เร่งกรมพัฒน์ฯ ดันนโยบายให้เร็วขึ้น

นนทบุรี 14 ส.ค. – รมช.พาณิชย์สั่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งแปลงนโยบายสู่ภาคปฏิบัติโดยเร็ว พร้อมสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจและผู้ประกอบการไทยทุกระดับ ชูร้านค้าโชห่วยเป็นพระเอกดันเศรษฐกิจท้องถิ่น


นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายและทิศทางการดำเนินงานให้แก่ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ โดยเน้นนโยบายหลัก 10 ข้อ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ในฐานะที่กำกับดูแลกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้สั่งการให้อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งแปลงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับกรมฯ สู่ภาคปฏิบัติให้เห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน โดยเน้นสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการไทยทุกระดับ ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่อยู่ในชุมชนต้องได้รับการดูแลและส่งเสริมให้มีความแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ นโยบายหลักที่เกี่ยวข้องกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประกอบด้วย 1.การให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจและประชาชน  2.การพัฒนาร้านค้าปลีกรายย่อย (โชห่วย) เพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจท้องถิ่น  3.การพัฒนาช่องทางการตลาดและรูปแบบการนำเสนอผลิตภัณฑ์ OTOP Select  และ 4.ส่งเสริมการสร้างและขยายธุรกิจด้วยระบบแฟรนไชส์ รวมถึงการสร้างผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ ซึ่งนโยบายหลักทั้ง 4 ข้อ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ดำเนินการแปลงนโยบายและกำหนดกรอบการปฏิบัติงานไว้ในเบื้องต้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


อย่างไรก็ตาม กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้นำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจและประชาชน โดยเฉพาะการจดทะเบียนธุรกิจและบริการข้อมูลธุรกิจที่เป็นภารกิจหลักของกรมฯ รวมทั้งพัฒนาระบบการให้บริการผ่านอิเล็กทรอนิกส์อย่างต่อเนื่อง เช่น บริการออกหนังสือรับรองนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยเพิ่มช่องทางการให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้รับบริการ รวมถึงการออกหนังสือรับรองนิติบุคคลภาษาอังกฤษ การให้บริการนำส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) โดยสามารถดำเนินการนำส่งงบการเงินและสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นผ่านทางเว็บไซต์กรมฯ ทำให้ภาคธุรกิจสามารถใช้ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว เพื่อประโยชน์ในการตัดสินใจทางธุรกิจ รวมทั้งมีการปรับระบบรับงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ DBD e-Filing ให้รองรับชุดรหัสรายการทางบัญชี (TFRS9) เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดทำบัญชีระดับสากล

นอกจากนี้ การพัฒนาโชห่วย เพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจท้องถิ่น และสร้างแรงขับเคลื่อนไปถึงเศรษฐกิจของประเทศ โดยร่วมมือกับ 6 หน่วยงานพันธมิตรทั้งจากภาครัฐและเอกชน ได้แก่ บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย และสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย เพื่อให้ความรู้ การปรับภาพลักษณ์ร้านค้า จัดหาสินค้าราคาประหยัด และเชื่อมโยงสินค้าชุมชนเพื่อสร้างความแตกต่าง รวมทั้งสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีในการบริการจัดการ การใช้ข้อมูลสารสนเทศ และสินเชื่อเพื่อพัฒนาธุรกิจ โดยกำหนดเป้าหมาย 10,000 ราย

โดยพัฒนาช่องทางการตลาดและรูปแบบการนำเสนอผลิตภัณฑ์ OTOP Select ให้แก่ผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง โดยจะดำเนินการจัดกิจกรรมบ่มเพาะเชิงปฏิบัติการสู่การเป็นผู้ประกอบการชุมชนมืออาชีพ และให้คำปรึกษาแนะนำด้านผลิตภัณฑ์และจัดทำต้นแบบผลิตภัณฑ์โดยผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ ได้ส่งเสริมการตลาดโดยนำผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP เช่น งาน OTOP City ฯลฯ เป็นต้น พัฒนาศักยภาพ/ยกระดับการตลาดผลิตภัณฑ์ฐานราก OTOP ไทยสู่สากล โดยร่วมกับบริษัท คิง เพาเวอร์ แท็กซ์ฟรี จำกัด คัดเลือกสินค้า OTOP เพื่อจำหน่ายร้าน OTOP STORE ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานดอนเมือง โดยมูลค่าการจำหน่ายสินค้าที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนมกราคม 2557 – พฤษภาคม 2562 จาก 3 ท่าอากาศยาน รวมทั้งสิ้น 506.69 ล้านบาท


