เร่งกรมพัฒน์ฯ ดันนโยบายให้เร็วขึ้น

นนทบุรี 14 ส.ค. – รมช.พาณิชย์สั่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งแปลงนโยบายสู่ภาคปฏิบัติโดยเร็ว พร้อมสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจและผู้ประกอบการไทยทุกระดับ ชูร้านค้าโชห่วยเป็นพระเอกดันเศรษฐกิจท้องถิ่น


นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายและทิศทางการดำเนินงานให้แก่ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ โดยเน้นนโยบายหลัก 10 ข้อ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ในฐานะที่กำกับดูแลกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้สั่งการให้อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งแปลงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับกรมฯ สู่ภาคปฏิบัติให้เห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน โดยเน้นสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการไทยทุกระดับ ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่อยู่ในชุมชนต้องได้รับการดูแลและส่งเสริมให้มีความแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ นโยบายหลักที่เกี่ยวข้องกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประกอบด้วย 1.การให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจและประชาชน  2.การพัฒนาร้านค้าปลีกรายย่อย (โชห่วย) เพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจท้องถิ่น  3.การพัฒนาช่องทางการตลาดและรูปแบบการนำเสนอผลิตภัณฑ์ OTOP Select  และ 4.ส่งเสริมการสร้างและขยายธุรกิจด้วยระบบแฟรนไชส์ รวมถึงการสร้างผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ ซึ่งนโยบายหลักทั้ง 4 ข้อ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ดำเนินการแปลงนโยบายและกำหนดกรอบการปฏิบัติงานไว้ในเบื้องต้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


อย่างไรก็ตาม กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้นำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจและประชาชน โดยเฉพาะการจดทะเบียนธุรกิจและบริการข้อมูลธุรกิจที่เป็นภารกิจหลักของกรมฯ รวมทั้งพัฒนาระบบการให้บริการผ่านอิเล็กทรอนิกส์อย่างต่อเนื่อง เช่น บริการออกหนังสือรับรองนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยเพิ่มช่องทางการให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้รับบริการ รวมถึงการออกหนังสือรับรองนิติบุคคลภาษาอังกฤษ การให้บริการนำส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) โดยสามารถดำเนินการนำส่งงบการเงินและสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นผ่านทางเว็บไซต์กรมฯ ทำให้ภาคธุรกิจสามารถใช้ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว เพื่อประโยชน์ในการตัดสินใจทางธุรกิจ รวมทั้งมีการปรับระบบรับงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ DBD e-Filing ให้รองรับชุดรหัสรายการทางบัญชี (TFRS9) เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดทำบัญชีระดับสากล

นอกจากนี้ การพัฒนาโชห่วย เพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจท้องถิ่น และสร้างแรงขับเคลื่อนไปถึงเศรษฐกิจของประเทศ โดยร่วมมือกับ 6 หน่วยงานพันธมิตรทั้งจากภาครัฐและเอกชน ได้แก่ บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย และสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย เพื่อให้ความรู้ การปรับภาพลักษณ์ร้านค้า จัดหาสินค้าราคาประหยัด และเชื่อมโยงสินค้าชุมชนเพื่อสร้างความแตกต่าง รวมทั้งสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีในการบริการจัดการ การใช้ข้อมูลสารสนเทศ และสินเชื่อเพื่อพัฒนาธุรกิจ โดยกำหนดเป้าหมาย 10,000 ราย

โดยพัฒนาช่องทางการตลาดและรูปแบบการนำเสนอผลิตภัณฑ์ OTOP Select ให้แก่ผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง โดยจะดำเนินการจัดกิจกรรมบ่มเพาะเชิงปฏิบัติการสู่การเป็นผู้ประกอบการชุมชนมืออาชีพ และให้คำปรึกษาแนะนำด้านผลิตภัณฑ์และจัดทำต้นแบบผลิตภัณฑ์โดยผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ ได้ส่งเสริมการตลาดโดยนำผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP เช่น งาน OTOP City ฯลฯ เป็นต้น พัฒนาศักยภาพ/ยกระดับการตลาดผลิตภัณฑ์ฐานราก OTOP ไทยสู่สากล โดยร่วมกับบริษัท คิง เพาเวอร์ แท็กซ์ฟรี จำกัด คัดเลือกสินค้า OTOP เพื่อจำหน่ายร้าน OTOP STORE ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานดอนเมือง โดยมูลค่าการจำหน่ายสินค้าที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนมกราคม 2557 – พฤษภาคม 2562 จาก 3 ท่าอากาศยาน รวมทั้งสิ้น 506.69 ล้านบาท


ทั้งนี้ ยังได้มีการส่งเสริมการสร้างและขยายธุรกิจด้วยระบบแฟรนไชส์ สร้างผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ รวมถึงพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ให้มีระบบบริหารจัดการที่มีมาตรฐานเป็นที่น่าเชื่อถือ เพื่อสร้างความยั่งยืนของธุรกิจและความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุน สร้างโอกาสทางการตลาดธุรกิจแฟรนไชส์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จัดกิจกรรมนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจที่สำคัญ รวมทั้งเสริมสร้างองค์ความรู้การดำเนินธุรกิจในตลาดระหว่างประเทศ นำผู้ประกอบธุรกิจเข้าร่วมงานแสดงธุรกิจ (Exhibition) และจัดกิจกรรม Business Networking เชื่อมโยงหน่วยงาน เพื่อส่งเสริมการตลาดระหว่างประเทศ เช่น กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ Exim Bank ปัจจุบันมีธุรกิจแฟรนไชส์ประสบความสำเร็จสามารถขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ 32 ธุรกิจ ใน 32 ประเทศ โดยจะให้กรมฯ เร่งนำไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนโดยเร็ว รวมทั้งต้องเร่งสร้างพัฒนาศักยภาพแก่ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการไทยทุกระดับ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจท้องถิ่น และเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ ส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีและเครือข่ายออนไลน์มาช่วยบริหารจัดการธุรกิจ อำนวยความสะดวก และขยายช่องทางการตลาด (e-Commerce) เพื่อสามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด ซึ่งเชื่อมั่นว่า หากภาคธุรกิจและผู้ประกอบการไทยมีความเข้มแข็ง ก็จะส่งผลถึงความมั่นคงของเศรษฐกิจประเทศด้วยเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]