กรุงเทพฯ 7 เม.ย.-ประธานหอการค้าไทยหอการค้าไทยเผยเอกชนพบผู้ว่า กทม หาทางช่วยสร้างตระหนักคนกรุงต้องดูแลไม่ให้เกิดโควิดระบาดซ้ำซาก หวั่นฉุดเศรษฐกิจ เชื่อทุกฝ่ายดูแลดีเอาโควิดอยู่ได้แน่ เอกชนพร้อมช่วยเต็มที
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ในช่วงเช้าวันนี้ ตนพร้อมด้วยตัวแทนภาคเอกชนจะไปขอพบพลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเพื่อจะได้สอบถามและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อกรณีการแพร่ระบาดโควิด-19 แบบซ้ำซากและตรวจพบปัญหาเดิมๆเกี่ยวกับในด้านพฤติกรรมของคนกรุงเทพมหานครต่อกรณีการพบเชื้อโควิดตามสถานที่แหล่งบันเทิงในเขตกรุงเทพ โดยล่าสุดยังเป็นการแพร่เชื้อโควิดในรอบที่ 3 ก็ยังเป็นสถานทีเดิม ดังนั้น หากยังปล่อยให้เกิดขึ้นอีกจะเป็นปัญหากระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศได้
อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนพร้อมที่จะช่วยเหลือภาครัฐในด้านต่างๆเพื่อร่วมกันป้องกันแก้ไขปัญหาเพราะเชื่อว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงจัง โดนเฉพาะคนกรุงเทพที่ชอบเที่ยวในสถานแหล่งบันเทิงดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดโควิดได้ก็เชื่อว่าสถานการแพร่ระบาดโควิดของประเทศจะกลับมาดีขึ้นได้แน่นอน แต่หากจะปล่อยและไม่ดูแลเช่นนี้ก็คิดว่าการแพร่ระบาดโควิดจะเกิดขึ้นและรุ่นแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้และปีหน้าได้
ทั้งนี้ ภาคเอกชนเห็นว่าจากมาตรการดูแลและป้องการการแพร่เชื้อโควิดที่ใช้อยู่สามารถป้องกันการแพร่เชื่อได้ แต่คนส่วนใหญ่เห็นว่าจำนวนคนติดเชื้อในแต่ละวันน้อย จึงไม่ค่อยดูแลและป้องกันตนเองเท่าที่ควร ทำให้การระบาดโควิดจึงกลับมาได้อีกและหากยังเป็นเช่นนี้จะทำให้การแพร่เชื้อโควิดไทยจะไม่ประสบผลสำเร็จ ดังนั้น จึงเห็นว่าทุกฝ่ายจะต้องให้ความสำคัญป้องกันให้มากยิ่งขึ้น และภาคเอกชนยินดีที่จะสนับสนุนหรือช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้คนไทยหันมาตระหนักดูแลช่วยเหลือกันป้องกันแพร่ระบาดโควิดให้มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้หอการค้าไทยห่วงใยและติดตามการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ของภาครัฐมาอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดประชุมระดมสมองหารือกับผู้ประกอบการขนาดใหญ่ในเครือข่ายกว่า 50 บริษัท พร้อมผนึกกำลังของภาคเอกชน เตรียมแผนรองรับการกระจายวัคซีนล็อตใหญ่ ที่จะพร้อมฉีดให้แก่ประชาชนในเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มเสี่ยงในช่วงแรกนั้น ยังถือว่าล่าช้า ดังนั้น การบริหารจัดการในเรื่องดังกล่าวให้กับประชาชนจำนวนมากในระยะต่อไป จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญ เพื่อให้อนาคตการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างเต็มท่
ทั้งนี้ หอการค้าไทยจะเข้ามาเป็นจุดเชื่อมต่อภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ตามนโยบาย Connect the Dots ที่ได้ประกาศไว้ พร้อมได้ติดตามการดำเนินงานในเรื่องวัคซีนอย่างใกล้ชิด ทั้งในเรื่องการจัดหาวัคซีน การกระจายไปสู่ประชาชน รวมถึงการสื่อสารทำความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยประเด็นเรื่องจำนวนการสั่งซื้อ เชื่อว่าภาครัฐจะสามารถจัดหาได้อย่างเพียงพอ หากมีข้อจำกัดในเรื่องสถานที่ ระยะเวลา และบุคลากรสำหรับการฉีด ซึ่งสถานพยาบาลของรัฐอาจรองรับได้ไม่เพียงพอ ภาคเอกชนยินดีจัดสรรพื้นที่ หรือจัดหาอดีตพยาบาลที่ยังสามารถปฏิบัติงานได้ เพื่อให้การรับบริการของประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงประเด็นการขนส่งวัคซีนซึ่งต้องมีการควบคุมอุณหภูมิ ภาคเอกชนก็ยินดีสนับสนุน โดยอาจประยุกต์ใช้รถขนส่งสินค้าห้องเย็นมาช่วยในการจัดส่ง
นอกจากนี้ ปัญหาที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ความกังวลใจของประชาชนถึงผลกระทบหลังการฉีดวัคซีน เรื่องนี้ทุกฝ่ายต้องช่วยกันสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นในวงกว้าง เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งต้องพบปะคนจำนวนมากควรเป็นตัวอย่างให้เห็น ในขณะที่ภาคเอกชน ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทต่าง ๆ ก็ยินดีที่จะฉีด และช่วยกันสื่อสารทำความเข้าใจกับพนักงานของตน รวมพลังให้เกิดเป็นความเชื่อมั่น
อย่างไรก็ตาม หอการค้าไทยได้ขอความร่วมมือไปยังบริษัทต่าง ๆ ที่แจ้งความจำนงในการฉีดวัคซีนให้กับพนักงาน ได้สำรวจในเชิงลึกถึงจำนวนคนที่สมัครใจฉีด ใครที่ยังมีปัญหาติดขัด และสื่อสารสร้างความเข้าใจร่วมกัน รวมทั้งการสนับสนุนภาครัฐตามความเชี่ยวชาญของภาคเอกชนในด้านต่าง ๆ ทั้งนี้ หอการค้าไทยพร้อมจะนำข้อมูลทั้งหมดเข้าไปหารือกับภาครัฐ เพื่อเตรียมวางแผนรองรับการกระจายวัคซีนให้พร้อมภายในเดือนเมษายนนี้ และเชื่อมั่นว่า หากเอกชนร่วมมือกันอย่างเข้มแข็ง ก็จะสามารถเติมเต็มช่องว่างของการบริการจากภาครัฐได้ ยิ่งการฉีดวัคซีนทำได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากเท่าไหร่ เศรษฐกิจของประเทศไทยยิ่งจะฟื้นตัวกลับมาได้เร็ว.-สำนักข่าวไทย