นนทบุรี 19 ม.ค. – DITP เดินหน้าขับเคลื่อนผลักดันส่งออกสินค้าอาหารฮาลาลสู่ตลาดโลก มั่นในสินค้าไทยต้องการของโลก
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตลาดอาหารฮาลาล (Halal Food) ในปัจจุบันถือเป็นตลาดหลักที่ทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรมุสลิมโลกที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 1.6 พันล้านคน
ในปี 2553 เป็น 2.8 พันล้านคนในปี 2593 ส่งผลให้ในอนาคตตลาดอาหารฮาลาลจะยิ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดดในกลุ่มผู้บริโภคทั้งที่เป็นมุสลิมและไม่ใช่มุสลิม และจากข้อมูลของ Salaam Gateway สถาบันวิจัยด้านเศรษฐกิจโลกอิสลาม ระบุปี 2561 ตลาดอาหารฮาลาลมีมูลค่า 1,369 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น ร้อยละ 17 ของค่าใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มทั่วโลก และคาดว่าในปี 2567 ตลาดอาหารฮาลาลจะมีมูลค่าถึง 1,972 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเฉลี่ย (CAGR) ปีละร้อยละ 6.3 เลยทีเดียว
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้เดินหน้าผลักดันและส่งเสริมการส่งออกสินค้าฮาลาลอย่างต่อเนื่อง ตามแผนยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” และแผนงานอาหารไทย อาหารโลก ในการมุ่งเน้นการส่งออกอาหารฮาลาล อาหารมังสวิรัติ และอาหารแนวใหม่ที่กำลังเป็นเทรนด์สำคัญของโลก เนื่องจากประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกอาหารที่มีศักยภาพในระดับชั้นนำของโลก โดยปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารฮาลาลรายใหญ่เป็นอันดับที่ 11 ของโลก ในปี 2562 ก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไทยมีมูลค่าส่งออกถึง 35,037 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น ร้อยละ 2.44 ของมูลค่าตลาดอาหารฮาลาลโลก
อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ 2564 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้มีแผนงานสำคัญในการส่งเสริมสินค้าฮาลาล อาทิ การอบรมให้ความรู้ผู้ประกอบการสินค้าฮาลาลเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ตลาดเป้าหมาย การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอาหารฮาลาล 5 จงหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อการค้าระหว่างประเทศ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าอาหารฮาลาลในห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์สโตร์ในตลาดภูมิภาคตะวันออกกลาง การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหาร Gulfood 2021 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 21 – 25 กุมภาพันธ์ 2564 รวมทั้งการพัฒนาฐานข้อมูลผู้ประกอบการฮาลาล และการส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าอาหารฮาลาลไทยในงานแสดงสินค้า THAIFEX –ANUGA ASIA และตลาดต่างประเทศ อาทิ กาตาร์ โอมาน จีน อาเซียนและอินเดียเพื่อยกระดับความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ จากความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ตลาดสินค้าฮาลาลมีแนวโน้มที่สดใสมากขึ้น โดยปัจจุบันภาครัฐได้ลงมติเห็นชอบวิสัยทัศน์และนโยบายการส่งเสริมสินค้าและผลิตผลเกษตรมาตรฐานฮาลาล โดยสอดคล้องกับแผนระดับชาติซึ่งเป็นทิศทางการพัฒนาประเทศ โดยมีแผนที่สําคัญ 3 แผน ประกอบด้วย 1. แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) 2. แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการเกษตร (พ.ศ. 2561 – 2580) และ 3. แผนพัฒนาการเกษตรในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 – 2564) ซึ่งกำหนดวิสัยทัศน์ให้ประเทศไทยเป็นประเทศผู้นําในการพัฒนา ผลิต และส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารที่ได้รับความเชื่อมั่นในระดับสากลสู่ตลาดโลกด้วยมาตรฐานฮาลาลไทย โดยใช้หลักศาสนา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมในปี 2570
นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสทางการค้าการส่งออกสินค้าฮาลาลไปยังกลุ่มตะวันออกกลาง (GCC) ที่เป็นตลาดขนาดใหญ่ประกอบด้วยจำนวนมุสลิมราว 396 ล้านคน (ร้อยละ 90 ของจำนวนประชากรทั้งหมดของกลุ่มประเทศ) โดยมีความต้องการในด้านสินค้าเกษตรและอาหารฮาลาลที่หลากหลาย รวมถึงอาหารแห้งและอาหารกระป๋อง พร้อมทั้งปลดล็อคการส่งออกสินค้าอาหารประเภทสัตว์ปีกแช่แข็ง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลอื่นๆ ของไทย จะทำให้สามารถส่งออกได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ตลาดอาหารฮาลาลไม่เพียงแต่เป็นตลาดของชาวมุสลิมที่เป็นตลาดหลัก ซึ่งมีมูลค่าสัดส่วนการใช้จ่ายในการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มทั่วโลกคิดเป็นอัตราส่วนราวร้อยละ 17 แต่ยังเป็นที่น่าสนใจในประเทศที่ไม่ใช่มุสลิม (Non-OIC) อีกหลายประเทศเนื่องจากมีอัตราประชากรมุสลิมที่เพิ่มสูงขึ้น หรือเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวของชาวมุสลิม เช่น อินเดีย จีน สิงคโปร์ และหรือแม้แต่ประเทศไทยเอง ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้นจะเห็นว่าตลาดอาหารฮาลาลโลกมีแนวโน้มจะเข้ามามีบทบาท ขยายขนาด และทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้ผู้ประกอบการควรเริ่มศึกษาข้อมูลทำความคุ้นเคยเพื่อรองรับการตลาดดังกล่าวในอนาคตได้ . – สำนักข่าวไทย