กรุงเทพฯ 29 ก.ย.- กรมพัฒนาธุรกิจฯ MOU ร่วมกับคณะกรรมการกลางอิสลามฯ และ LINE MAN Wongnai ยกระดับร้านอาหารที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน “ฮาลาล” บนแพลตฟอร์มดิจิทัล เปิดตลาดใหม่กลุ่มลูกค้าชาวมุสลิมกำลังซื้อสูงทั้งชาวไทย-ต่างชาติ สร้างมาตรฐานความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจร้านอาหารไทยบนเวทีโลก
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริมและเผยแพร่ข้อมูลร้านอาหารที่ได้รับรองมาตรฐานฮาลาลผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และ LINE MAN Wongnai เพื่อเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันธุรกิจร้านอาหารฮาลาลไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล สร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารฮาลาลในประเทศไทยหากสามารถปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย รักษามาตรฐานคุณภาพ และสร้างสรรค์เมนูที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้ ก็จะสามารถสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืนได้
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในบทบาทของการส่งเสริมธุรกิจร้านอาหารในประเทศได้มองเห็นความสำคัญของการสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับร้านอาหารฮาลาล ซึ่งมาตรฐานฮาลาลเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าของร้านต้องตระหนักถึง ซึ่ง MOU ฉบับนี้จะมีสำนักงานคณะกรรมการกลางฯ มาร่วมตรวจสอบมาตรฐาน และได้ออกหนังสือรับรองเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคชาวมุสลิมและนักชิมไทยและต่างประเทศ ประกอบกับยังเปิดช่องทางการขายผ่านแพลตฟอร์มไลน์แมนที่จะทำให้ร้านอาหารฮาลาลเข้าถึงชาวมุสลิมได้ง่ายยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคด้วย โดยกรมฯ จะร่วมพัฒนาร้านอาหารฮาลาลที่มีเครื่องหมายรับรองให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเป็นมืออาชีพ พร้อมเผยแพร่ให้ร้านเป็นที่รู้จักในวงกว้าง รวมถึงช่วยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องให้เดินหน้าการพัฒนาร้านอาหารฮาลาลได้ครบทุกมิติ


ปี 2567 มีประชากรมุสลิมทั่วโลกกว่า 1,907 ล้านคน หรือ 23.5% ของประชากรโลก และในปี 2593 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2,761 ล้านคน ถือเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีศักยภาพสูง ขณะที่มูลค่าตลาดอาหารฮาลาลทั่วโลกเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งปี 2568 คาดว่าจะมีมูลค่าสูงกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะเติบโต แตะระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจฮาลาลเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมดาวรุ่งที่ผู้ประกอบการไทยควรเร่งใช้ประโยชน์ ดังนั้น อาหารฮาลาลไม่เพียงตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวมุสลิม แต่ยังเป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั่วไปที่ใส่ใจคุณภาพ ความสะอาด และมาตรฐานความปลอดภัยของอาหาร การได้รับมาตรฐานฮาลาล จึงเปรียบเสมือนตรารับรองคุณภาพที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจความน่าเชื่อถือให้กับร้านอาหาร และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันได้ทั้งในตลาดในประเทศและต่างประเทศ
พลตำรวจตรี สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การรับรองมาตรฐานฮาลาลไม่เพียงตอบสนองความต้องการด้านศาสนา แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความมั่นใจและเพิ่มมูลค่าให้แก่ธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจฮาลาลของไทย
นายยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai กล่าวว่า LINE MAN Wongnai ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มออนดีมานด์อันดับ 1 และข้อมูลร้านอาหารของไทย เรามุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมร้านอาหารของไทยในทุกมิติ ความร่วมมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยครั้งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยยกระดับผู้ประกอบการร้านอาหาร ฮาลาลไทยสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างเต็มศักยภาพ ปัจจุบันเรามีร้านอาหารมาตรฐานฮาลาลทั่วประเทศอยู่บนแพลตฟอร์มแล้วกว่าร้อยละ 70 และยังมีแผนขยายจำนวนร้านอาหารฮาลาลในพื้นที่บริการเดลิเวอรีทั้ง 77 จังหวัด เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคชาวมุสลิมได้มากขึ้น ความร่วมมือในครั้งนี้จึงไม่เพียงสร้างโอกาสใหม่ให้ผู้ประกอบการ แต่ยังสอดคล้องกับพันธกิจ Respect Everyone ของบริษัทที่มุ่งให้ผู้บริโภคทุกกลุ่มเข้าถึงอาหารที่ตรงกับความต้องการและวิถีชีวิตของคนไทย
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดหรือติดตามกิจกรรมที่กรมฯ จัดร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และ LINE MAN Wongnai ได้ที่กองธุรกิจบริการ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทรศัพท์หมายเลข 0 2547 5985 สายด่วน 1570 Facebook: กรมพัฒนาธุรกิจการค้า DBD และ www.dbd.go.th.-516-สำนักข่าวไทย