คลังจับมือสภาอุตฯ หนุนส่วนราชการใช้สินค้าไทย

สภาอุตสาหกรรม 17 มี.ค.- คลัง จับมือ สภาอุตฯ  หนุนส่วนราชการ จัดซื้อจัดจ้างใช้สินค้าไทยผลิตในประเทศ “Made in Thailand”     คาดเม็ดเงินหมุนเวียนเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านบาท หวังดึงสินค้าเข้าระบบจัดจ้างไม่ต่ำกว่าแสนรายการ


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เพื่อส่งเสริมและช่วยเหลือผู้ประกอบการในประเทศ  จึงร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในการผลักดันนโยบาย “Made in Thailand” เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน หันมาใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศมากขึ้น หลังจาก  ครม. อนุมัติกฎกระทรวง กำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563  เพื่อส่งเสริมให้หน่วยงานราชการใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศเพิ่มขึ้น  หลังจากมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 8  ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมาหวังช่วยให้ผู้ประกอบการและห่วงโซ่ SME เพราะแต่ละปียอดการซื้อจากภาครัฐผ่านงบประมาณ 1.77 ล้านล้านบาท นับว่า ช่วยยกระดับการแข่งขัน และเกิดเงินหมุนเวียนในธุรกิจ

นายสุริยะ  จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การผลักดันการรับรองเครื่องหมาย Made in Thailand  จากโครงการลงทุนภาครัฐ ทำให้เม็ดเงินกระจายสู่ภาคอุตสาหกรรมจำนวนมาก  ปัจจุบันโรงงาน  60,000 แห่ง  รวมทั้งกลุ่ม SME เครือข่าย และยังเชื่อมโยงกับแรงงานกว่า 5 ล้านคน  ทำให้ลดการพึ่งพานำเข้าสินค้าและหันมาพัฒนา จึงเชิญชวนผู้ประกอบการให้มาขึ้นทะเบียนขอการรับรอง Made in Thailand กับสภาอุตสหากรรมฯ  ร่วมผลักดัน สินค้า  Made in Thailand สู่การจัดซื้อจัดจ้าง ของหน่วยงานภาครัฐ


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)  กล่าวว่า โครงการ Made in Thailand ช่วยสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการชาวไทย เมื่อกำหนดใช้สินค้าในประเทศร้อยละ 60  นับว่าช่วยสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการไทยเพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านล้านบาท เกิดการหมุนเวียนภายในระบบเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านบาท  สภาอุตสาหกรรมฯ  ยังวางแผนการผลักดันสินค้าได้รับการรับรอง Made in Thailand  ไปสู่การจัดซื้อในห่วงโซ่การผลิตของภาคอุตสาหกรรม และผลักดันให้ผู้บริโภคหันมาสนใจและบริโภคสินค้า Made in Thailand มากขึ้นด้วย

 น.ส.นิภา ลำเจียกเทศ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง กรมบัญชีกลาง กล่าวว่า  สาระสำคัญของกฎกระทรวงการคลัง กำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ ผลิตในประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของพัสดุต้องการใช้   และในส่วนของงานก่อสร้างกำหนดให้ใช้เหล็กผลิตในประเทศก่อนเป็นอันดับแรก  โดยต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่า หรือปริมาณเหล็กหรือเหล็กกล้าที่ใช้ในงานก่อสร้างทั้งหมดในครั้งนั้น  หากหน่วยงานรัฐไม่สามารถใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศ ตามกำหนด จากปัญหาขาดแคลน หรือผู้ประกอบการไทยไม่สามารถผลิตได้ หรือเหตุผลอื่น ๆ หน่วยงานรัฐเจ้าของโครงการ ต้องได้รับการอนุมัติจากระดับนโยบาย  สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างในต่างจังหวัดให้เน้นใช้สินค้าในพื้นที่เป็นหลัก และยังเปิดให้เอสเอ็มอีไทยได้แต้มต่อในการประมูลงานแข่งกับต่างชาติที่ผลิตสินค้าในประเทศ หลังจากนี้ หลายหน่วยงานจะทะยอยออก TOR จัดซื้อจัดจ้าง จากข้อกำหนดใหม่

