ไทยร่วมมือ FAO พัฒนาเกษตรยั่งยืน ผลิตอาหารปลอดภัย

กรุงเทพฯ  3 ก.ย.- รมว.เกษตรฯ กล่าวถ้อยแถลงในการประชุม FAO สมัยที่ 35 พร้อมร่วมมือพัฒนาเกษตรยั่งยืนและระบบอาหารปลอดภัยตลอดห่วงโซ่การผลิต ซึ่งเป็นความท้าทายใหม่ หลังสถานการณ์โควิด-18


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการประชุมสมัชชาเอฟเอโอ ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก สมัยที่ 35 ระดับรัฐมนตรี ในรูปแบบออนไลน์  ระหว่างวันที่ 3 – 4 กันยายน 2563 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกล่าวถ้อยแถลงในวาระประเด็นที่ประเทศสมาชิกและภูมิภาคให้ความสำคัญ ซึ่งไทยเน้นย้ำ 6 ประเด็น ประกอบด้วย ผลกระทบจากโควิด-19 ต่อห่วงโซ่อาหาร ตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงบริโภค ความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลที่จะช่วยพัฒนาระบบอาหารและการเกษตรเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี โดยประเทศไทยได้จัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีการเกษตรและนวัตกรรม 77 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเชื่อมโยงเกษตรกรและผู้ผลิตกับสถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัย มุ่งพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตร “โครงการยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์” เพื่อสนับสนุนเกษตรกรรุ่นใหม่ นโยบาย “Four Quick Win” เพื่อปฏิรูปภาคเกษตรใน 4 แผนงาน สนับสนุนการพัฒนาการประมงอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและดิน ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาระบบอาหารและการเกษตรอย่างยั่งยืน

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ถึงเวลาที่ทั่วโลกจะต้องปรับเปลี่ยนระบบอาหาร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าเกษตรกรและผู้ผลิตสามารถผลิตอาหารที่ปลอดภัย มีมาตรฐาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขณะที่ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการได้ ปัจจุบันภาคการเกษตรของไทยให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ โดยจัดการฝึกอบรมให้เกษตรกรรุ่นใหม่มีความรู้ในการดำเนินธุรกิจเกษตร นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้วางแผนในการผลิตและการตลาดให้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงของโลก


นอกจากนี้ ไทยยังพัฒนาการประมงอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ ต่อต้านการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ไร้การรายงาน และไร้การควบคุม (IUU Fishing) เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรในท้องทะเลให้คงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ ขณะเดียวกันให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและดินเพื่อให้มีการนำไปใช้อย่างมีคุณค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด  โดยไทยร่วมกับ FAO และสมัชชาความร่วมมือทรัพยากรดินโลก (GSP) และเชิญชวนประเทศสมาชิก สถาบัน มหาวิทยาลัย หน่วยงานเอกชน หรือหน่วยงานอื่น ๆ ส่งผลงานการจัดกิจกรรมวันดินโลก วันที่ 5 ธันวาคมนี้ ซึ่งเป็นวันดินโลกประจำปี 2563 เพื่อรับรางวัลเหรียญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล วันดินโลก

ที่สำคัญประเทศไทยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อมุ่งขจัดความยากจน ยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ปฏิรูปภาคเกษตร เสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการ และความปลอดภัยของอาหาร เพื่อทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทยดียิ่งขึ้น ตามวิสัยทัศน์ของประเทศไทย ที่จะพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

“ไทยพร้อมที่จะพัฒนาระบบอาหารและการเกษตรไปสู่ความยั่งยืน ยินดีสนับสนุนความร่วมมือกับ FAO และประเทศสมาชิก ผ่านโครงการความร่วมมือ South-South Cooperation และ Hand-in-Hand Initiative เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน” นายเฉลิมชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนยังเผชิญพายุฤดูร้อน ฝนตก-ลมแรง

