโครงสร้างของอาคารไม่ได้รับความเสียหายหลังจากเดินดูเกือบทุกจุด ได้ไปดูจุดที่วิกฤตได้ไปดูทุกจุดไม่พบรอยร้าว ไม่มีพิ้นที่ไหนไม่น่าวิตกกังวลภาพรวมอาคารนี้ยังอยู่ในสภาพที่ดี ใช้ได้อย่างมีความปลอดภัย​


ส่วนเรื่องของการเตือนภัยสามารถใช้สัญญาณ เตือนภัยของไฟไหม้ได้ เพราะจุดประสงค์ต้องการอพยพคนออกนอกอาคาร.-319​.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” โพสต์พรรคร่วมฯ มีมติหนุนรัฐบาล ร่วมสร้างเสถียรภาพการเมือง

โรงแรมโรสวูด 22 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์พรรคร่วมรัฐบาลมีมติหนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ชี้ ความเป็นหนึ่งเดียว ช่วยก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหว เดินหน้ารับมือภัยคุกคามและความมั่นคง ภายหลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญพรรคร่วมรัฐบาล หารือ ปรับคณะรัฐมนตรี แทนตำแหน่งที่ว่าง 8 ตำแหน่ง หลังภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. รถบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและเลขาธิการพรรคได้เดินทางออกจากโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีได้ ยังอยู่ภายในโรงแรม ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี จะโพสต์ภาพถ่ายผ่านโซเชียลร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมระบุข้อความว่า “ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

จับตานายกฯ นัดคุยหัวหน้าพรรคร่วม ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – จับตานายกฯ เชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่หารือเป็นการภายใน คาดจะมีการพูดคุยเกลี่ยโควตาเพิ่มให้กับพรรคร่วมรัฐบาลตามความเหมาะสม ความเคลื่อนไหวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายงานว่า วันนี้ (22 มิ.ย.68) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่หารือเป็นการภายใน ภายหลังพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่างลง 8 ตำแหน่ง คาดว่าจะมีการพูดคุยเกลี่ยโควตาเพิ่มให้กับพรรคร่วมรัฐบาลตามความเหมาะสม โดยเมื่อเวลา 12.26 น. รถยนต์ของนายกรัฐมนตรีได้เลี้ยวเข้าโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ.-316-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” สั่งปิดด่าน 2 แห่ง ตอบโต้ไทยปิดด่านช่องสายตะกู

22 มิ.ย.- “ฮุน มาเนต” นายกฯ กัมพูชา ออกคำสั่งปิดด่าน 2 แห่ง ตอบโต้ทางการไทยปิดด่าน “ช่องสายตะกู” เมื่อเวลา 07.00 น. “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โพสต์หนังสือคำสั่ง โดยระบุว่า ให้ปิดด่านบ้านจุ๊บโกกี อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย จนกว่าไทยจะเปิดด่านช่องสายตะกู พร้อมระบุว่า เมื่อคืนวานนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา ได้รับแจ้งจากกองทัพภาคที่ 2 ของไทย ว่า จะมีการปิดด่านชายแดนช่องสายตะกูอย่างไม่มีกำหนด นอกจากนี้ ผู้นำกัมพูชา ยังได้อนุมัติให้ปิดด่านช่องจวม อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย และจะแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ของไทย รับทราบ สำหรับคำสั่งปิด 2 ด่านดังกล่าว เป็นจุดที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด่านช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และด่านช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ -สำนักข่าวไทย