นางพิมพ์ใจ  ลี้อิสสระนุกูล ประธานสายงานมาตรฐานอุตสาหกรรม ส.อ.ท.  กล่าวว่า   ส.อ.ท. เตรียมความพร้อมการรับขึ้นทะเบียนสินค้า Made in Thailand (MiT)  โดยได้เริ่มเปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ระบบรับรองได้รับคำปรึกษาด้านการดูแลความลับของข้อมูลจากที่ปรึกษาระดับ Big 4 และ ส.อ.ท. ดูแลด้านนี้อย่างมีหลักการ ทั้งด้านระบบและด้านจรรยาบรรณเจ้าหน้าที่  โดยการรับรองสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย หรือ Made in Thailand  ใช้แนวทางการคำนวณมูลค่าตามหลักการ ASEAN Content โดยปรับให้ตรงวัตถุประสงค์ของการสนับสนุนสินค้าผลิตในประเทศ ซึ่งต้องมีสัดส่วนมูลค่าวัตถุดิบผลิตในประเทศอย่างน้อยร้อยละ 40


สำหรับกลุ่มสินค้า Made in Thailand ที่มีโอกาสเข้าสู่การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ อาทิ วัสดุครุภัณฑ์สำนักงาน, ครุภัณฑ์การศึกษา, จอมอนิเตอร์, เฟอร์นิเจอร์, ชุดยูนิฟอร์ม, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องปรับอากาศ, อุปกรณ์ไฟฟ้าและพลังงาน, วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในงานก่อสร้าง อาทิ เหล็ก, ปูนซีเมนต์  รวมถึงจะมุ่งประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลไปยังกลุ่มผู้ค้าส่ง ค้าปลีก (Trader) ที่เข้าร่วมยื่นเสนองานกับภาครัฐให้เข้าใจในกฎกระทรวงฉบับใหม่และการนำสินค้า Made in Thailand ไปเสนอต่อภาครัฐด้วย โดยสภาอุตสาหกรรมฯ  ตั้งเป้าปี 2564  มีผู้ยื่นขอการรับรอง Made in Thailand ไม่ต่ำกว่า 100,000 รายการสินค้า เป็นโอกาสสำคัญมากในการสร้างหรือเพิ่มยอดขายของผู้ประกอบการกับภาครัฐ ในครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รับชันสูตรศพ “ผกก.โจ้” ยาก เหตุศพไม่อยู่สภาพเดิม

ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับชันสูตรศพ ผกก.โจ้ ยาก เพราะศพไม่อยู่ในสภาพเดิม ยันดูวงจรปิดไม่พบพิรุธ ยังยิ้มแย้มทักทายผู้ต้องขัง ยกมือไหว้ผู้คุม แต่พบเลือดหยดข้างศพ และแขนซ้ายมีรอยกัดของสัตว์ขนาดเล็ก

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหารช่วยเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหาร พร้อมกำลังพลจิตอาสากองทัพบก เข้าช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และอพยพผู้ป่วย จากเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อน-ภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดในภาคเหนือ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อน และมีฝนฟ้าคะนอง 20%

ทลายเครือข่ายเบิกงบซ่อมรถทิพย์ ทุจริตงบ กทม.

คดีการจับกุม 7 เจ้าหน้าที่กองการกีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร ที่ร่วมกันทุจริตปลอมใบเสนอราคาเบิกเงินซ่อมรถบัส ในชั้นสอบสวนได้ให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัวไป ขณะที่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม หลังตำรวจออกมาเผยว่ามีความเกี่ยวข้องกับโครงการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายที่ถูกตรวจสอบไปก่อนหน้านี้

กระบะตัดหน้ารถไฟ ชนสนั่น ตาย 4 เจ็บ 6

กระบะขนคนงานจับกุ้งกุลาดำ ขับตัดหน้ารถไฟ ก่อนพุ่งชนสนั่น ตายคาที่ 4 ศพ เจ็บระนาวอีก 6 ราย ขณะที่คนขับไร้อาการบาดเจ็บ อ้างไม่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือน ตำรวจคุมตัวตรวจพบฉี่ม่วง เจ้าตัวยอมรับเสพยาบ้า ก่อนแจ้ง 2 ข้อหาหนัก

ผลตรวจดีเอ็นเอ “ผกก.โจ้” ออกแล้ว ส่งให้ สน.ประชาชื่น

ออกแล้ว ผลตรวจผ้าขนหนู คดี “ผกก.โจ้” ไม่พบดีเอ็นเอของบุคคลอื่น เตรียมส่งผลให้พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินการต่อ