โรงกษาปณ์ รังสิต 17 ก.ย. – กรมธนารักษ์จัดงาน 160 ปี โรงกระสาปน์สิทธิการ เชิญผู้ชื่นชอบเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกร่วมชมงาน เตรียมออกเหรียญพระคลังมหาสมบัติ เปิดของ ยอมรับสังคมไร้เงินสดใช้เหรียญน้อยลง เตรียมแผนผลิตเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนปี 64 จำนวน 1,200 ล้านเหรียญ
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ยอมรับว่าสังคมไร้เงินสด เริ่มใช้เหรียญใช้จ่ายลดลง จึงปรับแผนการผลิตเหรียญกษาปณ์ในปี 64 เหลือจำนวน 1,200 ล้านเหรียญ เพื่อใช้หมุนเวียนในระบบเพิ่ม จากเดิมต้องผลิตเติมในระบบ 1,800 -2,000 ล้านเหรียญต่อปี โดยมีเหรียญหมุนเวียนในระบบปัจจุบัน 35,000 ล้านเหรียญ เพื่อประหยัดงบการผลิตเหรียญ อีกทั้งต้องการรณรงค์ให้ประชาชน นำเศษเหรียญที่เก็บอยู่ในบ้าน ออกมาใช้จ่าย เพราะบางคนเก็บจนลืม รวมไปถึงการปรับแผนงานรับจ้างการผลิตเหรียญที่ระลึก เหรียญประเภทต่างให้กับหน่วยงานต่างๆ เพื่อสร้างรายได้เพิ่ม ปัจจุบันกรมธนารักษ์มีรายได้ส่งเข้าคลัง 1,600 ล้านบาท จึงต้องการเดินหน้ารับจ้างผลิตเหรียญให้กับประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มเติมด้วย
อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมธนารักษ์เตรียมผลิตเหรียญพระคลังมหาสมบัติ รุ่นที่ 3 เนื่องในโอกาสกรมธนารักษ์ครบรอบ 88 ปี เพื่อจำหน่ายแก่ประชาชนทั่วไป เตรียมเปิดให้จองผ่านกรมธนารักษ์จังหวัดทุกพื้นที่ทั่วประเทศในวันที่ 1 พ.ย. 2563 จากนั้น เตรียมนำส่งให้กับผู้จองในวันที่ 16 ธ.ค. 63 สำหรับแผนผลิตเหรียญพระคลังมหาสมบัติ 4 ชนิดราคา ประกอบด้วย เหรียญทองคำ จำนวน 888 เหรียญ ราคาหน้าเหรียญ 55,000 บาท ชนิดเหรียญเงิน จำนวน 8,888 เหรียญ ราคาหน้าเหรียญ 3,000 บาท เหรียญทองแดงผสมนิกเกิลจำนวน 888,888 เหรียญ ราคาเหรียญ 100 บาท และเหรียญทองแดงรมดำพ่นทราย ขนาด 7 ซม. จำนวน 38,888 บาท ราคาเหรียญ 3,000 บาท
เมื่อประชาชนสั่งจองและผลิตเหรียญรุ่นดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว จากนั้นทุกบล็อค ตีตราการผลิตเหรียญทิ้ง เพื่อให้มีจำนวนจำกัดตามรุ่นการผลิต โดยทุกเหรียญมีรหัสประจำเหรียญชัดเจน ตรวจสอบได้ทั้งหมด เพื่อป้องกันการปลอมแปลง และจะไม่นำผลิตเหรียญรุ่นดังกล่าวอีก เพื่อนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายไปดูแลสังคม และชนบท คาดว่ามีกำไรกว่า 150 ล้านบาท ในการจำหน่ายเหรียญรุ่นดังกล่าว เพราะได้ทำพิธีปลุกเสกจากเกจิอาจารย์ที่วัดหลวงโสธร จ.ฉะเชิงเทรา และการประกอบพิธีพราหณ์ เพราะเป็นเหรียญเหมาะสำหรับการบูชา เรียกเงิน ทอง เข้าบ้านเรือน เพื่อให้มีรายได้เพิ่ม
สำหรับการจัดงาน 160 ปี โรงกระสาปน์สิทธิการ เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ผู้ทรงริเริ่มให้มีการผลิตเหรียญกษาปณ์และใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าได้อย่างทัดเทียมกับนานาอารยประเทศ จึงได้กำหนดจัดงานในโอกาสครบรอบ 160 ปี โรงกระสาปน์สิทธิการ ขึ้นในระหว่างวันที่ 17-19 กันยายน 2563 ณ โรงกษาปณ์ รังสิต จังหวัดปทุมธานี ซึ่งภายในงานพบกับกิจกรรม
1. การจัดแสดงเหรียญกษาปณ์ เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก และเหรียญที่ระลึกของกรมธนารักษ์ และจาก สมาคมเหรียญกษาปณ์และพดด้วง สมาคมเหรียญที่ระลึกแห่งประเทศไทย สมาคมนักสะสมตราไปรษณียากรฯ ชมรมคนรักษ์เหรียญ และชมรมโค้กไทยคลับ
2. การเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้ เกี่ยวกับเหรียญกษาปณ์ในแต่ละยุคสมัย
3. การสาธิตกระบวนการผลิต การสร้างสรรค์ศิลปกรรมอันประณีตลงบนเหรียญอย่างสวยงามทรงคุณค่า
4. การจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก โลหะสีขาวประเภทธรรมดา ชนิดราคา 20 บาท จำนวน 10 เหรียญ ชุดละ 200 บาท จำกัดท่านละ 1 ชุด และการเปิดรับจองเหรียญที่ระลึก 160 ปี โรงกษาปณ์ไทย เป็นเหรียญรูป 10 เหลี่ยม ขนาดสูง 10 ซม. ชนิดเงินรมดำพ่นทรายพิเศษ 95% และชนิดทองแดงรมดำพ่นทรายพิเศษ 95% และเหรียญชุด 5 โรงกษาปณ์ (1 ชุด มี 5 แบบ/เหรียญ) เป็นเหรียญชนิดเงินรมดำพ่นทรายพิเศษ 95% และชนิดทองแดงรมดำพ่นทรายพิเศษ 95% โดยจำกัดท่านละ 1 ชุด และสามารถรับเหรียญ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป
นายยุทธนา กล่าวต่อว่า ผู้ที่มาร่วมงานจะได้รับถุงผ้าพร้อมโปสการ์ด 160 ปี โรงกระสาปน์สิทธิการ และเหรียญที่ระลึก 160 ปี โรงกษาปณ์ไทย เป็นเหรียญชนิดคิวโปรนิกเกิล ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 32 มม. ลักษณะพิเศษคือใช้รูปทรงกรอบเป็นลายดอกประจำยาม คล้ายรูปแบบเหรียญ 5 โรงกษาปณ์ ใช้วิธีปัดดวงตราให้เงาและพ่นทรายบางส่วน จำนวนวันละ 2,500 เหรียญ . – สำนักข่าวไทย