ซีไอเอ็มบีไทยคาดจีดีพีปีนี้ติดลบ 8.9%

กรุงเทพฯ 5 ส.ค. – ซีไอเอ็มบีไทยมองจีดีพีทั้งปีติดลบ 8.9% เชื่อเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้วไตรมาส 2 ที่คาดว่าติดลบลงลึกถึง 14% หวังการใช้จ่ายงบฟื้นฟู 4 แสนล้าน และงบปี 64 ไม่สะดุด เพราะเป็นตัวขับเคลื่อนเดียวของเศรษฐกิจขณะนี้


นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย คาดเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 จะติดลบ 14% ซึ่งติดลบลึกกว่าไตรมาส 2 ในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งที่ติดลบ 12.3% อย่างไรก็ตามแม้เศรษฐกิจจะผ่านจุดต่ำสุดไตรมาส 2 แล้ว และเริ่มกลับมาฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปไตรมาส 3 และ 4 แต่ยังอยู่ระดับติดลบ โดยไตรมาส 3 คาดจะยังคงติดลบระดับ 10% และทั้งปีติดลบ 8.9% เนื่องจากการส่งออกและท่องเที่ยวยังติดลบ มีเพียงการใช้จ่ายภาครัฐตัวเดียวที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจขณะนี้ จึงมองเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวลักษณะตัวยู พร้อมคาดหวังการใช้จ่ายภาครัฐโดยเฉพาะงบฟื้นฟู 400,000 ล้านบาท และงบปี 2564 จะไม่สะดุด ขณะที่ทิศทางอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงที่เหลือของปีมองกรอบ 31.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ เชื่อว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั้งปีไว้ที่ 0.5% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยปรับลดเร็วกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคและอยู่ในระดับที่ต่ำแล้ว หากจำเป็นต้องใช้นโยบายทางการเงิน มองว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะใช้เครื่องมืออื่นแทน เช่น ลดเงินนำส่งเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน หรือ FIDF และเน้นไปที่การอัดฉีดซอฟท์โลนเข้าสู่ระบบ รวมทั้งการดูแลอัตราแลกเปลี่ยนให้สอดคล้องกับภูมิภาค ทั้งนี้ อีกหนึ่งโจทย์ใหญ่ของผู้ว่าฯแบงก์ชาติคนใหม่ คือ การดูแลลูกหนี้หลังมาตรการพักชำระหนี้จะสิ้นสุดเดือนตุลาคมนี้


ขณะที่เสถียรภาพของรัฐบาล ยอมรับว่าการปรับ ครม.ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของภาคเอกชนระยะสั้น และเมื่อมีความชัดเจนเชื่อว่าจะมีการสานต่อนโยบายโดยเฉพาะการลงทุนขนาดใหญ่ เช่น เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ส่วนปัจจัยเสี่ยงช่วงที่เหลือของปี คือ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐไม่ว่าผลการเลือกตั้งสหรัฐจะออกมาในทิศทางไหน สงครามการค้าระหว่าง2 ประเทศจะยังคงอยู่ แต่จะไม่เร่งแรง และยังส่งผลดีต่อการย้ายฐานการลงทุนออกจากจีนมายังอาเซียน ซึ่งขึ้นอยู่กับไทยว่าจะสามารถดึงดูดการลงทุนได้มากน้อยแค่ไหน

ด้านนายพรชัย ปัทมินทร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บรรษัทธุรกิจและวาณิชธนกิจธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ระบุว่า ภาพรวมของสินเชื่อของธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ครึ่งปีแรกจะขยายตัว 3-4% จากการปล่อยสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องของผู้ประกอบการ ขณะที่ครึ่งปีหลังคาดจะขยายตัวได้ใกล้เคียงกับช่วงครึ่งปีแรก จากการขอสินเชื่อเพื่อลงทุนต่อเนื่อง พร้อมกันนี้มองการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นโอกาสของประเทศในกลุ่มอาเซียนที่แสดงให้เห็นจากประสิทธิภาพในการควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีและเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ทำให้อาเซียนมีศักยภาพที่จะดันตัวเองให้ก้าวขึ้นมามีบทบาทในเศรษฐกิจโลกได้มากขึ้น

นอกจากนี้ เริ่มเห็นแนวโน้มธุรกิจขนาดกลางจับมือกัน เพื่อความอยู่รอดมากขึ้น จึงเป็นโอกาสของบริษัทใหญ่ในไทยที่มีความพร้อมอาศัยจังหวะนี้ในการซื้อกิจการ เพื่อขยายฐานธุรกิจของตนเองออกไปในภูมิภาคอาเซียน .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา