กรุงเทพฯ 30 เม.ย.-ธปท.เตรียมหั่นเป้าเศรษฐกิจไทยปีนี้ จากเดิมคาดโต 3% หลังการแพร่ระบาดโควิดระลอก 3
นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การระบาดโควิดระลอก 3 ส่งผลกระทบเศรษฐกิจไทย โดยธปท. เตรียมปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ใหม่ จากเดิมที่คาดว่าเติบโต 3% ซึ่งเบื้องต้นอาจมีการประเมินในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในวันที่ 5 พ.ค.นี้
ด้านเศรษฐกิจไทยในเดือนมีนาคม 2564 ทยอยปรับดีขึ้น หลังการแพร่ระบาดรอบสองของ COVID-19 คลี่คลายลง โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนฟื้นตัวต่อเนื่อง ตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้น ประกอบกับแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐที่มีต่อเนื่องทำให้การใช้จ่ายปรับดีขึ้นในทุกหมวด และผลของฐานต่ำในระยะเดียวกันปีก่อนจากการแพร่ระบาดฯ รอบแรก
ขณะเดียวกันการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำขยายตัวสูงขึ้น มูลค่าการส่งออกจะขยายตัวร้อยละ 22.1 โดยเป็นการขยายตัวที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อน จาก อุปสงค์ประเทศคู่ค้าที่ฟื้นตัวทำให้การส่งออกปรับดีขึ้นในหลายหมวด ประกอบกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นทำให้การส่งออกสินค้าที่มีมูลค่าเคลื่อนไหวตามราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น และฐานที่ต่ำในระยะเดียวกันปีก่อนจากการแพร่ระบาดฯ รอบแรก นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยังขยายตัวดีแม้ชะลอลงบ้าง จากผลดีของวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์โลกที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ทั้งนี้ อุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ฟื้นตัวทำให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับดีขึ้นสอดคล้องกัน
ทั้งนี้ การฟื้นตัวของอุปสงค์ประเทศคู่ค้า ส่งผลให้เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวได้ต่อเนื่องจากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการลงทุนหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ขยายตัวดีสอดคล้องกับทิศทางการส่งออก อย่างไรก็ดี การลงทุนหมวดก่อสร้างหดตัวต่อเนื่อง สะท้อนกิจกรรมในภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคก่อสร้างที่ยังอ่อนแอ
ด้านมูลค่าการนำเข้าสินค้าขยายตัวร้อยละ 15.1 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเป็นการขยายตัวสูงต่อเนื่องในเกือบทุกหมวดสำคัญตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และผลของฐานต่ำในระยะเดียวกันปีก่อน
อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนจากทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน โดยเป็นผลจากฐานสูงในระยะเดียวกันปีก่อนที่มีการเร่งเบิกจ่ายภายหลัง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2563 ประกาศใช้ อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายภาครัฐฯ ยังอยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง
ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังหดตัวสูงจากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศที่ยังมีอยู่ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าไทยยังมีไม่มาก ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงตามราคาพลังงานที่ปรับสูงขึ้นเป็นสำคัญ ด้านตลาดแรงงานยังเปราะบาง สะท้อนจากสัดส่วนผู้ขอรับสิทธิว่างงานใหม่ในระบบประกันสังคมต่อผู้ประกันตนทั้งหมดที่ยังอยู่ในระดับสูง สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลเล็กน้อยจากดุลบริการ รายได้ และเงินโอน ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนบาทต่อดอลลาร์ สรอ. อ่อนค่าลงกว่าสกุลเงินคู่ค้าคู่แข่งส่วนใหญ่
สำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2564 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดรอบสองของ COVID-19 ทำให้เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนปรับแย่ลง โดยมาตรการกระตุ้นและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบของภาครัฐช่วยพยุงกำลังซื้อได้ในระดับหนึ่ง ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังหดตัวสูงจากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศที่ยังมีอยู่ อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำกลับมาขยายตัวดีในหลายหมวดสินค้า ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมและเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนปรับดีขึ้น สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนทรงตัว ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบมากขึ้นจากราคาอาหารสดที่ลดลง และผลของมาตรการลดค่าไฟฟ้าและน้ำประปาเพื่อบรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชน ด้านตลาดแรงงานยังเปราะบาง สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลมากกว่าไตรมาสก่อน จากดุลการค้าที่เกินดุลลดลงตามการนำเข้าทองคำเป็นสำคัญ ด้านอัตราแลกเปลี่ยนบาทต่อดอลลาร์ สรอ. โดยเฉลี่ยปรับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนจากเงินดอลลาร์ สรอ. ที่อ่อนค่าลง อย่างไรก็ดี การแข็งค่าของเงินบาทสอดคล้องกับเงินสกุลคู่ค้าคู่แข่ง จึงทำให้ดัชนีค่าเงินบาท (NEER) ทรงตัว . – สำนักข่าวไทย