ทั้งนี้ ยังได้มีการส่งเสริมการสร้างและขยายธุรกิจด้วยระบบแฟรนไชส์ สร้างผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ รวมถึงพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ให้มีระบบบริหารจัดการที่มีมาตรฐานเป็นที่น่าเชื่อถือ เพื่อสร้างความยั่งยืนของธุรกิจและความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุน สร้างโอกาสทางการตลาดธุรกิจแฟรนไชส์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จัดกิจกรรมนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจที่สำคัญ รวมทั้งเสริมสร้างองค์ความรู้การดำเนินธุรกิจในตลาดระหว่างประเทศ นำผู้ประกอบธุรกิจเข้าร่วมงานแสดงธุรกิจ (Exhibition) และจัดกิจกรรม Business Networking เชื่อมโยงหน่วยงาน เพื่อส่งเสริมการตลาดระหว่างประเทศ เช่น กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ Exim Bank ปัจจุบันมีธุรกิจแฟรนไชส์ประสบความสำเร็จสามารถขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ 32 ธุรกิจ ใน 32 ประเทศ โดยจะให้กรมฯ เร่งนำไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนโดยเร็ว รวมทั้งต้องเร่งสร้างพัฒนาศักยภาพแก่ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการไทยทุกระดับ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจท้องถิ่น และเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ ส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีและเครือข่ายออนไลน์มาช่วยบริหารจัดการธุรกิจ อำนวยความสะดวก และขยายช่องทางการตลาด (e-Commerce) เพื่อสามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด ซึ่งเชื่อมั่นว่า หากภาคธุรกิจและผู้ประกอบการไทยมีความเข้มแข็ง ก็จะส่งผลถึงความมั่นคงของเศรษฐกิจประเทศด้วยเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แฟนนางงามแห่ต้อนรับ “โอปอล” กลับไทยสุดอบอุ่น

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – แฟนนางงามแห่รับ “โอปอล สุชาดา” Miss World 2025 กลับไทยสุดอบอุ่น ก่อนขึ้นรถแห่ฉลองทั่วกรุง “โอปอล” สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 เดินทางกลับถึงไทย ด้วยเที่ยวบิน TG603 ร่วมงาน ‘Home Coming 72nd Miss World 2025’ ท่ามกลางการต้อนรับสุดอบอุ่นจากแฟนนางงามแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ โอปอล กล่าวขอบคุณคนไทย และบอกว่ามงกุฎนี้เป็นของพวกเราทุกคน ตั้งเป้าใช้ตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือสังคม หลังจบพิธี โอปอลขึ้นรถโรลส์-รอยซ์เปิดประทุน โบกธงชาติไทย มุ่งหน้าท้องฟ้าจำลอง ร่วมขบวนแห่ฉลองชัยมิสเวิลด์คนแรกของประเทสไทยอย่างสมเกียรติ บรรยากาศที่ท้องฟ้าจำลองมีประชาชนมารอต้อนรับโอปอล บรรดาแฟนนางงามต่างแสดงสัญลักษณ์ด้วยการใส่ชุดสีฟ้า บางคนมีการทำมงกุฎ Miss World มาใส่ และทันทีที่รถของโอปอลเลี้ยวเข้ามายังท้องฟ้าจำลอง มีการโห่ร้องต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนแรงบันดาลใจในการทำรถขบวนแห่ของ Miss World 2025 นี้ นายธีรฉัตร อินถา ผู้ออกแบบขบวน ระบุว่า ได้มีการนำวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสากลและวัฒนธรรมไทย […]

ประชุม JBC วันแรกเป็นไปด้วยดี สองฝ่ายหารือตรงไปตรงมา

14 มิ.ย.- โฆษก กต. เผยการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก สำหรับการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ว่าตั้งแต่เมื่อเช้า หลังจากคณะผู้แทนไทยฯ ที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เรียกประชุมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้เรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อจะได้มีข้อสั่งการ นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุมเริ่มจากที่พบหารือระหว่างสองประธานไทย-กัมพูชา กลุ่มเล็ก จากนั้นได้เริ่มการประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิค ที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศ ขณะนี้การประชุมก็ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งช่วงบ่ายก็จะเป็นการหารือตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่นการพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าจะมีการประชุมไปจนถึงวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือกันตามวาระ ถือว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าคุย และปรับความคิดหากันด้วยดี ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดความ ตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น […]

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย