รัฐขอภาคอุตสาหกรรมเร่งลงทุนช่วงบาทแข็ง

กรุงเทพฯ 27 ม.ค. – นายกฯ ขอให้สภาอุตฯ ขยายการสร้างประโยชน์ให้ทั่วประเทศ พร้อมใช้โอกาสที่เงินบาทแข็งค่า เร่งลงทุนปรับปรุงเครื่องจักรให้มีนวัตกรรมสมัยใหม่ ส่วนเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มจะดีขึ้นตามเศรษฐกิจโลก 


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในโอกาสเปิดสำนักงานใหญ่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ว่า ต้องการให้ภาคอุตสาหกรรมของไทย ขยายบทบาทสร้างในการประโยชน์แก่เศรษฐกิจไทยที่พื้นที่ขนาดกว่า 500,000 ตารางเมตรให้ได้ เนื่องจาก ส.อ.ท.และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นรัฐบาลจึงตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนเจรจาการค้าและการลงทุน เพื่อส่งเสริมการลงทุนเป็นการเฉพาะซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากหลายหน่วยงานที่จะสะท้อนความต้องการของภาคเอกชนในการเดินหน้าลงทุนได้ พร้อมทั้งต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชน ด้านการความไม่เท่าเทียมกันในการเข้าถึงทุนนั้น จะต้องได้รับการแก้ไขต่อไป เพราะแม้รัฐบาลจัดสรรเม็ดเงินลงไปก็ไม่เพียงพอ เนื่องจากมีผู้ต้องการจำนวนมาก โดยเกษตรกรมีจำนวนมากถึง 10 ล้านกว่าคน ผู้มีรายได้มีมากถึง 14.7 ล้านคน เป็นต้น ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมมีความสำคัญควบคู่กับการค้าต่อการพัฒนาประเทศ โดยมีสัดส่วนคิดสูงกว่าร้อยละ 30 ของจีดีพีประเทศ ดังนั้นจะต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชนด้วย เพราะขณะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน  

 ในปี 2563 การค้าโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างช้า ๆ ด้านมาตรการกีดกันทางการค้าเริ่มจะดีขึ้น จึงขอเป็นกำลังใจ เพราะมีผลกระทบกับทุกประเทศ อยากให้สถานการณ์ผ่อนคลายลงโดยเร็ว เพื่อให้ระบบการค้าโลกปรับตัวเข้าสู่เสถียรภาพมากยิ่งขึ้น เพื่ออำนวยการเริ่มฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ มากขึ้น ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า ในปี 2563 เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวร้อยละ 3.3 หรือ ร้อยละ 2.8 สำหรับการขยายตัวเศรษฐกิจของไทย ยังคงมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่แนวโน้มเศรษฐกิจไทย จะดีขึ้นตามเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ด้านการท่องเที่ยวของไทยขณะนี้แม้กำลังดีขึ้นก็กระทบจากโรคระบาดเช่นกัน 


นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ขณะนี้รัฐบาลได้เดินหน้าเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 โดยเฉพาะงบประมาณภายใต้โครงการโครงสร้างพื้นฐานสำคัญต่าง ๆ ที่มีกำหนดแล้วเสร็จและจะเปิดให้บริการในปี 2563-2564 ทั้งนี้ ขอให้ภาคเอกชนเดินหน้าลงทุนในช่วงเงินบาทแข็ง โดยใช้โอกาสนี้ ลงทุนปรับปรุงเครื่องจักรเพื่อให้นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อประโยชน์ในวันข้างหน้า แต่จะต้องลงทุนพอดีไม่มากเกินไป  นอกจากนี้ ขอให้ภาคอุตสาหกรรมพิจารณาเพิ่มเติมว่า ประชาชนจะได้อะไรบ้างจากการประกอบการของภาคอุตสาหกรรม เพื่อลดแรงกดดันระหว่างกันให้ดีขึ้น และเข้มแข็งไปด้วยกัน โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี มีผู้ที่อยู่ในห่วงโซ่กิจกรรมได้ประโยชน์ร่วมกันถึง 10 ล้านกว่าคนในแต่ละภาค 

นายกรัฐมนตรี ยังขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมจัดทำชุดมาตรการในลักษณะนโยบายแบบสั่งตัด (เทเลอร์เมด) ในการเดินหน้าปรับเปลี่ยนการผลิตของประเทศ จากที่ปัจจุบันผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ไปสู่การผลิตสินค้านวัตกรรม ส่วนการเดินหน้า รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์  หรือ E-government หลายอย่างเริ่มดีขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการเริ่มดำเนินการของรัฐบาลในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งภาครัฐและเอกชนจะต้องเชื่อมโยงระบบให้เป็นระบบเดียวกันให้ได้ในอนาคต 

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกองทุนต่าง ๆ ที่ขณะนี้ผู้ประกอบการไม่สามารถเข้าใช้ได้เต็มที่นักว่า เนื่องจากวางกติกาไว้เข้มงวด ซึ่งทางออกในเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรี เสนอให้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พิจารณาว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่สภาอุตสาหกรรมฯ จะเข้ามาค้ำประกันให้ ซึ่งฝั่งรัฐบาลจำเป็นต้องหามาตรการใหม่ ๆ ที่อยู่ในกรอบของกฎหมายเข้ามาดูแลช่วยเหลือ 


ด้านกรมบัญชีกลางจะต้องปรับวิธีการ ซึ่งได้สั่งการไปแล้ว ว่า กติกาเดียวกันใช้ตรวจทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะกติกาเดียวไม่สามารถขับเคลื่อนในภาพรวมทั้งหมดได้ จะสามารถแยกประเภทและธุรกิจได้หรือไม่  “ถ้าทำด้วยกติกาเดิม ตั้งแต่การลงทุน การใช้จ่ายเงินและการตรวจสอบ อันเดียวกันทั้งหมด มันคือปัญหาหมด แก้ได้ยากพอควร แม้การตรวจสอบในองค์กรของรัฐเอง การตรวจสอบองค์กรอิสระ ซึ่งรัฐบาลถูกตรวจสอบมาโดยตลอด มีการชี้แจงไม่เว้นแต่ละวัน ถ้าชี้แจงได้ก็ได้ ถ้าไม่ได้ก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น