รัฐสภา 8 ก.ย. – นักเศรษฐศาสตร์ แนะปรับตัวรองรับ สงครามการค้า สู่สงครามเทคโนโลยี ระบุ โจ ไบเด้นท์ รื้อฟื้นกลุ่ม CPTPP คาดจีน สหรัฐ เข้าร่วมกลุ่มเศรษฐกิจใหม่ ธปท. ยอมรับกู้เงินเกินเพดานร้อยละ 60 หนี้สาธารณะต่อจีดีพี หากจำเป็นต้องแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจ
คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา จัดสัมนา “จากสงครามการค้า สู่สงครามเทคโนโลยี ถึงสงครามเย็น ..แล้วเราจะอยู่อย่างไร” นายอาร์ม ตั้งนิรันดร นักวิชาการประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ยุคสมัยใหม่มหาอำนาจโลกหันมาทำสงครามทางการค้า จึงทำให้ปัจจุบันจีนต้องการเน้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศ และหันมาสร้างพันธมิตรใหม่ เศรษฐกิจโลกยุคใหม่ จึงมีสองห่วงโซ่โดยจีน และห่วงโซ่เศรษฐกิจนำโดย สหรัฐ ประเทศขนาดเล็กจึงต้องเลือกว่าจะเกาะเกี่ยวห่วงโซ่ จีน หรือสหรัฐ ขณะที่พรรคเดโมแคตเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย เมื่อต้องการแก้ไขกับรัฐวิสาหกิจของจีน เมื่อคุมกฎหมายระหว่างประเทศผ่าน WTO ย่อมเสนอแก้ไขกฎหมายระหว่างประเทศ ผ่านการรวมตัวของกลุ่ม CPTPP เพราะสหรัฐมองว่า สุดท้ายจีนต้องเข้าร่วมเเพราะกลัวตกขบวน ขณะที่กลุ่ม WTO จะมีบทบาทลดลง
บรรดาที่ปรึกษาของโจ ไบเด้นท์ จากพรรคเดโมแคตของสหรัฐ บางส่วนอาจไม่ชอบจีนด้วย แต่ยังต้องเกาะเกี่ยวจีน อาจตั้งกฎเกณฑ์คุมบริษัทบริษัทจากจีน เพื่ออ้างเรื่องความมั่นคง แต่ไม่ถึงกับต้องแบนด์บริษัทจากจีนทั้งหมดเหมือนกับทรัมป์ เนื่องจากโพล์ความเห็นของสหรัฐร้อยละ 60 มองว่าจีนเป็นภัยคุกคามเศรษฐกิจในสหรัฐ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนและสหรัฐ จึงได้มุ่งเน้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านแพล็ทฟอร์มออนไลน์ทั้ง Tik Tok , facebook , Line และสื่อโซเชียลอื่นๆ
นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหาภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า จีนเพิ่มการลงทุนโดยตรงในประเทศไทย การผลิตยางและพลาสติก อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมเป้าหมาย จึงทำให้การส่งออกของไทยไปสหรัฐสูงขึ้น สำหรับการเลือกตั้งของสหรัฐในช่วงสิ้นปีนี้ หาก โจ ไบเด้นท์ มีคำแนะนำ จะทำให้ปัญหาสงครามการค้าจีน-สหรัฐลดน้อยลง และอาจสานต่อนโยบายของโอบาม่า เพื่อสานต่อกลุ่มประเทศ CPTPP เพื่อร่วมกลุ่มเศรษฐกิจอีกครั้ง สำหรับไทย ซึ่งกำลังศึกษาการเข้าร่วม หากสหรัฐกลับมาเข้าร่วม CPTPP ไทยต้องเร่งตัดสินใจไม่งั้นจะตกขบวนของกลุ่มเศรษฐกิจโลก แต่หากเจรจาแล้วผลเสียมากกว่าได้ก็ไม่ต้องเข้าร่วม
ปัจจุบันไทยมีสัดส่วนเทคโนโลยีจากจีนไม่สูงมากนัก มีเพียงฮาร์ดดิสไดฟ์ สำหรับแนวโน้มอนาคต เทคโนโลยีของโลก จะแบ่งข้างออกเป็นสองขั้ว คือสินค้า มือถือ ไอที คอมพิเตอร์ ฮาร์ดแวย์ จากจีนและสหรัฐจึงเริ่มกีดกันทางการค้าในหลายรูปแบบ เพราะปัจจุบันต้องค้าขายผ่านออนไลน์ แพล็ทฟอร์มขนาดใหญ่ จึงทำให้ผู้ใช้เทคโนโลยี ต้องเลือกใช้อย่างไร ระหว่างเทคโนโลยีจากจีน หรือสหรัฐ การค้าโลก คงไม่สดใสเหมือนในอดีต การส่งออกคงไม่ใช่เป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนหลักเหมือนในอดีต
สำหรับการดูแลเศรษฐกิจในประเทศของไทย ยอมรับว่า อัตราดอกเบี้ยในประเทศได้ลดลงมามากแล้ว อาจลดลงได้อีกหากจำเป็น แต่ กนง. มีความเป็นห่วงมาตรการสินเชื่อซอฟท์โลน วงเงิน 5 แสนล้านบาท แต่ปล่อยออกไปได้เพียง 1 แสนล้านบาท จึงต้องหารือในการปรับเปลี่ยนเงื่อนไข ทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ให้ยาวขึ้น จึงทยอยปรับเเครื่องมือทางการเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการผ่านสถาบันการเงิน สำหรับนโยบายทางการคลัง การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ยอมรับ พ.ร.บ.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ทั้งเยียวยาและฟื้นฟู วงเงิน 4 แสนล้านบาท ยังอนุมัติไม่สูงนัก สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีร้อยละ 60 ถือว่า รัฐบาลยังสามารถกู้เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติครั้งนี้ไม่รู้ว่าจบเมื่อไร หากมีความจำเป็นต้องให้เกินเพดานได้ โดยต้องใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ให้เกิดปัญหาตามมา
นายสมประวิณ มันประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ปัญหาสงครามการค้า จีน-สหรัฐ สุกงอมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี ดังนั้นการทำธุรกิจยุคใหม่ หากเก่งด้านใด ให้ผลิตด้านนั้น เช่น ผลิตล้อยาง ชิ้นส่วน ตัวถัง อิเล็คทรอนิกส์ จากนั้นค่อยนำมาประกอบร่วมกันเพื่อผลิตรถหนึ่งคัน ปัจจุบันประเทศเกิดใหม่หรือประเทศที่สาม เมื่อรวมกันแล้วทั่วโลก กลับเป็นกลุ่มประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก มีความต้องการสินค้าสูงมากที่สุด การค้า การลงทุน จึงมุ่งมายังประเทศเกิดใหม่ เพราะมีกำลังซื้อ มีความต้องการสินค้าสูง เช่น จากประเทศเอเชีย การค้า การลงทุนจึงเริ่มหันมายังกลุ่มประเทศเกิดใหม่ . – สำนักข่าวไทย