นนทบุรี 29 มี.ค.-ประธาน สรท.ระบุเรือขวางคลองสุเอชเริ่มขยับแล้ว เชื่อเรือต่าง ๆ จะยังไม่เปลี่ยนเส้นทาง เนื่องจากเส้นทางใหม่ค่าใช้จ่ายสูงและใช้เวลานาน ขณะที่รัฐมนตรีพาณิชย์สั่งทูตพาณิชย์อียิปต์ติดตามสถานการณ์ ยอมรับยังไม่สามารถประเมินผลกระทบได้
น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.)ระบุว่า วันนี้มีข่าวดีเรื่องการกู้เรือ Ever Given เริ่มลอยตัวแต่ยังต้องพยายามเปิดทางให้เรือไปอยู่ด้านใดด้านหนึ่งเพื่อให้เรือลำอื่นผ่านไปได้ โดยประเมินว่าถ้าเรือสามารถเคลื่อนได้ภายใน 1-2 วันนี้ ทางสายเรืออาจพิจารณาไม่เปลี่ยนสายการเดินเรือไปลงทางเคปทาวน์ แหลมกู้ดโฮปของอาฟริกาใต้เนื่องจากใช้เวลานานถึง 14 วัน และค่าใช้จ่ายสูง
อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายมากและใช้เวลานานขึ้น แต่สิ่งที่ต้องพิจารณาคือหากการเดินเรือทำได้แล้วเรือกว่า 300 ลำที่จะต้องผ่านคลองจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ต้องดูการจราจรในคลองสุเอซอีกครั้ง สำหรับสินค้าในเรือ มีหลายสินค้ากลายรายการ เฉพาะ Ever Given มีกว่า 600 ตู้ ส่วนไทยมีสินค้าที่เข้าคิวจากเอเชียไปยุโรปหลายรายการ เช่น ยาง ชิ้นส่วนรถยนต์แต่ยังไม่ทราบจำนวน
สำหรับในภาพรวมตู้สินค้าที่ตกค้าง ขณะนี้มีประมาณ 800,000 ตู้ จากเรือกว่า 300 ลำ หากการเดินเรือทำได้ช้าอาจจะถึงล้านตู้ ส่วนค่าใช้จ่ายเชื่อว่าจะไม่โดนค่าปรับเพราะการส่งล่าช้าถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ที่อียิปต์ติดตามสถานการณ์เรือ Ever Given ขวางคลองสุเอซขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบได้ และสิ่งที่กระทบมากที่สุดคือการขนส่งน้ำมันเพราะจำนวนไม่น้อยต้องผ่านคลองสุเอซสิ่งที่น่ากังวลคือจะมีผลให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นและเป็นต้นทุนการผลิตสำหรับทุกประเทศในโลกรวมทั้งไทยและหากยังไม่สามารถเดินเรือผ่าาคลองสุเอซได้การส่งออกไทยระยะยาวจะได้รับผลกระทบจะต้องปรับเส้นทางใหม่
ทั้งนี้ จะทำให้เส้นทางเดินเรือยาวออกไปใช้เวลา 5-10 วันทำให้เวลายืดเยื้อต้นทุนเพิ่มขึ้น ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่ามีสินค้าไทยตกค้างเท่าไหร่จากจำนวนสินค้าที่ตกค้างทั้งหมด และสินค้าที่ตกค้างเชื่อว่าปลายทางเข้าใจเพราะเป็นสถานการณ์ที่สุดวิสัยซึ่งภาคเอกชนต้องประสานลูกค้าอยู่แล้วหากติดขัดพาณิชย์ช่วยเจรจา.-สำนักข่าวไทย