นนทบุรี 4 มิ.ย. – อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พร้อมร่วมมือ ปปง.เชื่อมโยงภารกิจสำคัญหยุดวงจรการฟอกเงิน และธุรกิจนอมินีในประเทศไทย โดยหารือใน 4 ประเด็น ได้แก่ การเชื่อมโยงข้อมูลนิติบุคคลหลังบ้านช่วยอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบที่รวดเร็ว การเผยแพร่ข้อมูลบุคคลที่ต้องพึงระวังของ ปปง. การเตรียมความพร้อมเพื่อดำเนินการตามตัวชี้วัด BO ตามแนวทางการประเมิน Business Ready (B-READY) ของธนาคารโลก และร่วมกันศึกษาวิเคราะห์และพิจารณาปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการฟอกเงินและนอมินีที่เข้มงวดขึ้น
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ประชุมหารือร่วมกับนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อหาแนวทางความร่วมมือในการเชื่อมโยงงานด้านการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคล ประกอบกับช่วยกันสร้างความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ถึงภารกิจของทั้ง 2 หน่วยงานให้แก่ประชาชนได้รับรู้
ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญของการประชุมมี 4 ประเด็นคือ 1) การเชื่อมโยงข้อมูลนิติบุคคลของกรมฯ ผ่านระบบ Web Services ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ปปง.สามารถเข้าถึงข้อมูลของนิติบุคคล พร้อมใช้งานได้รวดเร็ว นำไปสู่ความสะดวกในการตรวจสอบ การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินได้อย่างทันท่วงที 2) การประชาสัมพันธ์ข้อมูลของปปง. และสามารถตรวจสอบข้อมูลบุคคลที่ถูกกำหนดตามมาตรา 6 และมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. 2559 เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชนนำไปสู่การระมัดระวังในการทำธุรกิจป้องกันความเสียหายทางเศรษฐกิจในอนาคต
3) การทำงานร่วมกันเพื่อหามาตรการรองรับการปฏิบัติตามตัวชี้วัดเรื่องการแจ้งผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง (Beneficial Ownership: BO) ตามแนวทางของการประเมิน Business Ready (B-READY) ของธนาคารโลก ซึ่งตัวชี้วัดนี้ เป็นภารกิจที่เกี่ยวข้องกับทั้ง 2 หน่วยงาน การดำเนินงานร่วมกันตามตัวชี้วัดนี้จะส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายสำคัญและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนต่างชาติในการติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อทำธุรกิจในประเทศไทยได้อย่างโปร่งใสและรวดเร็ว และ 4) ร่วมกันปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบธุรกิจนอมินีเพื่อป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในประเทศไทย
นอกจากนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีความยินดีและพร้อมที่จะช่วยศึกษาวิเคราะห์และสนับสนุนการทำงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และหน่วยงานอื่นๆ ภายใต้กฎหมายและขอบเขตภารกิจของกรมฯ อย่างเต็มที่ ตลอดจนสร้างจิตสำนึกที่ดีแก่นิติบุคคลเพื่อป้องกันและตัดวงจรการฟอกเงินในประเทศไทยให้หมดไป ประกอบกับสร้างความตระหนักถึงความสำคัญในการทำธุรกิจอย่างสุจริต โดยใช้ช่องทางประชาสัมพันธ์ต่างๆ ของกรมฯ ด้วย. -514-สำนักข่าวไทย