กทม. 12 พ.ค.- กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยา เผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ มีข้อจำกัดในการระบายน้ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ เนื่องจากการระบายน้ำอาจทำได้ไม่สะดวก และไม่ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทย และทะเลจีนใต้เข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้: การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณประเทศไทยตอนบน อยู่ในเกณฑ์น้อยถึงปานกลาง โดยมีแนวโน้มลดลงหรือคงที่ เนื่องจากยังคงมีฝนตกหลายพื้นที่ในบริเวณดังกล่าว .-สำนักข่าวไทย

เร่งคุมเพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ กลุ่มควันพวยพุ่ง

ลาดกระบัง 12 พ.ค.- ระดมกำลังเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง ล่าสุดยังมีกลุ่มควันจำนวนมาก คาดความเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อเวลา 16.24 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมถนนฉลองกรุง ขนานข้างเป็นแนวยาวติดกับแนวซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นโรงงาน 2 ชั้น แนวราบยาวจากพื้นดิน ยกพื้นสูงเป็นชั้นลอย โดยทำห้องใต้ดินไว้เก็บของและวัสดุอุปกรณ์ รวมถึงตัวสินค้า หากเข้ามาในซอยฉลองกรุง 55 จะเป็นพื้นกำแพงของตัวโรงงานอยู่ด้านขวามือ จุดต้นเพลิง ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เข้าไปผจญเหตุ เล่าว่า อยู่บริเวณชั้นใต้ดิน หลังจากเกิดเหตุไม่สามารถที่จะลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูงต้องใช้อุปกรณ์และเครื่องมือพิเศษรวมถึงหน้ากากออกซิเจน ในการเข้าไป โดยจะเห็นได้ว่าตามช่องต่างๆ (ช่องกำแพง ช่องท่อ ช่องประตู) ก็จะมีกลุ่มควันนั้นลอยขึ้น และออกมาด้านนอก มูลค่าความเสียหาย เบื้องต้น ยังไม่สามารถประเมินค่าได้ ต้องรอให้เหตุการณ์สงบลง ทางศูนย์บัญชาการเหตุการณ์เขตลาดกระบัง ร่วมกับ สน.ฉลองกรุง ซึ่งเป็นพื้นที่เขตความรับผิดชอบ ก็จะมีการเรียกพูดคุย และสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดเหตุในครั้งนี้ รวมถึงการประเมินมูลค่าทรัพย์สินความเสียหาย โดยตอนนี้ทางเจ้าของโรงงานได้ทราบเรื่องแล้ว ทางด้าน กรุงเทพมหานคร […]

“อัศนี” ประกาศชัยชนะนายกเล็กเชียงใหม่ หลังนับคะแนนผ่านไป 78%

เชียงใหม่ 11 พ.ค. – “อัศนี บูรณุปกรณ์” ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย ประกาศชัยชนะ หลังนับคะแนนผ่านไปกว่า 78% ทิ้งห่างคู่แข่งจากพรรคประชาชน 4,000 คะแนน นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สนับสนุน ต่างปรบมือแสดงความดีใจ หลังการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผ่านไปเกินร้อยละ 78 ได้คะแนนกว่า 17,000 คะแนน ทิ้งห่างนายธีรวุฒิ แก้วฟอง จากพรรคประชาชน กว่า 4,000 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ โดยขอบคุณทุกคะแนนเสียง รวมทั้งพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าชัยชนะครั้งนี้มาจากความใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ ยืนยันเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ไม่ใช่เก้าอี้ที่สืบทอดของบ้านใหญ่บูรณุปกรณ์ แต่มาจากการทำงานใกล้ชิดประชาชนจนมีความเชื่อมั่น ยืนยันพร้อมเดินหน้านโยบายเร่งด่วนใน 100 วันแรก เร่งป้องกันปัญหาน้ำท่วม เพราะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เมื่อถามว่า หนักใจกับการถูกร้องเรียนหลังเลือกตั้งหรือไม่ นายอัศนี ยืนยันว่า ทีมงานของตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพร้อมจะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป.-713-สำนักข่าวไทย

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย