ซีไอเอ็มบี ไทย หั่นจีดีพีปีนี้เหลือ 1.9% ห่วงไวรัสสายพันธุ์ใหม่ฉุดรั้งการบริโภค

กรุงเทพฯ 27 พ.ค. – สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ห่วงไวรัสสายพันธุ์ใหม่ฉุดรั้งการบริโภค พร้อมปรับคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ลงจาก 2.2% เป็น 1.9%


นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า การเข้ามาระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ เช่น สายพันธุ์อินเดีย อาจส่งผลให้การแพร่ระบาดในประเทศรุนแรงและยืดเยื้อนานกว่าที่คาดไว้ คนระมัดระวังการเดินทาง และขาดความเชื่อมั่นในการใช้จ่าย จากเดิมคาดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะกลับมาเปิดและเร่งตัวระดับใกล้เคียงปกติในไตรมาส 3 อาจเลื่อนออกไปเป็นไตรมาส 4 ซึ่งจะฉุดรั้งให้การบริโภคภาคเอกชนอ่อนแอ ทางสำนักวิจัยฯ จึงได้ปรับคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ลงจาก 2.2% เป็น 1.9%


“นักเศรษฐศาสตร์เดินดินอย่างผมได้ออกไปซอกแซกตามร้านค้า พบว่าคนบางตา ร้านเปิดน้อยลง ลูกค้าก็น้อยลง จากการพูดคุยกับเจ้าของร้าน หลายร้านเลือกที่จะปิดร้าน เพราะขายแล้วขาดทุน ต้นทุนสำคัญคือ ค่าเช่าแผงขายของ ที่ผ่านมาเจ้าของใจดีลดค่าเช่าให้บางส่วน แต่หลังจากเปิดเมือง ค่าเช่ากลับไปเท่าเดิม แต่ยอดขายไม่ได้ขึ้นมาเท่าเดิม เพราะการเปิดเมืองยังมีเงื่อนไข และจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันทำให้คนยังกังวลไม่อยากออกจากบ้าน บางร้านปรับตัวโดยขายของออนไลน์ ประหยัดค่าเช่าแผงและค่าเดินทาง แต่ไม่ใช่ทุกร้านที่ปรับตัวขายออนไลน์ได้ ถ้าสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ ก็ไม่แน่ว่าจะกลับมาขายแผงเดิมได้ไหม เพราะอาจไม่มีพื้นที่เหลือให้กลับมาขาย ดังนั้น ถ้าเราคุมการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ไม่ได้ ปัญหาจะยิ่งลากยาวไปอีก” นายอมรเทพ กล่าว



ทั้งนี้ รัฐบาลสามารถเร่งการใช้จ่ายและการลงทุนได้มากขึ้นผ่าน พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้าน เราคาดหวังมาตรการพยุงกำลังซื้อของประชาชนที่มีรายได้น้อย ผ่านเงินโอนโครงการต่างๆ ขณะที่มาตรการกระตุ้นกลุ่มคนรายได้ระดับกลาง-บนที่อาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบต่อรายได้มากนัก แต่ไม่กล้าใช้เงิน เพราะขาดความเชื่อมั่น แต่หลังจากประชาชนทยอยได้รับวัคซีน และจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันลดลงอย่างชัดเจนแล้ว เราคาดหวังจะเห็นมาตรการกระตุ้นการบริโภคจากคนกลุ่มนี้ และเมื่อผู้บริโภคคลายความกังวล มีความเชื่อมั่นที่จะจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการ รวมถึงการเดินทางในประเทศ สำนักวิจัยฯ คาดว่าจะเห็นกิจกรรมเศรษฐกิจกลับมาช่วงไตรมาส 4 ปีนี้


อีกหนึ่งปัจจัยบวก คือ การส่งออก การฟื้นตัวของสหรัฐและจีนจะส่งผลให้การส่งออกไทยเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีนี้ โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าน่าจะขยายตัวสูงกว่า 16% ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน กลุ่มเคมีภัณท์ กลุ่มผลิตภัณท์ยางพารา และกลุ่มอาหารแปรรูป อย่างไรก็ดี ต้องเฝ้าจับตาว่า เชื้อไวรัสกลายพันธุ์จะไม่ลามไปยังสหรัฐและจีน เพราะจะเป็นผลลบต่อการส่งออกของไทย


ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยน่าจะขาดดุลสูงในช่วงไตรมาสที่ 2 จากการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบที่เร่งตัวแรงตามการส่งออก ประกอบกับรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติยังต่ำ อีกทั้งมีเงินโอนไปต่างประเทศมาก ดังนั้น ดุลบัญชีเดินสะพัดทั้งปีน่าจะเกินดุลในระดับที่ต่ำมาก ผู้เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยนควรระวังเงินบาทอาจอ่อนค่าทะลุ 32.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ช่วงครึ่งหลังของปี ตามความกังวลของความล่าช้าในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่ต่ำ ประกอบกับความผันผวนของตลาดทุนตามการถอนมาตรการ QE ในสหรัฐ อย่างไรก็ดี เงินบาทน่าจะกลับมาแข็งค่าเทียบดอลลาร์สหรัฐในปีหน้า ตามการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยที่มากขึ้น และตลาดทุนเริ่มรับรู้ข่าวและคลายความกังวลต่อมาตรการถอน QE ของสหรัฐ



นายอมรเทพ เปิดเผยว่า หากรัฐบาลสามารถจัดสรรและฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ตามแผนปีนี้ และวัคซีนมีประสิทธิภาพในการรับมือการระบาดได้ เศรษฐกิจไทยเร่งตัวอย่างชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 4 เป็นต้นไป จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปีหน้าขยายตัวได้สูงถึง 5.1% จากการบริโภคในประเทศที่เร่งตัวขึ้น ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับมาเร่งตัวแรงในปีหน้าเช่นกัน สำหรับการปรับประมาณการเศรษฐกิจรอบหน้า สำนักวิจัยจะพิจารณาปัจจัยสำคัญ 3 ประการ 1.แผนการกระจายฉีดวัคซีนและประสิทธิภาพของวัคซีนในการลดการติดเชื้อ เพื่อคาดการณ์ว่ารัฐบาลจะสามารถผ่อนคลายมาตรการจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อลดการระบาดในประเทศได้เร็วขึ้นกว่าไตรมาส 4 ได้หรือไม่ 2.แผนการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้มากขึ้น เพื่อฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวในประเทศได้หรือไม่ 3.การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐสามารถประคองกำลังซื้อและสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนและผู้บริโภคได้หรือไม่. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงในภาคอีสาน ส่วนบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน